นายกฯส่งสัญญาณพร้อมปรับ ครม. หลังเรียก วิฑูรย์ เข้าห้องเย็น!!

นายกฯส่งสัญญาณพร้อมปรับ ครม. หลังเรียก วิฑูรย์ เข้าห้องเย็น!!

นายกฯส่งสัญญาณพร้อมปรับ ครม. หลังเรียก วิฑูรย์ เข้าห้องเย็น!!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อภิสิทธิ์ ส่งสัญญาณ พร้อมปรับครม.หลังกลับจากประชุมที่สวิสฯ ชี้กรณีปลากระป๋องเน่า แม้ไม่ใช้งบ แต่ปชช.เสียหาย เผย นายกฯ-สุเทพ เรียก วิฑูรย์ เข้าห้องเย็นให้พิจารณาตัวเอง เจ้าตัวลั่นกลางสภา ถ้าผิดพร้อมลาออก เพื่อไทย บี้ บุญจง ยื่น กกต.เอาผิดเพิ่ม แจกเงินพร้อมใบสมัคร ภูมิใจไทย ผิดรธน.ม.266ให้เงินจูงใจเข้าพรรค

นายกฯแย้มพร้อมปรับคณะรัฐมนตรี

ที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวเมื่อวันที่ 29 มกราคม ถึงกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ระบุว่า การแจกเงินของนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย อาจเข้าข่ายผิดกฎหมาย ว่า ยังเป็นแค่การยื่นเรื่องไปที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ( ป.ป.ช.) ส่วนกรณีที่ กกต. จะมีการจัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ ผลการตรวจสอบออกมาอย่างไร ก็คงต้องยอมรับ เมื่อถามว่า จะมีการปรับครม.หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า "ถ้ากกต.หรือ ป.ป.ช.ชี้มูลมา คงต้องเป็นอย่างนั้น"

เมื่อถามอีกว่า กรณีปลากระป๋องของนายวิฑูรย์ นามบุตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาการสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ที่มีการขยายผลว่ามีคนของ พรรคประชาธิปัตย์ เข้าไปมีส่วนร่วมด้วยจะดำเนินการอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า กำลังดูข้อมูลทั้งหมด คิดว่าหลังจากเดินทางกลับจากประชุมที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ แล้ว คาดว่าจะใช้เวลา 2-3 วัน ก่อนจะมีจุดยืนที่ชัดเจน เมื่อถามย้ำว่า หมายความว่ากลับจากการประชุมที่เมืองดาวอส จะพิจารณาปรับ ครม. ใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขอรวบรวมข้อมูลรอบด้านและจะคุยกับตัวรัฐมนตรีในรายละเอียดอีกครั้ง ยินดีที่จะให้ทุกฝ่ายเข้ามาตรวจสอบ

เมื่อถามว่า จากการตรวจสอบพบสิ่งที่ผิดปกติในการแจกถุงยังชีพหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เบื้องต้นในกรณีปลากระป๋องยังไม่มีการเบิกจ่ายเงินของข้าราชการ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าความเสียหายได้เกิดขึ้นกับประชาชนแล้ว เข้าใจว่าขณะนี้นายวิฑูรย์ ได้ยื่นเรื่องให้องค์กรต่างๆ ตรวจสอบ แต่รัฐบาลต้องดูว่าการทำงานต่างๆในกระทรวงมีปัญหาหรือไม่ เมื่อถามว่า การตัดสินใจแก้ปัญหาของนายกฯยังยึดหลักการเดิมหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยึดหลัก 9 ข้อที่ให้ไว้แก่ครม.

นายกฯยืนยันสกัดทุจริตแจกชุดนักเรียน

เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตจากฝ่ายค้านว่า มีการทุจริตเกิดขึ้นในโครงการเรียนฟรี ถือเป็นโครงการสำคัญของรัฐบาลด้วย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในการประชุมของพรรคประชาธิปัตย์ มีการให้ความเห็นเรื่องการเรียนฟรี กำลังพิจารณาวิธีการในเรื่องนี้ โดยเฉพาะเครื่องแบบนักเรียน กำลังดูว่าจะให้มีการผลิตโดยชุมชนกับการให้คูปองหรือเงินผู้ปกครอง แนวทางหลังเพื่อไม่ให้มีการทุจริตหรือรั่วไหลเกิดขึ้นได้ โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มีแนวคิดสนับสนุนในการให้เงินหรือคูปองอยู่แล้วเพื่อป้องกันการรั่วไหล เนื่องจากต้องเร่งรัดโครงการนี้ให้ดำเนินการได้ภายในเดือนพฤษภาคม แต่ที่กังวลคือบางพื้นที่ อย่าง 3 จังหวัดชายแดนใต้ หากว่าจ้างให้ชุมชนทำเครื่องแบบได้ ก็จะเป็นประโยชน์

นายกฯสั่ง วิฑูรย์ เคลียร์ปัญหาหลัง1ก.พ.

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นายอภิสิทธิ์ ได้สั่งให้นายวิฑูรย์ รวบรวมเอกสารหลักฐานที่มีความเกี่ยวข้องกับกรณีตรวจพบปลากระป๋อง ยี่ห้อชาวดอย เพื่อชี้แจงต่อสาธารณชนและส.ส.หลังจากนายกฯกลับจากการประชุมที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ส่วนจะจบอย่างไรต้องคอดูก่อน

"เราเป็นคนนอก ไม่ได้อยู่ในพม. คุณวิฑูรย์น่าจะเป็นคนที่รู้เรื่องดีที่สุด ก็ขึ้นอยู่กับคุณวิฑูรย์ว่าจะทำอย่างไร ขณะนี้รัฐบาลยังให้โอกาสอยู่ ไม่ใช่พอใครถูกกล่าวหาแล้วจะไปเล่นงานเขา ถ้าเราเล่นงานหมด เราก็แย่" นายสุเทพกล่าว

ส่วนที่ฝ่ายค้านอ้างว่าได้ข้อมูลจากนายสุทัศน์ เงินหมื่น ส.ส. สัดส่วน พรรคประชาธิปปัตย์ เพื่อใช้โจมตีนายวิฑูรย์นั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่มีมูล ไม่เชื่อข่าวนี้และไม่ต้องไปสอบถามใคร เพราะนายสุทัศน์ไม่มีหน้าที่อะไรในพรรค คนที่มีหน้าตรวจสอบคือคณะกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรคประชาธิปัตย์เท่านั้น

เผย มาร์ค เรียก วิฑูรย์ เข้าห้องเย็น

รายงานข่าวจากพรรคประชาธิปัตย์แจ้งว่า เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุปลากระป๋องเน่า นายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ ได้เรียกนายวิฑูรย์ มาสอบถามข้อเท็จจริง โดยนายวิฑุรย์ ยืนยันว่าปลากระป๋องที่เน่าได้มาจากการรับบริจาค ไม่ได้ใช้งบประมาณของกระทรวง พม.ในการจัดซื้อ และไม่มีส.ส.หญิงเข้าไปเกี่ยวข้องแน่นอน โดยนายอภิสิทธิ์ได้ยื่นคำขาดว่า หากตรวจสอบพบว่ามีการจัดซื้อที่ไม่โปร่งใส นายวิฑูรย์จะต้องรับผิดชอบโดยการออกจากตำแหน่ง ซึ่งนายวิฑูรย์ก็ยอมรับเงื่อนไขดังกล่าว นอกจากนี้แกนนำพรรคหลายคนได้แสดงความเป็นห่วง ว่า นายวิฑูรย์ชี้แจงไม่ชัดเจนมาตั้งแต่ต้น ทำให้พรรคเสียหายมาก และมีประชาชนบางส่วนได้สอบถามผ่านส.ส.ในแต่ละพื้นที่ว่า จะดำเนินการกับนายวิฑูรย์อย่างไร ซึ่งหากนายวิฑูรย์ต้องออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีจริง ตามโควตาภาคผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีแทนน่าจะเป็นนายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ รองหัวหน้าพรรค ดูแลภาคอีสาน แต่หากพิจารณาตามความอาวุโส น่าจะเป็นนายอิสสระ สมชัย ส.ส.อุบลราชธานี

วิฑูรย์ เสียงสั่นนายกฯเตรียมปรับออก

นายวิฑูรย์ ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมสภา ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ถึงคำถามที่ว่า นายกฯ ระบุว่าหลังจากเดินทางกลับจากประเทศสวิสฯ จะพิจารณาปรับครม. ว่า ได้ไปชี้แจงเรื่องถุงยังชีพให้นายกฯ รับทราบและเข้าใจระดับหนึ่งแล้ว รวมทั้งได้ทำหนังสือชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรว่าไม่มีการจัดซื้อถุงยังชีพแต่อย่างใด และหลังจากชี้แจงต่อสภาฯ แล้วจะยื่นข้อมูลเอกสารหลักฐานเรื่องการจัดซื้อถุงยังชีพให้กับคณะกรรมการชุดต่างๆ ตรวจสอบ และจะไม่ให้สัมภาษณ์จนกว่าผลการสอบสวนจะแล้วเสร็จ

รัฐมนตรีว่าการพม.ประกาศลั่นถ้าผิดพร้อมลาออก

ที่รัฐสภา นายสามารถ แก้วมีชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 เป็นประธานการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณากระทู้ถามสด เรื่อง ปลากระป๋องเน่าเสีย ที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย ถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

โดยนายจตุพร ถามว่า ขอให้มีการชี้แจงว่าทำไมตอนแรกบอกว่ามีการจัดซื้อ ต่อหลังมาบอกว่าเป็นการบริจาค ไม่รู้ว่าเพราะผลิตผิดกฎหมาย โรงงานถูกปิดไปแล้ว นอกจากนี้ขอท้ารัฐมนตรีกล้ากินปลากระป๋องชุดหนึ่ง 5 กระป๋องคนเดียวหมดหรือไม่

นายวิฑูรย์ นามบุตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ชี้แจงว่า ถ้าตนผิดคิดชั่ว นำของเน่าให้ประชาชน จะยินดีรับผิดชอบทางการเมือง ที่ตนแถลงสองครั้งไม่ตรงกัน ตรงนี้ก็ต้องแก้ไข และต่อไปจะไม่พูดอะไรง่ายถ้าไม่ได้ตรวจสอบละเอียด หากมีการทุจริตซื้อถุงยังชีพ ก็พร้อมรับผิดชอบทางการเมือง หากป.ป.ช. ชี้มูลมาก็จะลาออกและถ้ามีการทุจริต ก็จะเลิกเล่นการเมืองตลอดชีวิต และจะไม่ให้เสียมาตรฐานของพรรคประชาธิปัตย์และมาตรฐานของนายกฯ

วิปรัฐบาลเลื่อนกระทู้หลังถ่ายทอดสด

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ระหว่างการอภิปรายของนายจตุพร ได้มีส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ หลายคน พยายามลุกขึ้นประท้วงว่า อภิปรายนอกประเด็น และผิดข้อบังคับโดยไม่รักษาเวลา ทำให้ส.ส.พรรคเพื่อไทย ประท้วงกลับ พร้อมระบุว่า ทำไมไม่มีการถ่ายทอดทางเอ็นบีที ทั้งที่ประธานแจ้งว่า จะให้ถ่ายทอดสด

รายงานข่าวจากคณะกรรมการประสานงาน (วิป) รัฐบาล แจ้งว่า เดิมสภาฯ กำหนดให้กระทู้ปลากระป๋องเน่า เป็นกระทู้แรก เริ่มเวลา 13.00 น. ซึ่งจะอยู่ในช่วงการถ่ายทอดสดของเอ็นบีที ระหว่าง 11.00-14.30 น. ซึ่งอาจทำให้ภาพของพรรคประชาธิปัตย์เสียหายได้ จึงเลื่อนไปเป็นกระทู้ที่สอง เริ่มเวลา 15.00 น. แล้วนำกระทู้เรื่องที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติช่วยเหลือเกษตรที่ถูกยึดที่ดิน ซึ่งเป็นกระทู้ที่ 3 ขึ้นมาถามก่อน นอกจากนี้ ระหว่างพิจารณากระทู้ นายกรณ์ จาติกวนิช รัฐมนตรีคลัง ได้ไปพูดคุยนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานวิปรัฐบาล ขอให้ประสานไปยังรัฐมนตรีที่ยังอยู่ในสภาให้ขึ้นไปนั่งเป็นเพื่อนนายวิฑูรย์ บนที่นั่งรัฐมนตรี ปรากฏว่า มีนายไพรฑูรย์ แก้วทอง รัฐมนตรีแรงงาน และนายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยพาณิชย์ มานั่งเป็นเพื่อน รวมทั้งเรียก ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ให้เข้าไปนั่งในห้องประชุม เพื่อช่วยเหลือนายวิฑูรย์ หากฝ่ายค้านโจมตีหนัก

เพื่อไทยยื่นกกต.เอาผิด บุญจง เพิ่ม

ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย และนายคารม พลทะกลาง คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย เข้ายื่นหนังสือร้องต่อ กกต. ให้ตรวจสอบการทำหน้าที่ของนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 266 รวมทั้ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 22 และพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และ การได้มาซึ่ง ส.ว. พ.ศ. 2550 หรือไม่ กรณีนายบุญจงได้แจกเงินงบประมาณของกระทรวง พม. เพื่อสงเคราะห์คนยากไร้ และนามบัตรให้แก่ราษฎร พร้อมหลักฐานสำเนาภาพถ่ายหนังสือพิมพ์ รวมทั้งซีดีการปราศรัย เป็นหลักฐานมอบให้กกต.ด้วย

ผิดรัฐธรรมนูญ ม.266ให้เงินจูงใจเข้าพรรค

นายคารม กล่าวว่า คำร้องที่ยื่นให้กกต. มีประเด็นเพิ่มเติมจากที่ยื่นให้กับ ป.ป.ช. เพราะได้ตรวจสอบและทราบเรื่องจากชาวบ้านว่า ขณะที่นายบุญจงแจกเงินของ พม.แนบนามบัตรนั้น ได้มีการแนบใบสมัครพรรคภูมิใจไทยให้แก่ชาวบ้านด้วย จึงยื่นข้อกฎหมายมาตรา 22 ตาม พ.ร.บ.พรรคการเมือง พ.ศ.2550 ให้ กกต.ตรวจสอบว่า นายบุญจงกระทำการเข้าข่ายกฎหมายมาตราดังกล่าวหรือไม่ ที่ห้ามไม่ให้พรรคการเมืองหรือผู้ใดเสนอให้หรือสัญญาว่าจะให้เงิน ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม เพื่อจูงใจให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดสมัครเข้ามาเป็นสมาชิกของพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง หากฝ่าฝืนจะมีโทษตามมาตรา 109 ที่มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นายคารม กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยเพิ่งถูกจัดตั้งขึ้นในเดือนพฤศจิกายนและเปิดตัวได้ในเดือนมกราคม ซึ่งตาม พ.ร.บ.พรรคการเมือง มาตรา 26 บัญญัติว่า ใน 1 ปีจะต้องหาสมาชิกพรรคให้ได้ 5,000 คน การกระทำของนายบุญจงที่แจกเงินและนามบัตร ถือเป็นการให้ทรัพย์สินเพื่อจูงใจให้ชาวบ้านสมัครเป็นสมาชิก ผิดตามกฎหมายมาตรา 22 และ พ.ร.บ. เลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว. อย่างชัดเจน จะทำให้นายบุญจงต้องหลุดจากความส.ส.

เพื่อไทยลั่นให้ชาวบ้านเป็นพยาน30ม.ค.

เมื่อถามว่า กลุ่มเพื่อนเนวินยกมาตรา 268 ของ รัฐธรรมนูญ ที่ระบุว่า เป็นหน้าที่ของรัฐมนตรีที่สามารถทำได้ นายคารม กล่าวว่า คิดว่านายบุญจงจะต้องสู้ตามมาตรา 268 อยู่แล้ว ทางพรรคเพื่อไทย จึงยื่นมาตรา 22 พ.ร.บ.พรรคการเมือง เพื่อเป็นข้อต้อสู้เพิ่มจากที่นายเรืองไกร ได้ยื่นไว้ก่อนหน้านี้ เพราะถ้าการกระทำผิดจริงก็ถูกจำคุก และนายบุญจงก็ต้องหลุดจากการเป็นส.ส.และรัฐมนตรี

นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ในวันที่ 30 มกราคม จะนำหลักฐานมามอบเพิ่มเติมให้กับ ป.ป.ช. และกกต. โดยหลังจากที่ลงพื้นที่ใน จ.นครราชสีมา จะนำพยานบุคคลที่เป็นชาวบ้านในพื้นที่ที่ได้รับใบสมัครเป็นสมาชิกพรรคมาให้ปากคำเพิ่มเติม

เพื่อไทยเล็งฟันส.ส.พัวพัน บุญจง

ที่พรรคเพื่อไทย ได้มีการประชุมคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทยและส.ส.จำนวนหนึ่ง มีนายประยุทธ์ ศิริพาณิชย์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชนและประธานฝ่ายกฎหมายเป็นประธาน โดยนายศักดา คงเพชร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย เปิดเผยภายหลังว่า ที่ประชุมมีความเห็นว่าข้าราชการการเมือง โดยเฉพาะ ส.ส.ที่อยู่ร่วมในเหตุการณ์ ที่นายบุญจง ร่วมกับภรรยาแจกเงินสงเคราะห์ น่าจะมีความผิดร่วมกับนายบุญจง ด้วย โดยฝ่ายกฎหมายอยู่ระหว่างการรวบรวมรายชื่อข้าราชการการเมืองที่อยู่ในเหตุการณ์ ส่วนข้าราชการประจำจะไม่ดำเนินการอะไร เพราะถือว่าต้องปฏิบัติตามนโยบาย

กกต.โยน ปปช.-สภา สอบ บุญจง

นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต. ด้านบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวถึงกรณีนายบุญจงว่า สำนักกฎหมายและคดีกำลังดูข้อกฎหมายอยู่ว่า เป็นอำนาจหน้าที่กกต.จะสอบได้หรือไม่ และอาจนำเรื่องร้องเรียนที่พรรคเพื่อไทยร้องในภายหลังเข้ารวมเป็นคำร้องเดียวกัน

นายสมชัย จึงประเสริฐ กกต. ด้านกิจการสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย กล่าวว่า เรื่องนี้เมื่อร้องเข้ามาก็ต้องตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ เพราะการแจกเงินก็คือมีมูลแล้ว แต่ต้องดูข้อเท็จจริง ส่วนจะเป็นการหาเสียงล่วงหน้าหรือไม่นั้น หากเป็นช่วงหาเสียงก็เป็นหน้าที่ของกกต.แน่นอน แต่ขณะนี้ยังไม่มีพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) เลือกตั้ง กกต.ก็ยังไม่เข้าไปควบคุม อย่างไรก็ตาม นายบุญจงเป็น ส.ส.ถูกต้องไปเรียบร้อยแล้ว และไม่ได้ทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง แต่อาจทำผิดขณะเป็นรัฐมนตรี จึงเห็นว่า การตรวจสอบฝ่ายบริหารไม่น่าจะเป็นเรื่องของกกต. น่าจะเป็นหน้าที่ของป.ป.ช.มากกว่า หรือให้สภาที่เขาสังกัดเป็นผู้ตรวจสอบ ซึ่งหากประธานสภาผู้แทนราษฎรไม่ยอมส่งเรื่องที่ส.ส.หรือ ส.ว. ที่เข้าชื่อกัน 1 ใน 10 ส่งศาลรัฐธรรมนูญตามมาตรา 91 ของรัฐธรรมนูญ จึงค่อยส่งให้ กกต.ตรวจสอบฝ่ายบริหารได้

บุญจง ยังไม่เข็ดบอกจะเปิดบ้านแจกเงินต่อ

ที่กระทรวงมหาดไทย นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ตอบคำถามผู้สื่อข่าว ที่ว่า เคยระบุว่าจะมอบเงินให้กับประชาชนอีกในช่วงปลายสัปดาห์นี้ ยังยืนยันว่าจะดำเนินการต่อหรือไม่ ว่า หากได้รับการประสานจากส่วนราชการพร้อมจะทำหน้าที่ ไม่ว่าจะมอบที่บ้านตนหรือที่ไหน สามารถไปได้หมด เพราะที่ผ่านมามีการทำหนังสือจากส่วนราชการประสานมา และไม่ได้หวังผลทางการเมือง เพราะในพื้นที่ ไม่มีการเลือกตั้ง และไม่ได้เป็นการประพฤติมิชอบ เบียดบังเงินของรัฐ เมื่อได้รับงบประมาณมา 100,000 บาท ทำการแจกจ่ายให้ประชาชน 200 คน คนละ 500 บาท ถ้าเป็นธนบัตรใบละ 500 แจกคนละ 1 ใบ ถ้าเป็นใบละ 100 แจกให้คนละ 5 ใบไม่มีส่วนไหนเลยที่ยักยอกมาเป็นของตัวเอง จึงไม่ถือเป็นการทุจริต แต่เมื่อมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าทำเกินหน้าที่ ขอยืนยันว่าไม่มีอะไรที่ทำเกินไป และไม่รู้สึกเข็ด เพราะอาสาเข้ามาทำงาน เพื่อจะดูแลประชาชนอยู่แล้ว ไม่มีการเย็บนามบัตรติดไปกับเงิน สื่อมวลชนเองก็ทราบ

ชวรัตน์เชื่อการกระทำของ บุญจง ไม่ผิด

นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า เชื่อว่าการกระทำของนายบุญจงไม่เป็นความผิด แต่ก็ได้ว่ากล่าวตักเตือนว่าไม่ควรทำการใดๆที่หมิ่นเหม่ต่อกฎหมายอีก

"เรื่องการปรับครม.เป็นเรื่องของผู้ที่มีอำนาจจะตัดสินใจ แต่คงไม่ติดต่อหรือพูดคุยกับพรรคประชาธิปัตย์ในเรื่องนี้ รวมถึงในพรรคภูมิใจไทยก็ไม่คิดว่าจะมีการเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลองคิดดูว่าจะให้ใครมาเป็นแทน เพราะส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปีไปแล้ว" นายชวรัตน์ กล่าว

เมื่อถามว่าเรื่องนายบุญจงจะเป็นชนวนสั่นคลอนเสถียรภาพรัฐบาลหรือไม่ นายชวรัตน์กล่าวว่า สื่อควรใช้วิจารณญาณ หากคนไม่ทำงานก็คงไม่มีปัญหาอะไร ส่วนคนทำงานย่อมมีการพลาดพลั้งได้ เชื่อว่าผู้ใหญ่จะมีวิจารณญาณที่ดี

ส.ส.เพื่อไทยโดนฟ้องแจกเงินเหมือนกรณีบุญจง

นายเจริญ แซ่เต็ง อดีตนายกเทศมนตรีตำบลบ้านโต้น อ.พระยืน จ.ขอนแก่น แถลงข่าวกรณีแจ้งความดำเนินคดีกับนายสุรชัย เบ้าจรรยา ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย นายสมาส นามพิกุล สมาชิก อบจ.ขอนแก่น และนายทนงค์ ริมหนองเรือ ที่ สภ.พระยืน เมื่อวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา ในข้อหาแจกเงินให้กับผู้มีสิทธิเลือกตั้งนายกเทศมนตรีและสท. ว่า ตนได้ลงสมัครรับเลือกตั้ง มีคู่แข่ง คือ นายสงวนศิลป์ โดยระหว่างการหาเสียง กลุ่มนายสงวนศิลป์ ได้ขอรับการสนับสนุนเงินสงเคราะห์ต่อผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาสังคม ที่ 5 ขอนแก่น มีนายทนงค์ เป็นผู้ยื่นเรื่อง และมีการนำเงินมาแจกให้กับประชาชนรอบแรก 100 คน คนละ 1,000 บาท นัดจ่ายที่บ้านพักนายสุรชัย ที่ตั้งอยู่ห่างจากเทศบาล ต.บ้านโต้น ประมาณ 11 ก.ม. เมื่อวันที่ 4 มกราคมที่ผ่านมา ต่อมาวันที่ 19 มกราคม มีชาวบ้าน 386 คนไปรับเงินช่วยเหลือรอบสองที่บ้านนายสุรชัย คนละ 1,000 บาท ก่อนการเลือกตั้งเพียง 6 วัน และพบว่า รายชื่อผู้ยากไร้บางรายเป็นมารดาผู้สมัคร บางรายเป็นอาจารย์ระดับ 7 รวมแล้วมีการแจกเงิน 3 แสนบาท

"กรณีนี้คล้ายกับการร้องเรียนกรณีนายบุญจง แต่แตกต่างกันคือ ที่โคราชไม่มีการเลือกตั้ง แต่ที่ขอนแก่น เป็นการแจกในช่วงการหาเสียงเลือกตั้ง น่าจะเข้าข่ายความผิดตามระเบียบการเลือกตั้ง" นายเจริญ กล่าว

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook