ด.ญ.12เหยื่อพ่อเลี้ยงข่มขืน เผยยายแท้ๆ ก็รู้เห็น

ด.ญ.12เหยื่อพ่อเลี้ยงข่มขืน เผยยายแท้ๆ ก็รู้เห็น

ด.ญ.12เหยื่อพ่อเลี้ยงข่มขืน เผยยายแท้ๆ ก็รู้เห็น
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณี นายแก้ว (นามสมมุติ) อายุ 43 ปี ได้นำตัวบุตรสาว ด.ญ.น้ำ (นามสมมุติ) อายุ 12 ปี เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ว่า ด.ญ.น้ำ (นามสมมุติ) ถูกนายบอย (นามสมมุติ) อายุ 26 ปี พ่อเลี้ยง และนางฝน (นามสมมุติ) อายุ 35 ปี อดีตภรรยา ซึ่งเป็นแม่แท้ๆ ของเด็ก ทำร้ายร่างกาย ใช้น้ำร้อนลวก และบังคับให้กินเหล้าเบียร์ ก่อนที่จะให้พ่อเลี้ยงล่วงละเมิดทางเพศนั้น (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : สลด พ่อเลี้ยงข่มขืนด.ญ.วัย 12 ปี แม่แท้ๆ รู้เห็นเป็นใจ)

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (30 พ.ค.) ด.ญ.น้ำ (นามสมมุติ) เปิดเผยว่า ครั้งแรกที่ถูกพ่อเลี้ยงล่วงละเมิดทางเพศ พ่อเลี้ยงได้ดื่มเหล้าจนเมามาย แล้วบังคับลากเข้าห้องทำร้ายร่างกายและล่วงละเมิดทางเพศ โดยที่แม่ไม่อยู่ที่บ้าน และได้ข่มขู่ว่าถ้าไม่ให้มีเพศสัมพันธ์ด้วยจะฆ่าให้ตาย จากนั้นก็อาศัยจังหวะที่แม่ไม่อยู่ที่บ้านล่วงละเมิดทางเพศเรื่อยมา

จนกระทั่งวันที่ 28 เม.ย. แม่นั้นก็รู้เข้า ก็มาต่อว่าตนเองนั้นจะมาแย่งสามีแม่ กลับไม่ต่อว่าพ่อเลี้ยงแต่อย่างใด และหลายวันต่อมา พ่อเลี้ยงกับแม่ทะเลาะกัน ตนเองได้ไปบอกว่าให้เบาๆ หน่อยเพราะจะนอน

แต่แม่ไม่ฟังเสียงกลับนำแก้วกาแฟใส่น้ำร้อนมาสาดที่หลังหนู แล้วใช้ไขควงแทงที่คอและหน้าท้องจนได้รับบาดเจ็บ จากนั้นเวลาพ่อเลี้ยงมาล่วงละเมิดทางเพศกับตนเอง แม่ก็ไม่เคยว่าพ่อเลี้ยงเลย

"หนูเคยถามว่าแม่รักหนูไหม แม่ตอบว่าถ้าให้เลือกระหว่างหนูกับพ่อเลี้ยง แม่เลือกที่จะรักพ่อเลี้ยงมากกว่าหนู และแม่ยังบอกอีกว่า ถ้าขายรถมอเตอร์ไซค์ได้จะไปอยู่ที่ อ.ดอนสัก แล้วจะให้เพื่อนของพ่อเลี้ยงประมาณ 20 คน รุมคุกคามทางเพศ" ด.ญ.น้ำ กล่าว

ด.ญ.น้ำ กล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 7 พ.ค. ที่ผ่านมา แม่กับพ่อเลี้ยงไปซื้อเบียร์มาดื่ม แล้วบังคับให้ดื่มด้วย จนตนมีอาการมึนหัว ยายแท้ๆ ที่เช่าบ้านอยู่ใกล้กัน ได้มาบอกกับแม่ของตนว่าให้ไปนอนที่ห้องของยาย แล้วให้พ่อเลี้ยงจับหนูนอนไว้ที่ห้องกันสองคน โดยที่ยายก็มีส่วนรู้เห็นที่พ่อเลี้ยงล่วงละเมิดทางเพศ

"เหตุการณ์นี้ทำให้หนูเสียใจมาก รู้สึกโกรธ ไม่อยากเจอแม่ แต่ก็ยังรักแม่อยู่ หลังจากนี้หนูก็จะมาอยู่กับพ่อแท้ๆ และอยากที่จะเรียนหนังสือ" ด.ญ.น้ำ กล่าว

ทั้งนี้ นายไพบูลย์ โอมาก นายอำเภอเกาะสมุย ได้มอบเงินสดจำนวน 5,000บาท ไว้เป็นค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และจะได้ให้เจ้าหน้าที่ติดต่อโรงเรียนบนเกาะสมุย เพื่อให้ด.ญ.น้ำ ได้ศึกษาต่อในชั้นประถมปีที่ 6 ต่อไป หลังจากที่ได้หยุดเรียนกลางคันมาแล้วกว่า 3 ปี

โดย ด.ญ.น้ำ บอกว่าไม่อยากไปอยู่ที่สถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพภาคใต้ (บ้านศรีสุราษฎร์ฯ) แต่ต้องการอยู่กับนายแก้ว พ่อของตนเองที่เกาะสมุย ซึ่งทาง นอภ.เกาะสมุย ได้แจ้งไปทางผู้ว่าราชการจังหวัด โดยหลังจากนี้ทาง จ.สุราษฎร์ธานี จะส่งเจ้าหน้าที่ลงมาติดตามความเป็นอยู่และเยี่ยมเยียนต่อไป

ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจาก มติชนออนไลน์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook