บวรศักดิ์บอกครม.ชงตัดหมวดปฏิรูปออกจากร่างรธน.

ประธานคณะกรรมาธิการยกร่างฯ หวังใช้ร่างรัฐธรรมนูญสร้างวัฒนธรรมพลเมือง พร้อมเผย คณะรัฐมนตรี ชงตัดหมวดปฏิรูป ขณะที่ สนช. ยืดรวมคิดเห็นร่าง รธน. เป็น 90 วัน

นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรีเสนอให้มีการปรับแก้ถ้อยคำพลเมืองและราษฎรในร่างรัฐธรรมนูญให้มีความเหมาะสมว่า การเลือกใช้ถ้อยคำต้องคำนึงความหมายเป็นสำคัญ ซึ่งการใช้คำว่าพลเมืองเพื่อเปลี่ยนจากวัฒนธรรมราษฎรที่ฟังเสียงคนอื่น เป็นวัฒนธรรมพลเมืองที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม เห็นความสำคัญของการเมืองเทียบเท่ากับการบ้าน และแก้ปัญหาการซื้อสิทธิ์ขายเสียง ซึ่งถือเป็นนัยของการปฏิรูปประเทศ 

ส่วนกรณีที่คณะรัฐมนตรีเสนอให้ตัดหมวดปฏิรูปออกจากร่างรัฐธรรมนูญนั้น เป็นเพราะอยากให้นำไปบัญญัติไว้ในกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ และคงไว้เพียงหลักการเท่านั้น เพื่อให้ร่างรัฐธรรมนูญสั้นลง ไม่ใช่ให้ตัดออกทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม นายบวรศักดิ์ กล่าวว่า แม้สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ส่งคำข้อแก้ไขเพิ่มเติมร่างรัฐธรรมนูญเข้ามาเป็นจำนวนมาก แต่ตนไม่ได้รู้สึกท้ออะไร เพราะอาสาเข้ามาทำหน้าที่ด้วยตนเอง

สนช. ยืดรวมคิดเห็นร่าง รธน. เป็น 90 วัน

บรรยากาศการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ล่าสุด ได้เริ่มต้นการประชุมแล้ว โดยมี นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติจดทะเบียนเครื่อง พ.ศ.... ทั้งนี้ ก่อนเริ่มต้นการพิจารณาประธานการประชุมได้เสนอให้ที่ประชุมพิจารณางดเว้นข้อบังคับการประชุมเพื่อขยายระยะเวลาในการจัดรายงานของคณะอนุกรรมาธิการรวบรวมความคิดเห็นของ สนช. การแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญเพื่อส่งให้คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญโดยที่ประชุมมีมติ 154:0 เสียง เห็นด้วยที่ขยายเวลาเป็น 90 วัน

ขณะที่ในวันนี้ที่ประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2559 จะพิจารณางบประมาณของหน่วยงานในการกับของกระทรวงการคลัง โดยมี นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นผู้มาชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการฯ

'สุรชัย' ยัน นายกฯคนนอกต้องชัดเงื่อนไข

นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ คนที่ 1  หรือ สนช. ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการสามัญพิจารณาศึกษา เสนอแนะ และรวบรวมความเห็นเพื่อการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ เปิดเผยต่อสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า กรรมาธิการฯ ได้รวบรวมความเห็นจาก สนช. เพื่อให้กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญใช้ประกอบพิจารณาการปรับแก้ร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่ง สนช. เห็นว่าเรื่องนายกรัฐมนตรีคนนอกนั้น ควรบรรจุเป็นข้อยกเว้น หรือบทเฉพาะกาลในกรณีวิกฤตที่ไม่สามารถมีนายกรัฐมนตรีมาจาก ส.ส. ได้ เพื่อป้องกันวิกฤตทางการเมือง ขณะเดียวกันในมาตรา 181 และ 182 ที่ให้ฝ่ายบริหารสามารถเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจตัวเองได้ เพราะแต่เดิมเป็น

หน้าที่ของฝ่ายค้านที่จะตรวจสอบรัฐบาล นอกจากนั้น ยังให้สิทธิ์รัฐบาลเสนอกฎหมายและแถลงต่อสภาได้ ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่ฝ่ายค้านจะต้องเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจภายใน 48 ชั่วโมง มิเช่นนั้นจะถือว่ากฎหมายผ่านสภาทันที


ขณะเดียวกัน รองประธาน สนช. ยังเปิดเผยอีกว่า ขณะนี้ สนช. ได้รับสำนวนการถอดถอนอดีต 249 ส.ส. แล้ว และอยู่ในขั้นการตรวจสอบรายละเอียดเอกสารและนัดประชุมครั้งแรกเพื่อเริ่มกระบวนการถอดถอนต่อไป