คุมตัวกิตติศักดิ์ยักยอกเงิน สจล. ฝากขังผลัดแรก

ตำรวจคุมตัว 'กิตติศักดิ์' ยักยอกเงิน สจล. 1,600 ล้าน สอบปากคำเพิ่มเติม ก่อนฝากขังศาลจังหวัดมีนบุรี ผลัดแรก

ตำรวจนครบาลพหลโยธิน นำตัว นายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด ผู้ต้องหารายสำคัญตามหมายจับในคดียักยอกเงินของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง หรือ สจล. จำนวน 1,600 ล้านบาท ไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่กองปราบปราม เวลา 08.30 น. ภายหลังจับกุมได้เมื่อวานนี้ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ และฝากขังไว้ที่ สน.พหลโยธิน ท่ามกลางครอบครัวและคนสนิทที่มารอให้กำลังใจแต่เช้า โดย นายกิตติศักดิ์ กล่าวก่อนขึ้นรถไปกรองปราบ ว่า "ไม่ต้องเป็นห่วง" และทันทีที่มาถึงกองปราบปราม ตำรวจคุมตัว นายกิตติศักดิ์ เข้าห้องสอบสวนทันที โดยมีครอบครัวและคนสนิทตามมาให้กำลังใจ จากนั้น ได้นำตัวไปฝากขังผลัดแรกที่ศาลจังหวัดมีนบุรี พร้อมคัดค้านการประกันตัว ซึ่งตลอดเวลาที่คุมตัว นายกิตติศักดิ์ ไม่มีทีท่ากังวลแต่อย่างใด พร้อมกับยิ้มให้
ครอบครัว และคนสนิทตลอดทุกครั้งที่พบหน้ากัน


ส่วนผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอีก 2 คน คือ นายสมพงษ์ สหพรอุดมการณ์ และ นายธวัชชัย ยิ้มเจริญ ซึ่งทราบว่า ยังอยู่ในประเทศ บริเวณชายแดน

สำหรับ นายกิตติศักดิ์ เป็นนักธุรกิจหนุ่ม มีชื่อครอบครองทรัพย์สินหลักพันล้าน และยังมีชื่อเป็นกรรมการบริษัทอีกหลากหลายประเภท ถึง 7 แห่ง เป็นตัวการสำคัญในการยักย้ายถ่ายเทเงินจากบัญชีไปสู่กลุ่มบุคคลในขบวนการ ก่อนนำเงินกลับเข้ามาในระบบผ่านธุรกิจบริษัท

ด้าน พ.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รองผู้บังคับการกองปราบปราม ระบุว่า จากการสอบปากคำ นายกิตติศักดิ์ กรณีการขายรถหรูลัมโบร์กินีให้กับ บอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ ดารานักแสดงนั้น นายกิตติศักดิ์ ยืนยันว่า ไม่เคยรู้จักกับ นายปกรณ์ มาก่อน สาเหตุที่ขายให้ นายปกรณ์ เพราะต้องการใช้เงินด่วน จึงขายให้ในราคา 13.5 ล้านบาท เนื่องจากการขายรถหรูที่มีราคาสูงนั้น ไม่สามารถขายให้กับคนทั่วไปได้ ซึ่งก่อนขายรถได้ติดต่อให้ นายปกรณ์ มาดูรถและร่วมงานเลี้ยง พร้อมทั้งมีการถ่ายรูปไว้ เพราะเป็นดาราที่มีชื่อเสียง จากการตรวจสอบก็ไม่พบว่าทั้งสองรู้จักกันมาก่อนหน้านี้แต่อย่างใด