สมยศคุมกิตติศักดิ์แถลงยักยอกสจล.หนละ200ล.

ผบ.ตร. แถลงจับกุม 'กิตติศักดิ์' ผู้ต้องหายักยอกเงิน สจล. เจ้าตัวบอกโอนเข้ามาหนละ 200-300 ล้าน เล่นพนันลงทุนกับทรงกลด อ้างไม่รู้ที่มาของเงิน เจ้าหน้าที่ค้านประกันตัว เตรียมขออำนาจศาลฝากขังต่อไป

พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงผลจับกุม นายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด ผู้ต้องหารายสำคัญในคดียักยอกเงินคงคลังของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง หรือ สจล. เกือบ 1,600 ล้านบาท หลังจับกุมได้ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ขณะเดินทางกลับจากประเทศอังกฤษ

โดย นายกิตติศักดิ์ ยอมรับว่าตัวเองเป็นบุคคลตามหมายจับจริง และรู้สึกไม่สบายใจที่ครอบครัวถูกจับกุม จึงหนีไปตั้งหลัก ก่อนกลับมาสู้คดีเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ และยอมรับว่ารู้จักกับ นายทรงกลด ศรีประสงค์ อดีตผู้จัดการธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาห้างบิ๊กซี ศรีนครินทร์ และเป็นอดีตผู้จัดการธนาคารไทยพาณิชย์ ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ โดย นายทรงกลด ได้โอนเงินให้ครั้งละ 200 ถึง 300 ล้านบาท จำนวนหลายครั้ง ตลอดระยะเวลา 3 ปี เพื่อนำไปลงทุน และเล่นการพนันฟุตบอลที่ต่างประเทศ พร้อมโอนไปให้ครอบครัวโดยไม่รู้มาก่อนว่าเงินจำนวนดังกล่าวเป็นเงินที่ยักยอกมา จาก สจล.

ทั้งนี้ พล.ต.อ.สมยศ ยืนยันว่า ได้จับกุมนายกิตติศักดิ์ ไม่ใช่การมอบตัว และก่อนหน้านี้ได้ส่ง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไปประเทศอังกฤษ ประสานความร่วมมือกับตำรวจอังกฤษ กดดันนายกิตติศักดิ์ จนเดินทางกลับประเทศไทยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ซึ่งจากการตรวจสอบพบ นายทรงกลด ได้โอนเงินให้ นายกิตติศักดิ์ กว่าพันล้านโดยมีพยานหลักฐานเกี่ยวกับการทำธุรกรรมการเงินชัดเจน และไม่เชื่อคำให้การของนายกิตติศักดิ์ โดยเชื่อว่ามีการเตรียมตัวปรึกษากับนักกฎหมายมาเป็นอย่างดี

และหลังจากนี้จะส่งตัว นายกิตติศักดิ์ ให้พนักงานสอบสวนกองปราบปราม สอบปากคำต่อ พร้อมคัดค้านประกันตัว ก่อนขออำนาจศาลฝากขังต่อไป ส่วนผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอีก 2 คน คือ นายสมพงษ์ สหพรอุดมการณ์ และ นายธวัชชัย ยิ้มเจริญ ตำรวจทราบว่ายังอยู่ในประเทศบริเวณชายแดน

กองปราบสอบปากคำกิตติศักดิ์ก่อนแจ้งข้อหา

พ.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รองผู้บังคับการกองปราบปราม พร้อมกำลังตำรวจได้คุมตัว นายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด ผู้ต้องหาคดียักยอกเงินคงคลังของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง มาสอบปากคำและดำเนินคดี โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปภายในห้องพนักงานสอบสวนแต่อย่างใด

ทั้งนี้ พนักงานสอบสวน กองปราบปราม ได้สรุปสำนวนส่งฟ้องคดี ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์, ปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม, ให้การสนับสนุนเจ้าพนักงานรัฐในการกระทำผิดฐานลักทรัพย์ และข้อหาฟอกเงิน โดยผู้ต้องหาที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐถูกดำเนินคดีเพิ่มเติมในข้อหา เป็นเจ้าพนักงานรัฐ ซึ่งมีหน้าที่ทำหรือจัดการหรือรักษาทรัพย์ เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือผู้อื่นโดยทุจริต ยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นไป และเป็นเจ้าพนักงานรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือโดยทุจริต ซึ่งแต่ละรายจะถูกแจ้งข้อหาไม่ เท่ากันขึ้นอยู่กับความเกี่ยวข้องว่ากระทำผิดในส่วนใด

สำหรับคดีการลักทรัพย์เงินคงคลังของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) กว่า 1,474 ล้านบาท นั้น เหตุเกิดระหว่างปี 2555-2556 และคาบเกี่ยวในปี 2557 มีการจับกุมผู้ต้องหาไปแล้ว 11 ราย

ก่อนที่ นายกิตติศักดิ์ จะถูกควบคุมตัวหลังจากเดินทางกลับประเทศไทยดังกล่าว ส่วนคดีนี้ยังคงมีผู้ต้องหาที่อยู่ระหว่างหลบหนีอีก 2 ราย คือ นายสหพงษ์ สหพรอุดมการ และ นายธวัชชัย ยิ้มเจริญ