มือสังหารนศ.สาวเกษมบัณฑิต สารภาพฆ่าเพื่อต้องการปิดปาก

มือสังหารนศ.สาวเกษมบัณฑิต สารภาพฆ่าเพื่อต้องการปิดปาก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
(28ม.ค.) เวลา 11.30 น. พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น. พล.ต.ต. โชคชัย ดีประเสริฐวิทย์ ผบก.น.5 พ.ต.อ.สมบัติ มิลินจินดา ผกก.สส.บก.น.5 พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ อรัญวัฒน์ ผกก.สน.คลองตัน ร่วมแถลงผลจับกุมนายประภาส แสงขาว อายุ 34 ปี ที่อยู่ 31 ม.4 ต.หาดทรายขาว อ.เชียงคาน จ.เลย พนักงานของธนาคารแห่งหนึ่ง แผนกบัตรเครดิต ผู้ต้องหาฆ่าปาดคอ น.ส.ศศิวิมล หรือน้องหนิง เพชรศรี อายุ 21 ปี นักศึกษา มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต ปีที่ 3 คณะบริหารธุรกิจ ซึ่งจนท.พบศพ ภายในห้องเลขที่ 810 สยามเฮ้าส์อพาร์ตเม้นต์ย่านพัฒนาการ

พล.ต.ท.สุชาติ กล่าวว่า จนท.จับกุมนายประภาสที่อาพเม้นท์เดียวกัน ห้องเลขที่ 408 ซึ่งนายประภาสได้พักอาศัยกับภรรยาและบุตรชาย 1 คน และยึดของกลางเป็นโทรศัพท์มือถือยี่ห้อโนเกีย รุ่นN 95 สีดำ 1 เครื่อง ซิมการ์ดระบบ AIS 1 ซิม โทรศัพท์ระบบฮัทช์ 1 เครื่อง และนามบัตรระบุชื่อนายประภาส 1 ใบ พร้อมโทรศัพท์มือถือโนเกียรุ่น N72 สีน้ำเงิน-ม่วง ซึ่งเป็นของผู้ตาย(เดิมเป็นสีชมพู )ผู้ต้องหานำไปเปลี่ยนหน้ากากใหม่ พบเสื้อโปโลแขนยาวสีน้ำตาลแถบดำยี่ห้อแม็ก 1 ตัว กางเกงยีนสีน้ำเงินขายาว 1 ตัว ถุงเท้าสีดำ-เทา 1 คู่ กางเกงในสีดำ 1 ตัว ซึ่งทั้งหมดเป็นเครื่องแต่งกายที่ใช้ในวันก่อเหตุ

นายประภาส ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และอ้างว่าแอบหลงรักนส.ศศิวิมลมานาน แต่ไม่มีโอกาสได้พูดคุย แค่ทักทายเพียงเล็กน้อย ในวันเกิดเหตุเป็นวันศุกร์ที่ 16 ม.ค.ตนออกไปทำงานที่ธนาคารตามปกติ 08.30 น.จากนั้นตอนพักเที่ยงได้ย้อนกลับมาที่เกิดเหตุ ก่อนจะโทรไปหาผู้ตายพร้อมถามว่าอยู่ที่ห้องหรือไม่จะขึ้นไปหาที่ห้อง เมื่อตนขึ้นไปจึงใช้มือบีบคอและบังคับข่มขืนสำเร็จความใคร่ ทำให้ผู้ตายหมดสติ ตนกลัวความผิดว่าผู้ตายจะแจ้งความ จึงใช้อาวุธมีดที่อยู่หลังห้องผู้ตายมาปาดคอจนเสียชีวิตแล้วนำมีดที่ใช้ก่อเหตุไปทำความสะอาดและเก็บไว้ที่เดิม ก่อนเอาทรัพย์สินผู้ตายไปด้วย คือ โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่องและสร้อยคอทองคำหนัก 50 สตางค์ 1 เส้น

หลังจากผมลงมือฆ่า ผมนำเสื้อผ้าที่เปื้อนเลือดไปซักที่ห้องของผม และเก็บไว้ ผมได้หยิบทรัพย์สินของน้องหนิงไป เพื่อเบี่ยงประเด็นเป็นอย่างอื่น ส่วนสร้อยคอผมให้เพื่อนชื่อนายธนดล คัชมาตย์ อายุ 32 ปี ซึ่งทำงานธนาคารเดียวกัน แต่นายธนดลเป็นพนักงานส่งเอกสาร ผมได้บอกว่า ช่วยนำสร้อยไปขายให้หน่อยของแฟน จากนั้นนายธนดลก็นำสร้อยไปขายได้เงินมา 6,051 บาท นายธนดลค่าเสียเวลาไป 900 บาท ส่วนที่เหลือผมเก็บไว้ จากนั้นผมเดินทางไปดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี ช่วงวันหยุด เสาร์อาทิตย์ วันที่ 17-18 ระหว่างนั้นผมคิดถึงน้องหนิงตลอด และทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้น้องหนิง เพราะหลังจากผมก่อเหตุผมรู้สึกเสียใจ ผมขอยอมรับผิดทุกอย่างในสิ่งที่ทำไป หลังจากกลับมาจากสุพรรณฯ ผมก็กลับไปใช้ชีวิตตามปกติและได้ไปทำงานที่ธนาคารเหมือนเดิม กระทั่งถูก จนท.ตร.มาจับกุมได้ นายประภาส กล่าว

ด้าน พ.ต.อ.สมบัติ กล่าวว่า ผู้ตายกับนายประภาสรู้จักกันมากว่า 1 ปี เนื่องจากนายประภาสรู้จักกับเพื่อนผู้ตาย ซึ่งเมื่อปีที่ผ่านมา ผู้ตายเจ็บป่วย เพื่อนผู้ตายก็บอกให้นายประภาสช่วยนำส่ง รพ. จึงทำให้รู้จักกัน ส่วนนายประภาสแอบหลงรักผู้ตายแต่ผู้ตายไม่เล่นด้วย เนื่องจากผู้ตายมีแฟนอยู่แล้วและรู้ด้วยว่านายประภาสมีครอบครัวแล้ว โดยก่อนหน้านี้จนท.ไม่คาดคิดว่าจะเป็นนายประภาสเนื่องจากนายประ ภาส ทำตัวปกติใช้ชีวิตเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่จนท.ได้ตรวจจาก โทรศัพท์มือถือก็พบเบอร์ผู้ตาย และเบอร์เพื่อนผู้ตายโทรเข้าหาหลายครั้ง จึงเริ่มแกะรอยจากหมายเลขโทรศัพท์ กระทั่งทราบตัวผู้ต้องสงสัย ก็นำตัวมาสอบปากคำอยู่นานในที่สุดก็ยอมรับสารภาพ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากจนท.จับกุมผู้ต้องหา ได้แล้วนั้นก็มีเพื่อนหญิงของผู้ตาย 6 คน พร้อมด้วยแฟนหนุ่มและเพื่อนอีก 3 คน มาดูหน้าผู้ต้องหาระหว่างแถลงผลการจับกุม ต่างพากันด่าทอ นายประภาสต่างๆนาๆ โดยทุกคนมีสีหน้าโกรธแค้น พร้อมบอกว่า จนท.ตร.จบ แต่พวกตนไม่จบแน่ๆ ทำให้ จนท.ตร.ต้องกันตัวผู้ต้องหา ไปไว้ในที่ปลอดภัยเพื่อกันไม่ให้เกิดการรุมประชาทัณ หลังแถลงข่าวเสร็จ จนท.ก็จะพาไป ร.พ.จุฬาฯ เพื่อตรวจ ดีเอ็นเอ เพื่อเปรียบเทียบกับคราบอสุจิที่พบในผู้ตาย ก่อนที่จะพาไปทำแผน ณ.จุดเกิดเหตุต่อไป

โรฮิงญา ถูกทหารพม่าทารุณ! เหรียญอีกด้านที่สื่อนอกละเลย

การเปิดประเด็น ทหารเรือไทย ทารุณกรรมผู้อพยพชาวโรฮิงญา ก่อนจะตามมารุมถล่มอีกชุดใหญ่จากสื่อหัวใหญ่ๆ ทั่วโลก ล่าสุดก็เป็นซีเอ็นเอ็นที่ย้ำหัวตะปูด้วยภาพที่อ้างว่า ทหารเรือไทยชักลากเรือผู้อพยพออกไปลอยเท้งเต้งกลางทะเล

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook