สุดอำมหิต! โรฮิงญา แฉเบื้องหลังขบวนการค้ามนุษย์

กรณีจนท.ตร.จับนายอานัว นายหน้าน้อยเครือข่ายเจ๊ใหญ่ถูก จนท.ตร.ภาค 9 จับกุมได้ภายในบ้านพัก ภายหลังถูกญาติโรฮิงญาแจ้งความกักขังหน่วงเหนี่ยว เรียกค่าไถ่ เป็นเหตุให้ผู้คุมนายอานัวทำร้ายนายกาซิมเสียชีวิตที่ ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา

ล่าสุด นายโชเซ่ อายุ 40 ปี น้าชาย นายกาซิม เปิดเผยว่า ตนและพวกถูก จนท.ตร.สั่งห้ามให้ข่าวแต่อย่างใด เนื่องจากจะทำให้ตัวเองเดือดร้อน เพราะคนพวกนี้เป็นคนมีเงินอาจมาทำร้ายพวกตนได้ เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องใหญ่มาก ระวังจะเดือดร้อน ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร โรฮิงญาก็เป็นคน ถูกรังเกียจจากพม่าแล้วมาถูกคนไทยทำร้ายอีก เรียกค่าไถ่เป็นเงินที่สูงมากๆ ญาติบางคนต้องเป็นหนี้กู้ยืมเงินมาตอนนี้ยังทำงานชดใช้ไม่หมด ตนได้โทรศัพท์ไปบอกญาติพี่น้องแล้วว่าอย่าหลบหนีมาโดยเด็ดขาด ตนก็บอกได้เพียงญาติจะบอกให้คนอื่นรู้ไม่ได้ ถูกนายหน้าที่พม่าข่มขู่เอาไว้จะทำร้ายหากเอาเรื่องนี้ไปบอกคนอื่นๆ หากนักข่าวอยากรู้ให้ไปสัมภาษณ์พยานได้ที่ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช

"นายหน้าที่พม่าพูดเก่ง หลอกว่าไปทำงานที่ประเทศมาเลเซียจะได้ค่าแรงเดือนละหลายแสนจ๊าต แบ่งมาให้ทางบ้านได้ครึ่งหนึ่งที่เหลือก็ทำงานชดใช้เป็นค่าแรง ค่าเดินทาง บางคนทำงาน 7 ปีแล้วยังใช้หนี้ไม่หมด ลองคิดดูว่าเป็นยอดเงินกี่หมื่น กี่แสน"

ต่อข้อถามก่อนหน้านี้มีข่าวว่า ตร.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช จับชาวโรฮิงญาได้เป็นของนายอานัวหรือไม่ว่า ตนได้สอบถามแล้ว คนขับรถทั้ง 4 คน จะนำไปส่งที่ จ.สงขลา แต่มาพลาดที่บางช่วงของถนนมีการตั้งด่าน เลยต้องหลบหนีมาใช้เส้นทางสายเก่า สุราษฎร์ธานี- นครศรีธรรมราช จนถูกตำรวจจับได้ชาวโรฮิงญาชุดนี้ก็เป็นของนายอานัวเหมือนกัน มีเป้าหมายไปส่งที่ปาดังเบซาร์

นายโซเซ่ กล่าวอีกว่า ผู้คุมโทร.มาข่มขู่ให้มาไถ่ตัวนายกาซิมกับเพื่อนนายกาซิม โดยให้ราคา 120,000 บาท แต่ต่อรองเหลือ 95,000 บาท แต่หากไถ่กาซิมคนเดียวจะไม่ให้ออกมา ตนกับญาติๆ จึงต้องนำวัวไปขาย จำนำสิ่งของ ได้เงินมาจึงโอนเข้าในบัญชีนางการีมะ ธนาคารกสิกรไทย สาขาบางกอกน้อย กทม. จนตนกับญาติไปแจ้งความนายฟายาสซึ่งเป็นเครือข่ายนายอานัวอยู่ที่ทานพอ จันดี อ.ฉวาง ได้แจ้งให้นายอานัวทราบ นายอานัวจึงส่งเพื่อนกาซิมไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย ส่วนนายกาซิมถูกฆ่าตาย นี่คือความจริงที่พวกเราต้องการบอกให้โลกรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกเราชาวโรฮิงญา

แหล่งข่าวรายหนึ่งเปิดเผยว่า ทุกครั้งที่มีการจับชาวโรฮิงญาก็จะมีนายหน้าออกมาเคลียร์ ครั้งล่าสุดที่ อ.หัวไทร มีนายหน้ามาจ่ายเงินให้กับล่าม 3 แสนบาท เพื่อให้แปรคำพูดผิดๆ ถูกๆ แต่โชคดีที่ล่ามเป็นคนดีเข้าใจการทำงาน จึงทำให้ทางตำรวจสามารถจับกุมผู้ร่วมขบวนการ จนนำไปสู่การขยายผลพบศพชาวโรฮิงญาที่ ต.บาดังเบซาร์ ในครั้งนี้

ทั้งนี้ มีรายงานข่าวว่าเมื่อวานนี้ ( 4 พ.ค.) มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากภาค 9 มาสอบปากคำเพิ่มเติมจากพยาน พร้อมทั้งกักตัวเอาไว้เพื่อความปลอดภัยของพยาน ขณะที่ พล.ต.ต.เกียรติพงศ์ ขาวสำอาง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริง เกี่ยวกับกระบวนการเครือข่ายค้ามนุษย์ที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งมอบหมายให้ พงส.ทำสำนวนให้รัดกุมเพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง