อู๊ด เป็นต่อพบปคบ.ยันไม่เคยร่วมลงทุนยูฟัน-โดนแอบอ้าง

อู๊ด เป็นต่อพบปคบ.ยันไม่เคยร่วมลงทุนยูฟัน-โดนแอบอ้าง

อู๊ด เป็นต่อพบปคบ.ยันไม่เคยร่วมลงทุนยูฟัน-โดนแอบอ้าง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นักแสดงตลกชื่อดัง 'อู๊ด เป็นต่อ' เข้าพบ ปคบ. ยืนยัน ไม่เคยร่วมลงทุนแชร์ยูฟัน อ้างโดนเอารูปถ่ายไปแอบอ้าง ขณะที่ 29 มิ.ย. จนท.ที่เกี่ยวข้องประชุมร่วมหาข้อสรุปอีกครั้ง

นายธีระชาติ ธีระวิทยากุล หรือ อู๊ด เป็นต่อ นักแสดงตลกชื่อดัง เข้าให้ปากคำกับตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับผู้บริโภค หรือ ปคบ. ศูนย์ราชการ ถ.แจ้งวัฒนะ เนื่องจากก่อนหน้านี้มีภาพที่ทางบริษัทยูฟันได้นำมาเผยแพร่โดยเป็นการสื่อให้ลูกข่ายเห็นว่า อู๊ด เป็นต่อ ได้เป็นส่วนหนึ่งในเครือข่ายยูฟัน โดย อู๊ด เป็นต่อ เปิดเผยหลังให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ ปคบ. ว่า ก่อนหน้านี้ได้รับการชักชวนจากเพื่อนคนหนึ่งที่อยู่ออสเตรเลียให้เข้ามารับฟังบรรยายเกี่ยวกับธุรกิจ หลายครั้งจนเกรงใจจึงได้เดินทางไปฟังที่โรงแรมเมเปิ้ล ศรีนครินทร์ เมื่อวันที่ 21 มกราคมที่ผ่านมา พอไปถึงก็มีคนเข้ามาพูดคุยว่าธุรกิจยูฟันเป็นธุรกิจที่ดีผลตอบแทนสูง เพียงแค่นำเงินมาวางทิ้งไว้จำนวน 350,000 บาท ก็จะมีผลตอบแทนทุกๆ เดือน แต่ตนได้ปฏิเสธที่จะเข้าร่วมและไม่ขอขึ้นเวที หรือเซ็นเอกสารใดๆ ก่อนขอตัวกลับ ซึ่งก็มีคนเข้ามาขอถ่ายรูป เมื่อกลับมาจึงได้ทำการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทจนพบว่าบริษัทยูฟันไม่มีตัวตนอยู่จริงเลย มีเรื่องโกหกหลายอย่าง อาทิ การแอบอ้างนายตำรวจรายหนึ่งซึ่งที่จริงแล้วเป็นตำรวจเก่าที่ไม่สามารถที่จะกลับมาใส่เครื่องแบบได้อีก จึงไม่สนใจอะไร จนบริษัทดังกล่าวมีข่าวในทางคดีและพบว่ามีการนำภาพที่ตนถ่ายในวันนั้นนำไปแอบอ้างหลอกคนเข้ามาร่วมเครือข่าย ตนจึงเดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจ

ด้าน พล.ต.ท.สุวิระ ทรงเมตตา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ที่มีดาราชื่อดังเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน ปคบ. ถือเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี จึงถือว่าบุคคลเหล่านั้นเป็นพยานให้แก่สำนวนคดีนี้ รวมทั้ง อู๊ด เป็นต่อ ด้วย

อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 29 มิถุนายนที่จะถึงนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะร่วมประชุมหาข้อสรุปเรื่องนี้อีกครั้ง ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมเชิญชวนผู้เสียหายและผู้ที่มีชื่อเสียงที่เคยเข้าร่วม หรือคิดว่าตนเป็นหนึ่งในผู้เสียหายในเครือข่ายนี้ ให้เดินทางมาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปคบ.เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจด้วย ถ้าไม่มีแสดงความตนจะถือว่าเป็นหนึ่งในผู้ต้องหาในกระบวนการนี้ และจะดำเนินการทางกฎหมายทันที


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook