ตร.พบมือยิงสมยศหนีไปซอยรามฯ24-รอสอบลูกชาย

ตำรวจไล่เช็ก CCTV หาเบาะแสและเส้นทางหลบหนีคดียิง 'สมยศ' - เชิญลูกชายและภรรยาคนที่สองสอบต่อ ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ขณะที่ พล.ต.อ.เรืองศักดิ์ เผย ผบ.ตร. กำชับทำคดีให้รอบคอบและรัดกุมที่สุด

เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนนครบาล 5 ร่วมกับตำรวจกองปราบปราม เข้าคลี่คลายคดีลอบสังหาร นายสมยศ สุธางค์กูร อดีตเจ้าของพระราม 9 คาเฟ่ โดยในวันนี้เจ้าหน้าที่จะทำการไล่ตรวจกล้องวงจรปิดใหม่ทั้งหมดตั้งแต่ช่วงก่อนเกิดเหตุ ระหว่างเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ โดย พ.ต.อ.สุพัฒน์ พึ่งพวง ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวนนครบาล 5 เปิดเผยว่า ในวันนี้ได้เชิญ พ.ต.อ.สุทิน ทรัพย์ม่วง รองผู้บังคับการกองปราบปราม พร้อมชุดสืบสวนจากกองกำกับการ 1 กองปราบปราม มาร่วมทำการตรวจสอบ และลำดับเหตุการณ์ในช่วงที่คนร้ายก่อเหตุ รวมถึงให้ทราบถึงเส้นทางการหลบหนี

เบื้องต้น ภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่า จุดแรกที่พบภาพคนร้ายทั้ง 2 คน อยู่บริเวณใกล้ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์รามคำแหง ก่อนที่เข้ามาในพื้นที่ใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ และภายหลังก่อเหตุประมาณ 10 นาที พบภาพคนร้ายในจุดสุดท้ายบริเวณซอยรามคำแหง 24 ส่วนรถจักรยานยนต์ของคนร้ายนั้น เจ้าหน้าที่ยังทราบเพียงสีของรถ โดยรายละเอียดอื่น ๆ จะทำการเชิญผู้เชี่ยวชาญมาร่วมทำการตรวจสอบอีกครั้ง

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่จะมีการเชิญบุตรชายของ นายสมยศ ที่เกิดจากภรรยาคนที่สองมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อมุ่งหาปมสังหารต่อไป โดยยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง แต่ยังเน้นไปที่เรื่องส่วนตัวและคนใกล้ชิด

ผบ.ตร. กำชับทำคดียิง 'สมยศ' รอบคอบ

พล.ต.อ.เรืองศักดิ์ จริตเอก รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงความคืบหน้าคดีคนร้ายยิง นายสมยศ สุธางค์กูร อดีตเจ้าของพระราม 9 คาเฟ่ เสียชีวิต เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน ที่ผ่านมาว่า พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กำชับให้ทำคดีอย่างรอบคอบและรัดกุมที่สุด ขณะเดียวกันได้กำชับสั่งการให้ตำรวจกองปราบปรามเร่งแกะรอยและหากลุ่มมือปืนที่ต้องสงสัย พร้อมมอบหมายให้ พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล สืบสวนสอบสวนหาความเชื่อมโยงของประเด็นการสังหาร ทั้ง 3 เรื่องโกงพนัน ที่ดินพระราม 9 ตลอดจนประเด็นวิ่งให้หลุดคดี หากพบความเชื่อมให้จัดทีมสืบสวนลงพื้นที่ขยายผลต่อทันที ขณะที่ให้ตำรวจนครบาลและตำรวจ สน.คลองตัน ประสานขอเข้าตรวจค้นและหาเบาะแสบ้านของ นายสมยศ เพิ่มเติมด้วย

อย่างไรก็ตาม รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ในวันนี้ตนจะเดินทางไปที่ สน.คลองตัน เพื่อร่วมสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม รวมไปถึงประชุมเร่งรัดคดีด้วย พร้อมยืนยันว่า ตำรวจทำคดีนี้อย่างจริงจังและไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด แต่ยอมรับว่า นายสมยศ มีธุรกิจคู่ขัดแย้งจำนวนมาก คดีจึงมีความซับซ้อนจึงต้องใช้เวลาเพื่อให้รอบคอบและรัดกุมที่สุด

ตร.ชี้สอบบุคคลใกล้ชิดเสี่ยสมยศเกือบครบแล้ว 

พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผู้บังคับการกองบังคับการสืบสวนสอบสวน เปิดเผยว่า ได้เชิญภรรยาและบุตรสาวของ นายสมยศ สุธางค์กูร และทีมทนายความของ นายสมยศ มาสอบปากคำในประเด็นการต่อสู่คดีของ นายสมยศ กว่า 20 คดี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด มีมูลค่าคดีละกว่า 10 ล้านบาท ซึ่งมีทั้งแพ้และชนะคดี ทำให้มีการทวงถามขอเงินต่อสู้คดีคืนจาก นายสมยศ ส่วนบุคคลใกล้ชิดได้เชิญมาสอบปากคำเกือบครบทุกประเด็นแล้ว โดยวันนี้มุ่งประเด็นไปที่ธุรกรรมทางการเงินของ นายสมยศ ว่าได้ทรัพย์สินมาจากที่ใดบ้าง และหนี้สินมีอยู่เท่าไร รวมทั้งความขัดแย้งในครอบครัว

ซึ่งขณะนี้ตำรวจยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง แต่ให้น้ำหนักไปที่เรื่องเงินของ นายสมยศ ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับเงินค่าจ้างว่าความคดีหรือไม่ ไม่สามารถตอบได้ เนื่องจาก นายสมยศ รับทำคดีจำนวนมาก และเป็นคดีที่มีมูลค่าสูง