พ่อแม่น้องแววฆ่าข่มขืน ขีดเส้นตาย ไม่คืบจะร้อง ผบ.ตร.

พ่อแม่น้องแววฆ่าข่มขืน ขีดเส้นตาย ไม่คืบจะร้อง ผบ.ตร.

พ่อแม่น้องแววฆ่าข่มขืน ขีดเส้นตาย ไม่คืบจะร้อง ผบ.ตร.
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตำรวจเร่งสอบ-เก็บหลักฐานเพิ่ม คดีน้องแวว อายุ 14 ปี หลังไม่คืบเกือบ 2 ปี มุ่งปมคนใกล้ชิด ยันเคยออกหมายจับผู้ต้องสงสัย แต่ศาลไม่อนุมัติหลักฐานอ่อน ด้านพ่อน้องแวว ยังไม่เชื่อมั่นตำรวจ ขีดเส้นถึงสิ้นเดือนนี้ จ่อหอบหลักฐานร้อง ผบ.ตร.

(21 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าล่าสุด เกี่ยวกับคดีฆาตกรรมข่มขืน น้องแวว อายุ 14 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนแห่งหนึ่ง จ.นครพนม ซึ่งเหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม 2556 หลังหายตัวออกจากบ้านไปได้ 3 วัน ชาวบ้านพบศพถูกทิ้งไว้ในลำห้วย แต่หลังจากคดีผ่านไปเกือบ 2 ปี ยังไม่มีคืบหน้าและยังจับตัวคนร้ายมาดำเนินคดีไม่ได้

นายธวัช และ นางบำเพ็ญ พ่อและแม่ของเด็กหญิงที่เสียชีวิต ยังคงออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมอย่างต่อเนื่อง หลังคดีนี้ถูกปล่อยปะละเลยมานาน เนื่องจากครอบครัวไม่มีเงิน ไม่มีเส้นสาย ล่าสุดได้เข้าเข้าปรึกษากับ นายศุภชัย โพธิ์สุ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งหวังจะเป็นที่พึ่งสุด เพื่อมอบความเป็นธรรมให้กับลูกสาว

ขณะที่ พ.ต.อ.โชคชัย อินทะนิน ผกก.สภ.ศรีสงคราม จ.นครพนม กล่าวว่า ความคืบหน้าของคดี ได้มีการเร่งสอบสวนเพิ่มเติมบุคคลเกี่ยวข้อง รวมถึงรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อหาตัวผู้ต้องสงสัยและขอศาลอนุมัติออกหมายจับต่อไป

ส่วนที่ผ่านมามีความล่าช้าเกิดจากพยานหลักฐานไม่ชัดเจน เนื่องจากพบศพหลังเกิดเหตุ ประมาณ 3 วัน และศพจมน้ำทำให้ขึ้นอืดหลักฐานเลือนราง ในส่วนของปมขัดแย้ง สาเหตุที่มาได้มุ่งไปที่บุคคลใกล้ชิดที่รู้ความเคลื่อนไหวของผู้ตาย

ที่สำคัญยังไม่ทิ้งสอบสวนเพิ่มบุคคลกลุ่มเป้าหมาย เคยนำตัวมาสอบสวน จำนวน 6 ราย และมี 1 รายที่เคยขออนุมัติศาลออกหมายจับ อย่างไรก็ตามตำรวจไม่หนักใจและพร้อมเร่งสืบสวน ติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว ขอให้ผู้เสียหายมีความมั่นใจ

อย่างไรก็ตาม พ่อแม่ของน้องแวว ยังกล่าวอีกว่า คดีนี้ทำให้ตนรู้สึกแย่มาก หลังถูกละเลยมาเกือบ 2 ปี ร้องทุกข์ไปทุกที่ แต่สุดท้ายยังไม่ได้รับความสนใจ กระทั่งมาร้องทุกข์ด้วยการขึ้นป้ายและร้องเรียนผ่านสื่อ ทำให้มั่นใจว่า ปมฆ่าข่มขืนลูกสาว น่ามาจากคนใกล้ชิดที่เห็นพฤติกรรมลูกสาวตลอด

ทั้งนี้ตนยังจะให้เวลาตำรวจทำงานถึงสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้ หากยังไม่คืบหน้าอีก ตนจำเป็นจะต้องรวบรวมหลักฐาน เอกสาร เข้าร้องทุกข์กับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ คสช. ด้วยตัวเองอย่างแน่นอน เพราะที่ผ่านมารอมานานเกินที่จะทนแล้ว อีกทั้งยังต้องอยู่ด้วยความหวาดผวา เกรงว่าคนร้ายจะกลับมาทำร้ายตลอดเวลา วอนผู้มีอำนาจช่วยเหลือเร่งด่วน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook