สามจังหวัดใต้วิกฤต! คนร้ายวางเพลิง-ปาระเบิด ผู้บริสุทธิ์ตายแล้ว 6 เจ็บอื้อ!

สามจังหวัดใต้วิกฤต! คนร้ายวางเพลิง-ปาระเบิด ผู้บริสุทธิ์ตายแล้ว 6 เจ็บอื้อ!

สามจังหวัดใต้วิกฤต! คนร้ายวางเพลิง-ปาระเบิด ผู้บริสุทธิ์ตายแล้ว 6 เจ็บอื้อ!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2558 เวลา 09.00 น. พันเอกปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า จากกรณีเหตุการณ์คนร้ายได้ก่อเหตุความรุนแรงด้วยระเบิดและวางเพลิง ในเขตพื้นที่เมืองสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส และตำบลปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา เมื่อ 10 กรกฎาคม 2558 รวม 8 จุด เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 6 ราย และบาดเจ็บ 11 ราย และทรัพย์สินได้รับความเสียหาย

โดยพื้นที่อำเภอสุไหงโก-ลก จำนวน 4 จุด ประกอบด้วยการใช้ระเบิดขว้างใส่ร้านครัวเจนนี่ และร้านพัฒน์ เนื้อกระทะ ถนนลูกเสือนุสรณ์ 5 ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และเกิดระเบิดหน้าโรงแรมท๊อปเอเชียตรงข้ามร้านบุษบาคาราโอเกะ ซอยประชาวิวัฒน์ 2 เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 8 ราย และเก็บกู้ได้ 1 จุด

บริเวณหน้าโรงเรียนผดุงวิทยา เขตเทศบาลสุไหงโก-ลก และเหตุเพลิงไหม้ 3 จุด บริเวณร้านสมชายอะไหล่ยนต์ ถนนประชาวิวัฒน์ ร้านไทยอุปกรณ์ก่อสร้างถนนประชาวิวัฒน์ ซอย 1 และร้านแสงเจริญค้าส่ง ถนนหลังตลาดเก็นติ้ง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงควบคุมเพลิงไว้ได้ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย

สำหรับพื้นที่ตำบลปาดังเบซาร์ฯ จำนวน 1 จุด ด้วยการใช้ระเบิดแสวงเครื่องประกอบในรถจักรยานยนต์ บริเวณหน้าร้านคาราโอเกะครกทอง ในเขตเทศบาลปาดังเบซาร์ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บ 3 ราย

"จากกรณีเหตุการณ์ดังกล่าว พลเอกอุดมเดช สีตบุตร ผู้บัญชาการทหารบก/รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ได้รับทราบเหตุการณ์ในขั้นต้นแล้ว ได้แสดงความเสียใจและห่วงใยต่อญาติและครอบครัวของผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บพร้อมกับได้กำชับให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เร่งคลี่คลายสถานการณ์ ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ และให้เจ้าหน้าที่ทุกส่วนปฏิบัติด้วยความระมัดระวังตามมาตรการรักษาความปลอดภัย

ในการนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้สั่งการเน้นย้ำให้หน่วยในพื้นที่เร่งสร้างความเข้าใจกับเจ้าของกิจการและสถานบันเทิงทุกชนิด ซึ่งเป็นเป้าหมายกลุ่มเสี่ยงให้เพิ่มความระมัดระวัง โดยให้มีระบบรักษาความปลอดภัยภายในร้านและช่วยกันสังเกตสิ่งผิดปกติ

รวมทั้งได้สั่งการให้ทุกหน่วยเพิ่มความเข้มในการปฏิบัติตามแผนรักษาความปลอดภัยในเขตพื้นที่เมืองเศรษฐกิจ โดยใช้กำลังทุกภาคส่วนให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งนี้จะต้องไม่ส่งผลกระทบต่อการประกอบศาสนกิจของพี่น้องประชาชน รวมทั้งให้เร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างเร่งด่วนต่อไป" พันเอกปราโมทย์ กล่าว

โฆษก กอ.รมน. ภาค 4 สน ยังกล่าวอีกว่า ทั้งนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เป็นความพยายามของผู้ก่อเหตุรุนแรง ที่มุ่งสร้างสถานการณ์ความรุนแรง ตามความเชื่อที่ถูกบิดเบือนว่าจะได้ผลบุญเป็นทวีคูณ ซึ่งขัดกับบทบัญญัติของศาสนาอิสลามและความต้องการของพี่น้องประชาชนที่ต้องการให้เป็นเดือนแห่งสันติสุข ปราศจากความรุนแรง

ทั้งนี้ผู้นำศาสนา 8 องค์กรในพื้นที่ ได้ออกมาแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ และขอให้พี่น้องมุสลิมประกอบศาสนกิจในห้วง 10 วันสุดท้ายของเดือนรอมฎอนอย่างเคร่งครัด จึงขอเรียกร้องให้ทุกภาคส่วนในสังคมร่วมกันประณามการใช้ความรุนแรงดังกล่าวอย่างกว้างขวางเพราะถือเป็นการกระทำที่สุดโต่งเผด็จการ และไร้มนุษยธรรม

ซึ่งนอกจากได้สร้างความเดือดร้อนและความเสียหายในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนแล้วยังเป็นการทำลายบรรยากาศการประกอบศาสนกิจในเดือนอันศักดิ์สิทธิ์ของพี่น้องมุสลิมอย่างร้ายแรง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook