โตโน่ ย้ำชัด! แม้สถานะอาจเปลี่ยน แต่รักแตงโมไม่เปลี่ยน

ถึงกับออกอาการเครียดตลอดระยะเวลาการถูกสัมภาษณ์อย่างเห็นได้ชัด สำหรับนักร้องหนุ่ม "โตโน่ ภาคิน" ที่ถูกถามถึงสถานะความสัมพันธ์กับคนรัก "แตงโม ภัทรธิดา" อีกครั้ง หลังจากที่เจ้าตัวได้ออกมายอมรับว่าเกิดปัญหาความไม่เข้าใจขึ้น จนถึงขนาดขอย้ายกลับมาอยู่บ้านกับคุณแม่แล้ว

ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ มีโอกาสได้เจอฝ่ายหญิง แต่เจ้าตัวไม่สะดวกให้สัมภาษณ์ อีกทั้งไม่นานมานี้ได้ปิดอินสตาแกรมส่วนตัวลง บวกกับกระแสข่าวลือว่าฝ่ายชายอันฟอลโล่ไอจีเธอไปเป็นที่เรียบร้อย

ล่าสุด พอมีโอกาสได้เจอ "โตโน่ ภาคิน" อีกครั้ง เลยได้อัพเดตถึงสภาพจิตใจ และความสัมพันธ์ที่เป็นอยู่ เพราะแฟนๆ หลายคนต่างอดห่วงไม่ได้ ซึ่งงานนี้เจ้าตัวได้เผยให้ฟังว่า ยังคงแยกกันอยู่เหมือนเดิม แต่มีพูดคุยกันบ้าง ส่วนสถานะความสัมพันธ์นั้นขอเวลาให้ลองปรับความเข้าใจดูก่อน ถึงแม้อนาคตหากต้องเปลี่ยนสถานะแต่ยังคงรักแตงโมเหมือนเดิม ส่วนเรื่องอันฟอลโล่ไอจีฝ่ายหญิงนั้นไม่มีแน่นอน และไม่ทราบข่าวที่อีกฝ่ายปิดไอจีลง

สภาพจิตใจตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?
"ตอนนี้โฟกัสของเราอยากทำงานที่มีอยู่ให้ดีที่สุด อยากให้แฟนๆ อยากให้คุณแม่ อยากให้ทุกคนมีความสุขในสิ่งที่เราทำ ยิ่งวันนี้แฟนๆ มารอซื้อบัตรคอนเสิร์ต บัตรก็ไม่ถูก ราคา 5,000 มารอเหนื่อยๆ ขอลายเซ็น มันมีความหมาย ก็อยากจะทำตรงนี้ให้ดีที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้"

วันนี้แฟนคลับมาให้กำลังใจอย่างไรบ้าง?
"ปกติ เขาให้กำลังใจมาตลอด แต่เรื่องนี้ไม่ต้องห่วงอะไร จิตใจเราแข็งแรงเข้มแข็งดี"

ได้ติดต่อโมบ้างไหม หลังเป็นข่าว?
"ก็มีคุยกันบ้างครับ ตอนนี้ต่างคนต่างก็มีงาน โมก็ถ่ายละครหนัก ผมเองก็ถ่ายละคร ไหนจะคอนเสิร์ตอีก ผมอยากจะทำตรงนี้ให้ดีที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้ เพราะที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเรื่องอะไรเราก็เต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความรัก ชีวิต การงาน ในเมื่อตอนนี้มันยังไม่ลงตัว มันยังไม่เข้าใจ ผมก็จะทำหน้าที่ตรงนี้ให้ดีที่สุด เท่าที่ผมจะทำได้"

ได้เจอกันบ้างหรือยัง?
"ยังครับ"

พยายามจะปรับความเข้าใจหากันหรือยัง?
"ต้องใช้เวลานะ แต่ผมไม่รู้ว่ามันจะเป็นอย่างไรต่อไป เราทำได้ตอนนี้ก็คือทำสิ่งที่เรามีอยู่ให้มันดีที่สุด เพราะว่าตอนนี้คุณแม่มาอยู่ด้วย คุณแม่เห็นผมทำงาน ผมเห็นคุณแม่มีความสุข คุณแม่ยิ้มได้จากงานที่เราทำ ผมก็มีความสุข อยากจะโฟกัสตรงนี้ ส่วนในเรื่องความรักก็ต้องใช้เวลาครับ คือเรื่องอย่างนี้มันเป็นเรื่องหัวจิตหัวใจ เรื่องของความรู้สึก คงมาบังคับกันไม่ได้ ผมอยากจะรับผิดชอบความรู้สึก ความรักของหลายๆ คน ที่เขามอบให้เรามา"

ยังยืนยันสถานะคำว่าแฟนได้เหมือนเดิมหรือเปล่า?
"ผมว่าแล้วแต่ดีกว่าครับ คือในชีวิตจริง หรือใครจะมองยังไง โมเองก็คือคนที่ผมรัก แต่เราจะได้คบกันไหม หรือกลับมาเข้าใจกันหรือเปล่า ผมไม่ได้มองไปถึงตรงนั้นเลย ว่าจะเป็นยังไงต่อไป เพราะว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เราได้ทำให้มันดีที่สุดเท่าที่จะทำได้"

ที่บอกว่าได้คุย นี่พอบอกได้ไหมว่าคุยอะไรกันบ้าง?
"ก็มีถามกันบ้าง เป็นยังไง เหนื่อยไหม มีส่งรูปบ้าง อย่างเวลาผมไปเล่นคอนเสิร์ต เราได้ทำในสิ่งที่เรารัก ก็ส่งไปให้เขาดูครับ เขาทำงานหรือเห็นรูปแมวน่ารักๆ ก็ส่งมาหา"

ยังให้กำลังใจกันตลอดเวลา?
"คือไม่ว่าจะอยู่ในสถานะไหน เราไม่จำเป็นว่าจะไม่หวังดีต่อกัน ถ้าให้กำลังใจใครได้มันก็ควรให้ครับ"

มีข่าวว่าเราอันฟอลโล่ไอจีแตงโมแล้ว?
"ไม่ใช่นะครับ ผมไม่เคยใช้เรื่องไอจีมาตัดสินอารมณ์เลย ถ้าพูดตรงๆ ผมไม่ได้อยากให้เป็นข่าว ไม่ได้อยากให้ใครมารู้หรอก ว่าเรารู้สึกอะไรยังไง ว่าเรามีปัญหาอะไร แต่ในเมื่อโลกทุกวันนี้เรารู้ข่าวกันเร็ว ก็ต้องมายืนตอบคำถาม ทั้งๆ ที่บางคำถาม ตอบไปก็เจ็บ ไม่รู้จะพูดทำไม"

ที่เขาปิดไอจี ได้ปรึกษาเราบ้างหรือเปล่า?
"ไม่ครับ ไม่ได้บอก ไม่ได้คุย"

งานก่อนเขาไม่ให้สัมภาษณ์กับสื่อ เหมือนเขาไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้?
"ผมว่ามันเป็นสิทธิ์ส่วนตัวนะ ถามว่าผมอยากพูดไหม ผมก็ไม่ได้อยากพูดหรอก แต่ถ้าเรื่องที่เราพูดมันไม่ได้เสียหายใครผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน ผมใช้ชีวิตแบบนี้ จะให้ผมหนี หลบ ก็ทำไม่เป็น"

ไอจีใหม่ที่เขาเปิดมา เราได้ติดตามหรือยัง?
"ผมไม่ทราบเรื่องเลย ไม่รู้เลย บอกตรงๆ นั้นนะ คือผมไม่ได้ไปโฟกัสเลยว่าไอจีจะเป็นยังไง ตอนนี้คืออยากทำงานให้มันดีที่สุด ส่วนเรื่องความรู้สึกที่ไม่เข้าใจ เราต้องใช้เวลาในการปรับ"

เรียกว่าเกินเยียวยาได้ไหม?
"อื้ม...ผมว่าให้เป็นเรื่องของอนาคตดีกว่าครับ มันตอบไม่ได้หรอก ผมว่าคำพูดพวกนี้ หรือคำถามพวกนี้ บางครั้งถ้าเราพูดไปในช่วงอารมณ์หรือระยะเวลานี้ สถานการณ์มันอาจจะเปลี่ยนได้ในความรู้สึกของคน ผมว่าต้องค่อยๆ ครับ แต่อย่างที่ผมบอก ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะไหน หรือยังไง ความหวังดี ความรักมันไม่จำเป็น ถ้ามีความหวังดีให้กันอยู่ก็ไม่เป็นไร"

แสดงว่าความรู้สึกของวันนั้น กับวันนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว?
"จะพูดว่ายังไงดี...ความรู้สึกของวันนั้นกับวันนี้ รูปแบบหรือสถานะอาจจะเปลี่ยนได้นะ แต่ผมว่าความรู้สึกถ้ารักแล้วก็คือรัก เพียงแค่ว่าปัญหาหลายๆ อย่าง มันไม่ได้มีใครมาเข้าใจเรา ไม่มีใครมารู้ว่าอะไรเป็นอะไร บางทีไม่อยากจะพูดให้หมดหรอกครับผม ดังนั้นบางครั้งปล่อยให้พวกผมมีเวลาจะศึกษา มีเวลาจะปรับความรู้สึกกันให้ดีก่อนแล้วกัน ค่อยมาถามครับ"