หนุ่มขับแจ๊สชนนักปั่นรัชดาตายมอบตัวอ้างหนีตั้งสติปัดเมา

ผกก.โคกคราม เผย หนุ่มขับฮอนด้าแจ๊ส ชนนักปั่นเสียชีวิต บริเวณด้านหน้าหมู่บ้านบางกอกบูเลอวาร์ด ถนนรัชดา-รามอินทรา เข้ามอบตัวแล้ว ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล อ้างหลบไปตั้งสติ ปัดเมา มีรถตัดหน้า เตรียมบวชให้ผู้ตาย

พ.ต.อ.กิตติเชษฐ์ ศักยภาพวิชานนท์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลโคกคราม เปิดเผย สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงความคืบหน้ากรณีรถเก๋งฮอนด้าแจ๊ส ชนนักปั่นจักรยานบริเวณด้านหน้าหมู่บ้านบางกอกบูเลอวาร์ด ถนนรัชดา-รามอินทรา จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ว่า ขณะนี้อยู่ในระหว่างหาชื่อคนขับที่แท้จริง เนื่องจากชื่อที่เช็กได้จากรถดังกล่าวนั้นไม่ได้เป็นผู้ครอบครองรถ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้รวบรวมหลักฐานจากกล้องวงจรปิด มีรูปถ่ายใบหน้าที่ชัดเจน เพื่อขอศาลมีนบุรีให้อนุมัติหมายจับและเร่งหาชื่อผู้ก่อเหตุดังกล่าว

นอกจากนี้ พ.ต.อ.กิตติเชษฐ์ ยืนยันว่า ใกล้รู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว รอเพียงศาลอนุมิติหมายจับและเจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมที่จะติดตามตัว เชื่อว่าอีกไม่นานสามรถจับกุมได้แน่ เนื่องจากสอบถามพยานที่ใกล้ชิดจนกระทั่งรู้กลุ่มอาชีพ ประวัติผู้ขับรถคนดังกล่าวแล้ว และคาดว่าประกอบอาชีพแต่งรถหรือในแวดวงนักซิ่ง

ล่าสุด พ.ต.อ.กิตติเชษฐ์ เปิดเผยว่า นายศรัณย์ อินทนิล อายุ 23 ปี คนขับรถพร้อมทนายความ ได้เดินทางเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล เบื้องต้น นายศรัณย์ ให้การรับสารภาพว่าขับรถชนจริงและที่ต้องหนีไปก่อน เนื่องจากเกรงว่าพ่อแม่จะเสียใจจึงต้องขับหลบหนี ก่อนที่จะสำนึกได้ จึงขอให้ทนายประสานพาเข้ามอบตัว พร้อมระบุจากการตรวจสอบ นายศรัณย์ ไม่ได้ดื่มสุราหรือของมึนเมาขณะขับรถแต่อย่างใด

ซึ่งขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างสอบปากคำก่อนแจ้งข้อหาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

หนุ่มขับแจ๊สชนนักปั่นดับรับเสียใจ เตรียมบวชให้ผู้ตาย

นายศรัณย์ อินทะนิล อายุ 23 ปี ผู้ต้องหาขับรถยนต์ฮอนด้า แจ๊ส สีดำ ทะเบียน 3 กฎ 8938 กรุงเทพมหานคร ชนกลุ่มผู้ขี่รถจักรยาน บริเวณถนนรัชดา-รามอินทรา เขตคันนายาว เมื่อคืนวันที่ 4 พฤษภาคมที่ผ่านมา ทำให้ น.ส.ธัญญกร เด่นสิริมงคล เสียชีวิต และมีผู้บาดเจ็บ 2 คน เดินทางมายังกองบัญชาการตำรวจนครบาล โดยได้กล่าวขอโทษและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมอ้างว่าวันเกิดเหตุ ได้ขับรถมากับรุ่นพี่ ยอมรับว่าก่อนเกิดเหตุจอดรถยนต์โทรศัพท์และทะเลาะกับแฟนจริง ก่อนขับรถด้วยความเร็ว 60-70 กิโลเมตร/ชั่วโมง และแซงทางโค้ง รถเกิดสะบัดและเกิดอุบัติเหตุขึ้น เมื่อลงจากรถเห็นมีผู้บาดเจ็บจึงลงไปกราบขอโทษและรอจนรถพยาบาลมา พร้อมยืนยันว่าไม่ได้ดื่มสุราและไม่มีเหตุทะเลาะกันภายในรถ 

ส่วนสาเหตุที่เพิ่งเข้ามามอบตัว เพราะได้ปรึกษากับครอบครัวก่อนและจากนี้จะเดินทางไปขอขมาผู้เสียชีวิต และจะบวชให้กับผู้เสียชีวิต ส่วนที่ไม่เข้าพบกับตำรวจทันทีหลังจากเกิดเหตุนั้น เพราะตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สำหรับรถยนต์คันที่เกิดเหตุเป็นรถยนต์ของรุ่นพี่ที่นั่งมาด้วย และไม่ใช่รถยนต์ที่ขโมยมาแต่อย่างใด

ขณะที่ พ.ต.อ.กิตติเชษฐ์ ศักยภาพวิชานนท์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลโคกคราม เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำกลุ่มผู้เสียหาย ระบุว่า ก่อนเกิดเหตุพบรถยนต์ของนายศรัณย์จอดอยู่ริมข้างทาง โดยกลุ่มผู้เสียหายขับผ่านไปห่างประมาณ 1 กิโลเมตร และต่อมารถยนต์ของนายศรัณย์ได้ขับมาเฉี่ยวชน และได้ลงมาสอบถามอาการและกล่าวขอโทษกลุ่มผู้เสียหาย แต่นายศรัณย์เข้าใจว่ากลุ่มผู้เสียหายไม่เป็นอะไรมากจึงขอตัวกลับบ้านไป

จากการตรวจสอบรถยนต์ พบว่าเป็นของอดีตสามีของผู้หญิงที่นั่งมากับนายศรัณย์จริง และได้มีการลงบันทึกประจำวันไว้ว่า มอบให้อดีตภรรยาใช้งาน จึงไม่ใช่รถยนต์ที่ขโมยมาตามที่ปรากฏเป็นข่าวแต่อย่างใด

เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาขับขี่รถยนต์จนทำให้เกิดอุบัติเหตุแล้วหลบหนี กับ ขับขี่รถยนต์โดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย