แตงโมร่ำไห้แถลงคิดสั้นน้อยใจห่างโตโน่หวังคืนดี

แตงโมร่ำไห้แถลงคิดสั้นน้อยใจห่างโตโน่หวังคืนดี

แตงโมร่ำไห้แถลงคิดสั้นน้อยใจห่างโตโน่หวังคืนดี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สาว 'แตงโม' ร่ำไห้ แถลงข่าวเปิดใจ ยอมรับสภาพจิตใจอ่อนแอ เกิดอารมณ์ชั่ววูบ คิดฆ่าตัวตาย ขอโทษพ่อ ทำให้ผิดหวัง ลั่นยัง รัก 'โตโน่' มาก ขณะที่พ่อยันไม่คิดโกรธ ด้าน หนุ่ม 'โตโน่' เตรียมแถลงพรุ่งนี้ 17.00 น.

จากกรณีช็อกวงการบันเทิง เมื่อนางเอกสาว แตงโม ภัทรธิดา กินยานอนหลับเกินขนาด จนเพื่อนสนิทนำตัวส่งโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ประชาชื่น โดยด่วน โดยสาเหตุที่หลายคนคาดว่า นางเอกสาว คิดสั้นนั้น อาจเกิดอาการน้อยใจที่ หวานใจหนุ่ม โตโน่ ภาคิน ประกาศโสดกลางเวทีคอนเสิร์ต ล่าสุด วันนี้ (7 ก.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น. แตงโม ภัทรธิดา และ นายโสภณ พัชรวีระพงษ์ คุณพ่อ พร้อมกับ นพ.คมสัน อังคณานุพงศ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรกรรม ประจำโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ประชาชื่น ร่วมกันแถลงข่าว ท่ามกลางกองทัพสื่อมวลชนที่มารอทำข่าวอย่างคับคั่ง 

"ก่อนอื่นต้องขอประทานโทษทางโรงพยาบาลที่มีรูปตัวหนูเองหลุดโดยเพื่อนสนิท และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยปกติไม่ว่าจะเป็นเรื่องรักษาในโรงพยาบาลไม่สมควรมีภาพออกไปได้ ต้องขอโทษแทนทางเพื่อนสนิทด้วย ตอนเข้ามาก็ไม่ได้รู้สึกตัวแล้ว ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เพิ่งมาทราบเรื่องทีหลัง ก็เลยให้เพื่อนลบรูปออกไป เพราะอาจจะเกิดผลเสียต่อโรงพยาบาล ในเหตุผลของเพื่อน เป็นช่วงที่เขาทนรับสภาพของโมไม่ไหวเหมือนกัน เขาอยากจะให้ได้เห็นในมุมนึงในมุมที่หนูอ่อนแอมาก อยากจะขอโทษตรงนี้ด้วย ส่วนเรื่องของตัวหนูเอง อย่างที่คุณหมอบอก หนูมีโรคประจำตัวอยู่แล้ว การที่ได้รับคำพูด หรือเหตุการณ์ในชีวิตช่วงนี้ค่อนข้างหนักมาก ภายนอกเหมือนจะรับไหว แต่ว่าข้างในอ่อนแอมาก และหนูจะไม่ค่อยได้ระบายให้คนฟังมาก แม้แต่คุณพ่อ เพราะไม่อยากให้ท่านเครียดไปด้วย มันเป็นวินาทีที่ขาดความยั้งคิด เป็นอารมณ์ชั่ววูบไปบ้าง ณ ตอนนั้น ด้วยความน้อยใจหลายๆ อย่าง ทำให้ขาดสติ และคิดว่าไม่อยากจะอยู่รับกับอะไรหลายๆ เรื่อง จากที่สันนิษฐานคำพูดโตโน่ อันนั้นมันเป็นแค่ส่วนเล็กๆ เท่านั้นเองค่ะ มันไม่ใช่ตลอดระยะเวลาที่เราห่างกัน ช่วงนั้นมันค่อนข้างคลุมเครืออย่างที่ทุกคนเห็นค่ะ ก่อนหน้านั้น เราเคยให้สัมภาษณ์ไป โตโน่ตัดสินใจออกจากบ้านไป แต่ว่ายังคงมีการติดต่อตลอดเวลา ของทุกอย่างยังเหมือนเดิม หนูต้องอยู่ในที่เดิมๆ ต้องนอนคนเดียว ในที่เคยนอนด้วยกัน เคยคุยด้วย เคยมีกำลังใจ โมก็ติดต่อไปให้กำลังใจกับเขา แต่ว่าในส่วนตัวหนูเอง หนูต้องทนอยู่กับสภาพแวดล้อม

อาการของหนู ทำงานหนักไม่ต่างกัน มันค่อนข้างหนักสำหรับชีวิตหนู เพราะหนูก็เป็นคนนึงที่ตกลงตัดสินใจแต่งงานกับผู้ชายคนนึง คนที่ทุ่มเทความรักมากๆ บูชาความรักมากๆ มันเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดความผิดหวัง ตลอดเวลาที่เขาหายไป เขาไม่เคยกลับมาอีกเลย เวลาส่งอะไรไป มีการอ่าน แต่ไม่มีการตอบ เราห่างกันแต่ไม่มีใครพูดหย่าร้างออกมาเลย หนูไม่รู้จะทำยังไง ตัดสินใจยังไง เมื่อคริสเตียนมอบความรักให้ใครแล้ว ถ้าหย่าร้างกัน ผู้หญิงไม่สามารถแต่งงานได้ หนูเป็นคนนึงที่ยึดถือเรื่องนี้ และไม่คิดจะมีใครใหม่ หนูอาจจะผิดเองที่ตั้งความหวังอยากจะกลับมาเป็นครอบครัวกันอีก ทางบ้านหนูเจออะไรหลายๆ อย่าง คุณพ่อเพิ่งเสียพี่สาวไป เรียกว่าที่บ้านหนูมีแต่ปัญหา โดยที่หนูไม่รู้จะหันหน้าไปคุยกับใครได้เหมือนเมื่อก่อน หนูมีเพื่อน มีพระเจ้าที่หนูควรพึ่งพาเขา ควรจะรักตัวเอง ควรจะเป็นแบบอย่างที่ดี หนูผิดที่ไม่ได้นึกถึงใครเหล่านี้เลย ลืมว่ายังมีคนรักเราอีกมากมาย คนที่เจ็บที่สุดคือ พระเจ้า และคุณพ่อหนู หลังจากเกิดเรื่องไม่ได้รับการติดต่อจากโตโน่ไหม (ส่ายหน้าพร้อมร้องไห้) หลังจากนี้ จริงๆ หนูยังไม่กล้าพูดอะไร เพราะว่าสภาพจิตใจตอนนี้มันยังสับสนในหลายๆ อย่าง ในความเป็นจริง หนูก็ควรจะตัดใจเดินหน้าต่อไป แต่หนูบอกไม่ได้ว่าจะทำได้หรือเปล่า การที่เราเคยเถียงกันก่อนจะแยกหายไปนานครั้งนี้ คุณพ่อเคยบอกโตโน่ว่า ขอบคุณเขา มีช่วงนึงที่เขาทำหน้าที่ของเขาสุดความสามารถแล้ว คอยอยู่เคียงข้างเวลาหนูไม่มีใคร ไม่มีตังแม้แต่บาทเดียว ตอนเราคบกันเราก็โดนด่า เราห่างกันเราก็โดนด่า เหมือนหนูเป็นจำเลยของสังคมไป มีครั้งนึงที่เราพยายามจะกลับมาปรับความเจ้าใจกัน หนูยืนยันว่าจะสู้ปัญหาเดินหน้าต่อไปกับเขา ขอโทษเขาในสิ่งที่เคยทำผิดไป หรือสิ่งที่เคยไม่เข้าใจกัน หนูกราบขอโทษแม่น้อย แม่น้อยขอให้หนูเจริญๆ มันก็เหมือนเป็นสัญญาณอย่างนึงที่บอกว่าต้องจากกันแล้วหรือเปล่า และกราบขอโทษที่ตักโตโน่ เขาก็บอกให้หนูเดินตามทางพระเจ้าตามที่เขาตั้งใจไว้ ทุกครั้งที่เขาใหัข่าวก็ไม่เคยได้ยินคำว่าหย่าจากปากเขา ทุกวันนี้ของเขายังอยู่ที่เดิมทุกชิ้น หนูไม่รู้คำตอบคืออะไร เลิกกันหรือยัง หรือว่ามันคืออะไร หนูสับสน หนูทำแล้วทุกวิถีทาง ทำแล้วจริงๆ มันเป็นเรื่องธรรมดาที่ชีวิตคู่จะไม่เข้าใจกัน หนูยังรักเขาเหมือนเดิม ทุกวันนี้ก็ยังรัก

ขอบคุณคนรอบข้างมากเลยค่ะที่เข้าใจแล้วก็ไม่ซ้ำเติม อย่างที่บอกว่าไม่มีใครคิดว่าจะฟื้นขึ้นมาอีก คนรอบข้างต้องพูดอยู่แล้วว่าอย่าทำแบบนี้อีก หนูจะพยายามประคับประคองอาการของหนูไม่ให้อ่อนแอมากเกินไป ถ้าหนูไม่มีเรื่องกระทบกระเทือนจิตใจจากคนที่หนูรักจริงๆ หนูจะไม่ทำแบบนี้ ตามที่หนูเคยให้คำสัญญาไป หนูก็ยังทำมันมาจนถึงวันนี้ หนูเลือกแล้ว ตัดสินใจไปแล้ว หนูจะรักษาสัญญาต่อไป สำหรับที่ข้อมือ ก็ทำไปโดยที่ไม่รู้ หลังจากที่ทานยาเข้าไป แต่ขอบคุณพระเจ้าที่ยังช่วยชีวิตหนู แผลลึกไหม หนูไม่ได้เปิดดูเลย ตอนตอบข้อความเพื่อนในไอจี โมเป็นคนตอบเองค่ะ สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สำหรับตัวหนูต้องยอมรับความจริงทั้งสองด้าน ทั้งคนที่ให้กำลังใจและเหยียบย่ำซ้ำเติม หนูพอทีอยู่แล้วค่ะมันเอฟเฟกต์มันจะเป็นยังไง อยากให้คิดว่าไม่เกิดกับตัวคงจะไม่รู้ ว่าคนมันอ่อนแอมากๆ แต่พยายามจะเข้มแข็งมันเป็นยังไง ไม่ว่าจะเป็นคำเหยียบย่ำอะไรก็ตามหนูรับไว้ทั้งหมด อย่าไปต่อว่าโตโน่เลย ให้กำลังใจหนูก็ให้กำลังใจโน่ด้วย เพราะเขาเป็นคนที่หนูรักมากคนนึงค่ะ ที่ผ่านมาไม่เคยเสียใจที่ตัดสินใจแต่งงาน รู้สึกภูมิใจและดีใจมากที่สุดค่ะ ไม่งั้นหนูคงไม่มีชื่อเขาอยู่บนเรือนร่างของหนูค่ะ หากคำตอบต้องเลิกกันก็ต้องนับคำตอบค่ะ ถามว่าอยากจะบอกอะไร ก็หนูพิมบอกเขาคร่าวๆ ไปแล้วบ้าง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นไม่ว่าจะทำอะไรผิดไปก็ขอโทษและขอบคุณที่เข้ามาในชีวิตหนู ขอเป็นกำลังใจให้เขาต่อไป มันมีเรื่องหลายเรื่องที่หนูรู้แต่ไม่สามารถพูดได้ เพราะมันค่อนข้างขัดแย้งกับภาพที่ออกมา ก็ยังรักและสนับสนุนต่อไป เรื่องจดทะเบียนค่ะ แต่เราอยู่กันฉันท์สามีภรรยาค่ะ ที่เราไม่จดทะเบียน เนื่องจากความยุ่งยากในเรื่องชองเอกสารมากกว่าเลยไม่ได้เร่งรีบอะไรค่ะ เรื่องมือที่สามไม่มีแน่นอน แต่มันเป็นเรื่องความน้อยใจ จริงๆ สิ่งที่ทำร้ายจิตใจหนูไม่ใช่คำพูดนั้นเลย แต่มันเป็นเรื่องหลังไมค์มากกว่า"

ด้าน นายแพทย์คมสัน อังคณานุพงศ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรกรรม ประจำโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ประชาชื่น เผยว่า "อาการขณะนี้ น้องแตงโมปลอดภัย อาการทางการแพทย์ระดับความรู้สึกตัว ความดัน ชีพจร อยู่ในเกณฑ์ปกติ พ้นขีดอันตราย แต่เนื่องจากน้องโมเองมีเรื่องทางด้านจิตใจอยู่แล้ว ปกติได้รับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอยู่แล้ว อยู่ในการพักฟื้น ขณะนี้ถ้าน้องโมต้องดูแลทางด้านจิตใจเป็นหลัก วันที่เข้ามาในห้องฉุกเฉินในการรู้สึกตัวน้อยมาก มาจากไซค์เอฟเฟกต์ของตัวยา เป็นยานอนหลับ ถ้าปริมาณมากเกินไป ความรู้สึกตัวจะน้อยลง ซึ่งเป็นอันตรายต่อผู้ป่วย ปริมาณยาเยอะไหมก็ประมาณ 10 เม็ดครับ อยู่ในโดสที่ค่อนข้างมากทีเดียว ประกอบอาการที่เกิดขึ้นคนไข้รู้สึกตัวน้อยมาก ไม่สามารถตอบสนองได้ ยาในกลุ่มการนี้ ถ้ากดการหายใจ ก็อาจจะถึงขั้นเสียชีวิตได้ แผลที่ข้อมือไม่ได้ลึกมากครับ ก็เป็นการทำแผลรอยของมีคมตื้นๆ ครับ ส่วนในเรื่องของภาพที่หลุดออกไปก่อนหน้านั้น ทางพยาบาลมีนโยบายชัดเจนว่าห้ามถ่ายภาพ แต่ในขณะนั้นต้องดูแลคนไข้เป็นหลักจึงไม่ทันได้ระวัง หลังจากนี้ก็ต้องระวังมากขึ้นนะครับ ถ้าเห็นก็คงต้องห้ามและไม่อนุญาตให้ถ่ายทำนะครับ ในห้องฉุกเฉินคือต้องให้ญาติคนสนิทเข้าไปได้ เนื่องจากต้องซักถามเกี่ยวกับข้อมูลเกี่ยวกับตัวคนไข้"

ส่วนทางด้านคุณพ่อของดาราสาวเปิดเผยเพิ่มเติมว่า ""ครอบครัวเราเป็นครอบครัวเล็กๆ มีกันแค่สองคน ทุกคนอาจจะเข้าใจผิดได้ ที่จริงเมื่อคืนโน่โทรมา แต่พ่อไม่รับสาย ไม่ได้โกรธ ครอบครัวเรามีสองคน พอมีคนเข้ามาพ่อก็ต้อนรับ แต่พอเขาออกไป ก็ไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว"


โตโน่เตรียมแถลงปมแตงโมพรุ่งนี้ 17.00 น.

กำลังเป็นข่าวฮอตในโลกโชเชียลยังเม้าท์กันไม่จบ จากกรณีที่ นักแสดงสาว “แตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์” มีปัญหาด้านความสัมพันธ์ เกิดอาการน้อยใจ “โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์” ที่ห่างเหินไปกว่า 2 เดือน แถมยังประกาศว่า โสด บนเวทีคอนเสิร์ตอีก จนเกิดปมเป็นประเด็นคิดสั้นให้ สาวแตงโม กินยานอนหลับเกินขนาดถึง 10 เม็ด จนเพื่อนสนิทหามส่งโรงพยาบาลล้างท้องได้ทัน และได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวถึงสาเหตุการคิดฆ่าตัวตาย เป็นแค่อารมณ์ชั่ววูบ ซึ่งผู้สื่อข่าวได้นำเสนอไปแล้วนั้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นฝากหนุ่ม โตโน่ ก็ยังไม่ได้มีปฏิกิริยา ออกมาให้เห็นแต่อย่างใด

แต่ล่าสุด มีคนเห็นชื่ออินสตราแกรมคล้าย ๆ บัญชีชื่อของโตโน่ เข้าไปกดไลค์คำคม ผู้ชายหน้าโง่ที่รักผู้หญิงจนยอมทิ้งทุกอย่าง ซึ่งยังไม่แน่ใจว่า ใช่ไอจี โตโน่ มากดไลค์จริงหรือไม่ และต้องการสื่อถึงอะไร งานนี้ก็ต้องรอให้หนุ่มโตโน่ มาตอบเอง โดยนักร้องหนุ่มจะตั้งโต๊ะแถลงข่าวถึงปมแตงโมคิดสั้น พรุ่งนี้ (8 ก.ค.) เวลา 17.00 น. ที่ตึกแกรมมี่

ความคืบหน้าจะเป็นอย่างไร ผู้สื่อข่าวจะนำมาเสนอต่อไป


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook