คุกปล่อยตัว14นศ.แล้ว-คสช.รับมีกลุ่มเคลื่อนไหว

จนท.ปล่อยตัว14 นศ. แล้ว ญาติมารอรับ ขณะ 1ใน นศ. เผย ได้รับการดูแลอย่างดี จ่อเคลื่อนไหวต่อ ปัดมีคนหนุนหลัง ด้าน คสช. รับ ยังมีกลุ่มจ้องเคลื่อนไหวขยายผล เร่งติดตามคนอยู่เบื้องหลัง

บรรยากาศบริเวณหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร มีกำลังตำรวจจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 จำนวน 1 กองร้อย ทั้งในและนอกเครื่องแบบ จัดกำลังดูแลความเรียบร้อยในพื้นที่ ซึ่งจะมีการปล่อยตัวนักศึกษา ทั้ง 14 คน หลังศาลยกคำร้องฝากขัง ผลัดที่ 2 ของพนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฎร์ เมื่อวานนี้ ซึ่งนักศึกษาชาย 13 คน ถูกควบคุมที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ขณะที่นักศึกษาหญิง 1 คน ถูกควบคุมที่ทัณฑสถานหญิงกลาง พร้อมกันนี้ ตำรวจได้นำรถควบคุมผู้ต้องหาจำนวน 2 คัน มาจอดไว้ที่ด้านหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และไม่พบว่ามีกลุ่มเพื่อนนักศึกษา หรือ ประชาชน อยู่ค้างคืนที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ โดยคาดว่าจะเดินทางมารับเพื่อนนักศึกษาช่วงเช้าวันนี้

เจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ได้ปล่อยตัว นักศึกษาชาย 13 คน และ ทัณฑสถานหญิงกลาง ได้ปล่อยตัว นักศึกษาหญิง 1 คน แล้ว หลังจากศาลทหารมีคำสั่งปล่อยตัว โดยทางเจ้าหน้าที่ ได้นำ นักศึกษาทั้งหมด ขึ้นรถตู้ แล้วพามาส่งบริเวณประตูด้านหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครขณะที่ ทัณฑสถานหญิงกลาง ได้คุมตัว นางชลธิชา แจ้งเร็ว หรือ ลูกเกด ขึ้นรถตู้ ไปส่งที่บ้าน ย่านสะพานใหม่ ทำให้มารดาของ ลูกเกด ไม่พอใจ และโวยวาย ว่า ญาติและเพื่อนมารอ อยู่ที่ ด้านหน้าเรือนจำ แต่กลับพาไปส่งที่สะพานใหม่

ทั้งนี้ หลังจากนักศึกษาชาย ถูกปล่อยตัวแล้ว ได้ มาตั้งแถวหน้ากระดาน และกอดคอ ร่วมกันร้องเพลง "บทเพลงของสามัญชน" โดยมี ญาติ กลุ่มเพื่อน และคณาจารย์ มารอต้อนรับและร้องเพลงร่วมกันและในทันที ที่กลุ่มนักศึกษา ได้เจอหน้า พ่อ แม่ ที่มารอรับ ต่างโผเข้าสวมกอด ด้วยความดีใจ และยังมีประชาชน ที่มารอต้อนรับ และให้กำลังใจ ก็ ต่างเข้ามาขอถ่ายรูป กัจำนวนมาก

ทางด้าน นายรังสิมันต์ โรม 1 ในนักศึกษา ที่ถูกจับกุม กล่าวว่า ขณะถูกคุมขังเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ดูแลเป็นอย่างดี ไม่เคยถูกทำร้าย ส่วนแนวทางเคลื่อนไหวจากนี้จะต้องพูดคุยกับกลุ่มเพื่อนนักศึกษาก่อนโดยยืนยันว่าจะสู้ต่อ และเคลื่อนไหวต่อไป โดยสิ่งที่เรียกร้อง ไม่ใช่เพียงแค่ประชาธิปไตยเท่านั้น และการถูกจับกุมไม่ใช่จุดจบแต่เป็นก้าวใหม่ของการต่อสู้ ส่วนสาเหตุที่ไม่ยอมรับการประกันตัว เพราะไม่เห็นด้วยกับการใช้อำนาจของศาลทหาร มาใช้กับพลเรือน และยืนยันว่าการเคลื่อนไหวของกลุ่มนักศึกษาไม่มีผู้อยู่เบื้องหลัง

ทางด้าน นายรัฐพล ศุภโสภณ หรือ บาส 1 ใน 14 นักศึกษา ได้เข้าสวมกอดกับมารดา และกล่าวว่า รู้สึกดีใจ ที่ได้ออกมาจากเรือนจำ พร้อม กล่าวถึงกรณีที่ มีเจ้าหน้าที่ไปพบกับมารดา ว่า เหมือนเป็นการคุกคามและเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ซึ่งจากนี้ไป จะยังคงเคลื่อนไหวต่อ และยืนยันไม่มีใครอยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวในครั้งนี้
สำหรับบรรยากาศ ที่หน้าเรือนจำพิเศษ มีกลุ่มคนที่มารอให้กำลังใจ ทั้งญาติพี่น้อง เพื่อน และคณาจารย์ มารอรับ นำดอกกุหลาบแดง มามอบให้ กับกลุ่ม นักศึกษา และมี ตำรวจ จาก กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 จำนวน 1 กองร้อย มาดูแลความเรียบร้อย ทั้งด้านใน และด้านหน้าเรือนจำ โดยไม่มีเหตุการณ์วุ่นวายใดๆเกิดขึ้น ซึ่งหลังจากนี้ กลุ่มนักศึกษา และ กลุ่มคณาจารย์ จะมีการประชุมหารือร่วมกัน เพื่อหาแนวทางในการเคลื่อนไหว ต่อไป

 

คสช. รับยังมีกลุ่มจ้องอาศัยปม 14 น.ศ.เคลื่อนไหวขยายผล

พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ในฐานะทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า อาจมีบางกลุ่มอาศัยเหตุการณ์ปล่อย 14 น.ศ. กลุ่มประชาธิปไตยใหม่ ขยายผลตามที่ต้องการโดยส่วนใหญ่นั้นจะออกมาในเชิงลบและไม่เกิดผลดีต่อสังคมและประเทศชาติ ผู้ที่พยายามแสดงออกหรือสนับสนุนในรูปแบบใดก็ตามถือเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม โดยแนวทางการรักษาความสงบเรียบร้อยนั้น จะทำการพูดคุยทำความเข้าใจเป็นหลัก ส่วนผู้อยู่เบื้องหลังการออกมาเคลื่อนไหวทางเจ้าหน้าที่อาจจะมีข้อมูลอยู่แล้ว แต่ยังอยู่ในระหว่างกระบวนการสืบสวนสอบสวน จึงยังไม่เปิดเผยรายละเอียดที่ชัดเจน

ทั้งนี้ คสช. มีความเป็นห่วงว่าจะมีการให้ข้อมูลที่บิดเบือนและไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ซึ่งอาจจะนำไปสู่ความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนและเกิดความขัดแย้งตามมาทำให้เกิดผลเสียต่อภาพรวมของประเทศได้