ปชช.แห่เติมน้ำมันก่อนขึ้นราคา1ก.พ.ปั๊มอ้างน้ำมันหมด!พณ.ขู่ฟัน

ปชช.แห่เติมน้ำมันก่อนขึ้นราคา1ก.พ.ปั๊มอ้างน้ำมันหมด!พณ.ขู่ฟัน

ปชช.แห่เติมน้ำมันก่อนขึ้นราคา1ก.พ.ปั๊มอ้างน้ำมันหมด!พณ.ขู่ฟัน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ปชช.แห่เติมน้ำมันก่อนปรับราคาขึ้น1.55บาท/ลิตร 1ก.พ.นี้ ปั๊มหัวใสอ้างน้ำมันหมด รมว.พาณิชย์ขู่ฟัน พร้อมส่งจนท.ตรวจสต็อกน้ำมันทั่วปท. ชี้เอาเปรียบผู้บริโภค

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้(30 ม.ค.) มีประชาชนผู้ใช้รถจำนวนมากทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดแก่กันไปเติมน้ำมันก่อนมาตรการชดเชยภาษีน้ำมันของรัฐบาลจะสิ้นสุดลงในวันที่31ม.ค. โดยราคาน้ำมันทุกชนิดจะปรับขึ้น 1.55 บาท/ลิตร ในวันที่1ก.พ. บางรายถึงกับขนถังแกลลอนขนาดใหญ่เติมเก็บไว้ด้วย ส่งผลให้บางปั๊มต้องติดป้ายแจ้งว่าน้ำมันหมด ทำให้ประชาชนตั้งข้อสงสัยว่าปั๊มนำมันมีการกักตุนหรือไม่

ต่อเรื่องดังกล่าวนางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในและค้าภายในจังหวัดทั้งส่วนกลางและภูมิภาคตรวจเช็คสถานีบริการน้ำมันทุกแห่งทั่วประเทศ หลังจากผู้บริโภคร้องเรียนว่าสถานีบริการน้ำมันบางแห่งติดป้ายน้ำมันหมด เพราะถือเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค

นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้ส่งสายตรวจส่วนกลางและภูมิภาคออกตรวจเช็คปริมาณน้ำมันตามสถานีบริการน้ำมันว่ามีจำนวนมากน้อยแค่ไหนทั้งวันนี้ และพรุ่งนี้ (31 ม.ค.) อย่างใกล้ชิด หากพบว่าปฏิเสธการจำหน่ายหรือตรวจพบว่ายังมีน้ำมันเหลือแต่ติดป้ายน้ำมันหมด ถือว่าเข้าข่ายกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ซึ่งจะมีโทษจำคุก 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ.

ด้านนายวิทยา หวังจิตรารักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ การตลาดค้าปลีก ปตท.กล่าวว่า ปตท.ไม่สามารถสำรองน้ำมันเพื่อรองรับความต้องการที่จะเกิดขึ้นในช่วง 1-2 วันนี้ ได้เกินกว่าน้ำมันที่จัดเก็บไว้ เนื่องจากประเทศไทยขณะนี้ประสบปัญหาเรื่องการกลั่นน้อยกว่าความต้องการ เพราะประสบปัญหาจากโรงกลั่นต่าง ๆ จนทำให้ ปตท.ต้องนำเข้าเบนซินเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือน โดยในเดือน ม.ค.นี้ มีการนำเข้ามาแล้ว 10 ล้านลิตร และคาดว่าในเดือน ก.พ.-มี.ค.จะต้องนำเข้าน้ำมันเบนซินอีก 40 ล้านลิตร ส่วนดีเซล คาดว่าในเดือน ก.พ.นี้จะต้องเริ่มนำเข้าเช่นกัน

นายวิทยา กล่าวอีกว่า หากประชาชนแห่กันไปเติมน้ำมัน 1-2 วันนี้มากกว่าปกติ ปตท.ก็คงต้องขออภัยที่ปั๊มบางส่วนอาจจะขาดแคลน โดยยืนยันว่า ปัญหาขาดแคลนที่อาจจะเกิดขึ้น ไม่ใช่มาจากการเก็งกำไร เพื่อหวังราคาที่เพิ่มขึ้นจากภาษีที่เพิ่มขึ้นแต่อย่างใด แต่มาจากน้ำมันในประเทศไม่เพียงพอจริง ๆ โดยการขึ้นราคาน้ำมันในวันที่ 1 ก.พ.นี้ ทางผู้ค้าน้ำมันไม่ได้ประโยชน์เพราะเป็นการปรับขึ้นตามอัตราภาษีที่เพิ่มขึ้น

นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าววันนี้ (30 ม.ค.) ในรายการเก็บตกจากเนชั่น กรณีขึ้นราคาน้ำมัน 1.55 บาท ในวันที่ 1 ก.พ.นี้ ว่า ตนไม่ห่วงว่า วันที่ 31 ม.ค.นี้ จะเกิดปัญหารถแห่ไปเติมน้ำมัน เพราะขึ้นราคาไม่มากนัก โดยจะทยอยขึ้นราคาครั้งละไม่เกิน 1.50 บาท ให้เท่ากับภาษีสรรพสามิตที่ลดไปก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ คาดว่าภายใน 2 เดือนจะกลับมาเป็นราคาปกติ ซึ่งจะขึ้นราคาน้ำมันทุกชนิดยกเว้นแก๊สโซฮอล์อี 85 เนื่องจากต้องการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทน ส่งเสริมการใช้เอธานอล ซึ่งจะส่งผลดีต่อเกษตรกรในการขายอ้อย มันสำปะหลัง ไม่ต้องมาประกันราคา

"ไม่ห่วงเรื่องการกักตุนน้ำมัน เพราะปั๊มซื้อน้ำมันแต่ละครั้งจะขายได้ 2-3 วัน ซึ่งช่วงที่ลดราคาก็มีการตรวจเช็ค เช่นเดียวกับการขึ้นครั้งนี้ก็ต้องเช็คสต๊อก กำไรส่วนเกินก็ต้องส่งเข้ากองทุนน้ำมัน ส่วนการขึ้นราคาครั้งต่อไปยังไม่กำหนดเวลา แต่จะพยายามปรับขึ้นในขณะที่ราคาตลาดโลกลดลง สำหรับเงินกองทุนน้ำมันยังมีสภาพคล่องอยู่ ขณะนี้มีเงิน 12,000 ล้านบาท เมื่อหักที่คงค้างหน่วยงานอื่นไปก็เหลือกว่า 4,000 ล้านบาท ยังใช้พยุงราคาในตลาดไม่ให้ผันผวนได้ต่อไป จากนั้นก็จะมีเงินทยอยเข้ากองทุนอีก" นพ.วรรณรัตน์ กล่าว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook