"บิ๊กตู่"เปิดงาน“มิติใหม่การศึกษา”มองคนไทยยังไม่ปรองดอง ร้องแต่จะเอารธน.

"บิ๊กตู่"เปิดงาน“มิติใหม่การศึกษา”มองคนไทยยังไม่ปรองดอง ร้องแต่จะเอารธน.

"บิ๊กตู่"เปิดงาน“มิติใหม่การศึกษา”มองคนไทยยังไม่ปรองดอง ร้องแต่จะเอารธน.
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวว่า ประเทศไทยติดหล่มตัวเองมานานแล้ว และสิ่งที่จะทำให้แก้ไขได้คือการศึกษาที่จะต้องให้ทุกฝ่ายทั้งเอกชน มหาวิทยาลัย ผู้ประกอบการ มาช่วยรัฐบาลในการขับเคลื่อน โดยจะต้องจัดระบบใหม่ทั้งหมด

ทั้งนี้ การกระจายการศึกษาไปยังท้องถิ่นเป็นสิ่งที่ยังไม่ถึงเวลา เนื่องจากขณะนี้ยังไม่บุคลากรยังไม่มีความพร้อม ประเทศไทยไม่ควรเปลี่ยนแปลงเร็วโดยที่ยังไม่มีการแก้ปัญหา ซึ่งตนไม่ได้เข้ามาบังคับ เพียงแค่ดำเนินการให้เป็นไปตามได้สั่งการให้กระทรวงศึกษาธิการบูรณาการนำการศึกษาเรียนรู้ทางเทคโนโลยีร่วมกับการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม เพื่อแก้ไขปัญหาขาดแคลนครูและเข้าถึงพื้นที่ห่างไกล และขอให้ใช้ช่องทางนี้ในการกวดวิชา เพื่อลดค่าใช้จ่ายของนักเรียน

นายกรัฐมนตรี ระบุด้วยว่า การทำงานที่ผ่านมาอาจจะมีคนเกลียดบ้างรักบ้าง แต่ตนต้องทำ ไม่ได้ภูมิใจที่เข้ามา วันนี้เข้ามาในฐานะคนไทยคนหนึ่งที่ต้องสร้างประวัติศาสตร์ประเทศใหม่ นำสิ่งที่ไม่ดีในประวัติศาสตร์มาเป็นบทเรียนในการกำหนดอนาคตที่ดีกว่าเดิม แต่ขณะนี้มองว่าคนไทยยังไม่มีความร่วมมือกัน ไม่รู้ว่าจะมีการปฏิรูปได้เมื่อใด ประชาชนคิดจะเอาแต่รัฐธรรมนูญทั้งที่ไม่รู้ว่าจะออกมาอย่างไร ซึ่งตนคิดว่าขึ้นอยู่กับประชาชน

วันนี้รัฐบาลเข้ามาแก้ปัญหาความเดือดร้อนที่หมักหมมมานาน ก่อนหน้านี้เป็น คสช. และเป็นรัฐบาลมา 6 เดือน พอตั้งตัวได้ก็เริ่มเอน เพราะทุกกระทรวงมีปัญหาทั้งหมด แต่ก็ไม่เลวร้าย ที่เข้ามาไม่คิดว่าปัญหาจะเยอะขนาดนี้ แต่เชื่อว่าสามารถแก้ไขปัญหาได้หากทุกคนช่วยกัน และตนก็นำการบริหารแบบทหารมาใช้ โดยนำกฎหมายที่มีอยู่แล้วมาใช้อย่างจริงจัง และไม่เคยมีปัญหากับใครทั้งนั้น โดยเฉพาะสื่อที่จะต้องช่วยกัน สื่อไม่ใช้ศัตรู แต่ควรนำเสนอข่าวทั้งสองด้าน แบ่งเส้นระหว่างเสรีภาพกับสิทธิผลประโยชน์ของชาติให้ได้ แต่การจะเอากฎหมายมากำหนดเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก จึงต้องคำนึงถึงการอยู่ร่วมกันโดยไม่ขัดแย้ง

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังกล่าวด้วยว่า ตนเรียนไม่เก่ง วันนี้ก็ไม่เก่ง ที่พูดได้เพราะอ่านหนังสือ สมองหากไม่ใช้ก็จะหายไป จึงต้องเตรียมการเยาวชนรู้จักต่อยอดและคิดถึงประเทศ และพัฒนาคนในการประกอบอาชีพตั้งแต่มัธยมเพื่อรอบรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน

นายกรัฐมนตรี ระบุด้วยว่า อย่าดูอะไรที่เป็นบันเทิงเพียงอย่างเดียว วันนี้ตนสู้ละครไม่ได้ เพราะคนดูละครมากกว่า แต่ถ้าไม่ฟังตนบ้างก็จะไม่รู้ว่าประเทศกำลังไปทางไหน อย่าอินกับละครมากนัก แล้วต้องเอาประเทศชาติมาก่อน

"ทุกกระทรวงต้องเร่งทำงาน ไม่เช่นนั้นวันหน้าถูกไล่ถอนหงอกว่าได้ทำอะไรไปแล้ว ที่ผ่านมาหนึ่งปีหนังเป็นเพียงหนังตัวอย่าง มีทั้งดาวดีและดาวร้าย แต่ดาวร้ายอาจจะเยอะ เดี๋ยววันหน้าก็ต้องเสียเวลาคัดดาวดีอีก เสียเวลาคัดดารามาอีก แต่ต่อไปใครมาจะทำหนังแล้วแต่ท่าน เอาอะไรก็ว่ามา รัฐธรรมนูญเขียนไว้ แต่อยากบอกว่าผมไม่ได้อยากอยู่ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ อยากไป ไม่ได้ภาคภูมิใจแต่ดีใจที่ได้ทำงานให้กับประเทศชาติ" นายกรัฐมนตรี กล่าว

ทั้งนี้ งานดังกล่าวจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21-22 พ.ค.นี้ โดยภายในงานมีการจัดแสดงนิทรรศการ การเสวนา การแสดงและการสาธิตเกี่ยวกับการดำเนินงานในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา พัฒนาคุณภาพผู้เรียน พัฒนาคุณภาพครู และบุคลากรทางการศึกษา นอกจากนี้ยังมีการสัมมนาวิชาการในรูปแบบต่างๆ ด้วย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook