ร้องปวีณา พลทหารหึงโหดเผาแม่ทั้งเป็นต่อหน้าลูก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (14 พ.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี นายสราวุธ อายุ 31 ปี ผู้เป็นอาของ ด.ญ.เอ อายุ 14 ปี และ ด.ญ.บี อายุ 9 ปี พาหลานเข้าร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมต่อนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ กรณี น.ส.สินิทรา อายุ 34 ปี พี่สาว ผู้เป็นแม่ของเด็กทั้งสองคน ถูก พลทหารสุนัย อายุ 22 ปี สังกัดกองพันบริการ ศูนย์การทหารราบ ค่ายธนะรัตน์ ซึ่งเป็นแฟนหนุ่มเอาน้ำมันราดจุดไฟเผาทั้งเป็น

นายสราวุธ กล่าวว่า น.ส.สินิทรา เป็นพี่สาวของตนเอง ได้เลิกกับสามีและมีลูกสาว 2 คน อายุ 14 ปี กับ 9 ปี และเมื่อปี 2555 ได้คบหาเป็นแฟนกับพลทหารสุนัย ต่อมาพลทหารสุนัยถูกจับกุมในคดียาเสพติด ก่อนออกมามาเกณฑ์ทหาร ได้เป็นทหารเกณฑ์อยู่ที่ค่ายธนะรัตน์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อมีวันหยุดก็จะมาหาพี่สาวตนเป็นประจำ แต่ระยะหลังฝ่ายชายมักหึงหวง เกรงว่าฝ่ายหญิงจะไปมีคนอื่น และหาเรื่องทะเลาะมีปากเสียงกันทุกครั้ง

ก่อนเกิดเหตุเมื่อวันที่ 7 พ.ค. ก็ยังคุยกันดี ไม่มีทีท่าทะเลาะกันแต่อย่างใด โดยพลทหารสุนัยได้ขอนอนค้างที่ห้องรับแขก ขณะที่พี่สาวของตนนอนอยู่กับลูกสาวทั้งสองคน ในห้องนอนชั้นล่างนั้น เวลา 05.00 น. ของวันที่ 8 พ.ค. พลทหารสุนัยได้เข้ามาในห้องนอน และเอาน้ำมันเบนซินราดบนตัวพี่สาว ก่อนจุดไฟเผาทั้งเป็นต่อหน้าเด็กทั้งสองคน น้องสาวตนอีกคนที่นอนอยู่ชั้นบนได้ยินเสียงร้องของหลาน จึงรีบลงมาช่วยดับไฟและพาส่งรพ. ส่วนพลทหารสุนัยอาศัยช่วงชุลมุนขี่รถจยย.หลบหนีไป

นายสราวุธ กล่าวต่อว่า ด.ญ.เอ บอกว่าเห็นพลทหารสุนัย สูบน้ำมันออกจากรถจยย.ใส่ขวดไว้ตั้งแต่เย็นวันที่ 7 พ.ค. จนกระทั่งมาเกิดเรื่องดังกล่าวกับแม่ จึงได้มาเล่าให้ฟัง ส่วนอาการของพี่สาว แพทย์บอกว่าผิวหนัง บริเวณใบหน้า หน้าอก แขนขา ถูกไฟไหม้กว่า 40 เปอร์เซ็นต์ แผลลึกระดับ 3 อยู่ในขั้นวิกฤต อยู่ในห้อง ICU และต้องดูอาการวันต่อวัน จึงอยากขอความเป็นธรรมให้กับพี่สาวและครอบครัวตนด้วย เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องหลานสาว 2 คน ไม่กล้าที่จะนอนที่บ้าน มีอาการหวาดผวาตลอด เพราะเสียขวัญที่เห็นสภาพแม่ถูกเผาทั้งเป็น

ทั้งนี้ นางปวีณา ได้ประสาน พ.ต.อ.ณรงค์ ถัดทะพงษ์ ผกก.สภ.หนองค้างพลู เพื่อติดตามทางด้านคดี และขอให้เร่งจับกุมตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีโดยเร็ว โดย พ.ต.อ.ณรงค์ แจ้งว่า จะทำหนังสือไปยังศูนย์การทหารราบ ค่ายธนะรัชต์ เพื่อนำตัวพลทหารสุนัย มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป