จำคุก 6 โจ๋ คนละ6เดือน-ปรับ100บาท ฐานยกพวกต่อย “ลูกชายชูวิทย์”

จำคุก 6 โจ๋ คนละ6เดือน-ปรับ100บาท ฐานยกพวกต่อย “ลูกชายชูวิทย์”

จำคุก 6 โจ๋ คนละ6เดือน-ปรับ100บาท ฐานยกพวกต่อย “ลูกชายชูวิทย์”
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(2 ก.ค.) ที่ห้องพิจารณาคดี 812 ศาลอาญา ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อ.2358/2556 ที่พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายกฤษฎา นัยสดับ อายุ 28 ปี นายพรชัย อายุ 19 ปี นายอดุลวิทย์ เอกมหาชัย อายุ 23 ปี นายสุรศักดิ์ สัมฤทธิ์ อายุ 23 ปี นายณรงค์ฤทธิ์ สิงห์ศรีโว อายุ 22 ปี และนายธนาชัย นัยสดับ อายุ 33 ปี

เป็นจำเลยที่ 1-6 ในความผิดร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธมีดและพกพาอาวุธมีดไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ซึ่งจำเลยทั้งหมดให้การปฎิเสธ

โจทก์ฟ้องระบุพฤติการณ์ว่าเมื่อวันที่ 15 เมษายน 2556 เวลากลางคืน จำเลยทั้ง 6 คน ได้ร่วมกันพกพาอาวุธมีดปลายแหลมยาวประมาณ 6 นิ้ว จำนวน 1 เล่ม ไปในซอยประชาสงเคราะห์ 3 แขวงและเขตดินแดง กทม.

แล้วได้ปล้นเอานาฬิกาข้อมือยี่ห้อบลูการี จำนวน 1 เรือน ราคา 8 หมื่นบาทของนายต่อตระกูล กมลวิศิษฎ์ อายุ 17 ปี ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นบุตรชายนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย และใช้มือชกเข้าบริเวณศีรษะของผู้เสียหายจำนวน 2 ครั้ง

จนเป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับอันตรายแก่กายและใช้อาวุธมีด เพื่อใช้ในการกระทำความผิดโดยขู่เข็ญว่าจะใช้อาวุธมีดทำร้ายให้ได้รับอันตรายแก่ชีวิตหากขัดขืน

เหตุเกิดที่แขวงและเขตดินแดง กทม. ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83,91,340 และ 371 และให้จำเลยร่วมกันคืนหรือชดใช้ราคาทรัพย์ 80,000 บาทแก่ผู้เสียหายด้วย

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า โจทก์มีเพื่อนของผู้เสียหายเบิกความว่า ขณะเกิดเหตุสังเกตเห็นว่ามีคนเดินตามมา 4 คนแล้วบอกให้หยุด โดยหนึ่งในกลุ่มคนร้ายถามว่ามีนาฬิกาหรือไม่ ผู้เสียหายบอกว่าไม่มี

จากนั้นกลุ่มคนร้ายจึงได้ชกไปที่ศีรษะผู้เสียหาย 2 ครั้ง และหนึ่งในคนร้ายได้ชักอาวุธมีดออกมาแล้วแกว่งไป จากนั้นจึงพากันวิ่งหนี ขณะที่ผู้เสียหายได้โยนนาฬิกาลงพื้นไป เพราะเกรงว่าคนร้ายจะตามมา

ส่วนนายต่อตระกูล กมลวิศิษฎ์ ผู้เสียหาย เบิกความว่า ระหว่างเดินเข้าบ้านมีคนร้ายเดินตามมา 4 คน และขี่รถจักรยานยนต์มาสมทบอีก 2 คนจากนั้นจึงชกเข้าที่บริเวณศีรษะ โดยสามารถจดจำได้ว่าจำเลยที่ 6 เป็นคนชกศีรษะและชักอาวุธมีดออกมา จากนั้นจึงพากันวิ่งหนี

แต่ด้วยความกลัวจึงปานาฬิกาที่ติดตัวมาลงพื้น และวิ่งไปหลบที่ตึกบริเวณใกล้เคียง ซึ่งมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.)ยืนอยู่ โดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตะโกนออกไปว่า พวกมึงมาทำอะไรแถวนี้ ทำให้กลุ่มคนร้ายที่วิ่งตามมาต่างพากันเดินกลับไป เห็นว่าผู้เสียหายและพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ ต่างเบิกความสอดคล้องตรงกัน

ประกอบกับผลตรวจจากแพทย์ยืนยันว่า ผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลฟกช้ำ จึงฟังได้ว่าจำเลยทั้ง 6 คน ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้เสียหายให้เกิดอันตรายแก่กาย และพกพาอาวุธมีดไปในเมืองฯจริง แต่ผู้เสียหายและพยานไม่ได้เบิกความยืนยันให้เห็นว่าคนร้ายคนใดหยิบนาฬิกาของผู้เสียหายไป

จึงพิพากษาว่าจำเลยทั้ง 6 คน มีความผิดฐานร่วมกันทำร้ายร่างกาย ลงโทษจำคุกคนละ 6 เดือน และฐานพกพาอาวุธมีดไปในเมืองฯ ปรับ 100 บาท รวมโทษจำคุกคนละ 6 เดือน และปรับ 100 บาท ส่วนข้อหาอื่นให้ยกฟ้อง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook