เสวนาโรฮีนจา รัฐ ชาติ ประวัติศาสตร์ และความหวังฯ
'สุรพงษ์ กองจันทึก' มองไทยใช้วิธีผลักชาวโรฮีนจาดันออกเป็นเรื่องผิดกฏหมาย หากสิทธิมนุษยชนดี ความมั่นคงก็จะดีไปด้วย ด้าน 'อาลี' วอน นานาประเทศช่วยกันกดดันรัฐบาลพม่าให้คืนสิทธิชาวโรฮีนจา
นายสุรพงษ์ กองจันทึก ประธานอนุกรรมการด้านผู้อพยพไร้สัญชาติ สภาทนายความ กล่าวในงานเสวนาวิชาการ เรื่องโรฮีนจา รัฐ ชาติ ประวัติศาสตร์ และความหวัง เพื่อก้าวข้ามอคติและดราม่า สู่การแสวงหาข้อเท็จจริง ว่า ที่ผ่านมามีข้อมูลคนอพยพผ่านประเทศไทยมีจำนวนน้อยมาก เนื่องจากสื่อไม่เคยมีการนำเสนอในเรื่องเหล่านี้ ซึ่งคือชาวโรฮีนจาที่ส่วนหนึ่งมาจากพม่าและบังกลาเทศโดยที่มาที่ไปมีความหลากหลาย จึงมีปัจจัยหลายๆ อย่างที่ต้องศึกษาและพูดคุยกับชาวโรฮีนจา ขณะเดียวกันขบวนการนายหน้า การเดินทางออกจาก
ประเทศพม่าและบังกลาเทศ ไปสู่ประเทศปลายทาง เป็นเรื่องที่ต้องศึกษาให้เข้าใจสภาพปัญหามากขึ้น เพื่อนำไปสู่การแก้ไข
ทั้งนี้ นายสุรพงษ์ กล่าวอ้างว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยใช้นโยบายไม่รู้ ไม่เห็นและใช้วิธีการผลักดันออก ซึ่งไม่มีอำนาจตามกฎหมายให้กระทำในเรื่องดังกล่าวและเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย จึงต้องมีการใช้กฎหมายพระราชบัญญัติตรวจคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 โดยนำคนเหล่านี้มาตรวจสอบและส่งกลับไปยังประเทศต้นทาง ขณะเดียวกันประเทศไทยต้องเข้าใจเรื่องของสิทธิมนุษยชนและความมั่นคงเนื่องจากเป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการควบคู่กันไป หากสิทธิมนุษยชนดี ความมั่นคงก็จะดีไปด้วย
'อาลี' วอนนานาประเทศช่วยกันกดดันรัฐบาลพม่าคืนสิทธิชาวโรฮีนจา
นายอาลี อำหมัด ตัวแทนจากสมาคมโรฮีนจาสากลแห่งประเทศไทย กล่าวในงานเสวนาวิชาการ เรื่อง โรฮีนจา รัฐ ชาติ ประวัติศาสตร์ และความหวัง เพื่อก้าวข้ามอคติและดราม่า สู่การแสวงหาข้อเท็จจริง ว่า ตนเองมีความสุขที่ในขณะนี้รัฐบาลไทยดำเนินการได้อย่างถูกต้อง และมีการจัดการได้เป็นอย่างดีในเรื่องของขบวนการค้ามนุษย์ และการดูแลและช่วยเหลือชาวโรฮีนจาซึ่งส่วนตัวนั้นอาศัยอยู่ในประเทศไทยมา 20 ปี และทำงานช่วยเหลือชาวโรฮีนจามา 7 ปี ทำให้รู้ถึงปัญหาและสิทธิของชาวโรฮีนจาที่อาศัยอยู่ในรัฐยะไข่ ของ
ประเทศเมียนมา ว่า ชาวโรฮีนจาในประเทศถูกกีดกันและยึดทะเบียนบ้าน บัตรประชาชน สิทธิในด้านการศึกษาและสุขภาพ เนื่องจากถูกมองว่ามีความแตกแยกในเรื่องของเชื้อชาติและศาสนา โดยรัฐบาลพม่าวางแผนให้ชาวโรฮีนจาเดินทางออกนอกประเทศเพื่อต้องการยึดพื้นที่ ที่มีทรัพยากรทางธรรมชาติที่มีมูลค่ามหาศาล ส่งผลให้ชาวโรฮีนจามีความเป็นอยู่ที่ยากลำบากจึงต้องหลบหนีออกนอกประเทศ จึงอยากให้นานาประเทศช่วยกันกดดันรัฐบาลพม่าให้คืนสิทธิของชาวโรฮีนจาที่ยึดไปกลับคืนมา เพื่อให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีเหมือนในอดีตที่ผ่านมา
อนุสรณ์แจงย้ายถิ่นฐานชาวโรฮีนจามองสิ่งที่ผิดปกติจะเป็นภัยคุกคามต่อ ปท.
ผศ.ดร.อนุสรณ์ อุณโณ คณบดีคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวในงานเสวนาวิชาการ เรื่อง โรฮีนจา รัฐ ชาติ ประวัติศาสตร์ และความหวัง เพื่อก้าวข้ามอคติและดราม่า สู่การแสวงหาข้อเท็จจริง ว่า มุมมองของการเคลื่อนย้ายคนข้ามดินแดนและย้ายถิ่นฐานในปัจจุบันมาจากการลี้ภัยทางสงครามและการหนีความยากจนภายในประเทศ ซึ่งนอกจากชาวโรฮีนจาจะประสบปัญหาที่กล่าวมาแล้วนั้น ยังถูกทารุณกรรมและถูกปฏิเสธสถานะความเป็นพลเมืองของประเทศ ซึ่งประเทศไทยที่ผ่านมานั้นมองว่าสิ่งที่เป็นภัยด้านความมั่นคงและสิ่งที่ผิดปกติจะเป็นภัยคุกคามต่อประเทศ รวมถึงที่ผ่านมาธุรกิจการค้ามนุษย์ที่ผ่านมาสะท้อนให้เห็นว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง