ผลสำรวจ ปี2551 พบชาวไทยใหญ่อพยพเข้าไทยนับพันคน
เจ้าหน้าที่องค์กรฯ ระบุว่า จากการให้สัมภาษณ์ของผู้อพยพทราบว่า ผู้อพยพส่วนใหญ่เดินทางมาจากภาคกลางและภาคใต้ของรัฐฉาน โดยข้ามชายแดนเข้ามาด้วยการเดินเท้าลัดเลาะมาตามป่าเขา เพื่อหลีกเลี่ยงด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ และมีบางส่วนเดินทางเข้ามากับนายหน้านำพาซึ่งมีรถยนต์และรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะรับส่งจากชายแดน เฉลี่ยค่าใช้จ่ายในการเดินทางของแต่ละคนไม่ต่ำกว่า 2 แสนจั๊ต หรือราว 5,000 บาท
ทั้งนี้ ผู้อพยพได้เผยถึงเหตุผลการเดินทางเข้ามาอยู่ในประเทศไทยว่า เพราะอยู่ในรัฐฉานไม่มีงานทำ หากมีงานก็ได้ค่าแรงถูกไม่พอดำรงชีวิต ที่แย่กว่านั้นคือถูกทหารพม่าบังคับใช้แรงงาน เช่น ทำการเกษตรตัดไม้ สร้างฐานประจำการ ทำถนน และบังคับให้ไปเป็นลูกหาบ อยู่เป็นประจำ อย่างไรก็ตาม ทางองค์กรฯ ดังกล่าว สามารถให้ความช่วยเหลือผู้อพยพได้ไม่มากนัก เนื่องจากผู้อพยพมีเป็นจำนวนมาก ซึ่งในส่วนของสิ่งของที่ทางองค์กรฯ สามารถช่วยเหลือได้มีเพียงข้าวสารและเสื้อผ้าเล็กน้อยเท่านั้น
ขณะที่นักวิเคราะห์เชื่อว่า ยอดผู้อพยพจากรัฐฉานในปี 2551 โดยรวมอาจมีมากถึงหลักหมื่น เพราะนอกจากสามอำเภอตามรายงานขององค์กรฯ ดังกล่าวแล้ว ยังมีช่องทางเข้ามาอีกหลายช่องทาง เช่น ทางด้านจังหวัดแม่ฮ่องสอน / จังหวัดเชียงราย และอีกหลายอำเภอของจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งในอนาคตยังมีแนวโน้มเพิ่มจำนวนมากขึ้น เหตุเนื่องการไร้เสถียรภาพในการปกครองประเทศของเผด็จการทหารพม่า