โจ๋เมืองคอนตั้งแก๊งโจรกรรมทรัพย์สินรร.แค้นถูกไล่ออก

โจ๋เมืองคอนตั้งแก๊งโจรกรรมทรัพย์สินรร.แค้นถูกไล่ออก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
(30ม.ค.) พ.ต.อ.ภคพล ทวิชศรี ผกก.สภ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีวัยรุ่นมีพฤติกรรมมั่วสุมในบ้านไม่มีเลขที่กลางป่าสวนยาง ม.14 ต.ร่อนพิบูลย์ หลังจากนั้นจึงนำกำลังสายตรวจตำบลและชุดสืบสวนเข้าทำการตรวจสอบทันที

หลังจากที่เจ้าหน้าที่เดินทางเข้าไปถึงเมื่อกลุ่มวัยรุ่นที่มั่วสุมอยู่ในบ้านหลังดังกล่าวกว่า 10 คน เห็นเจ้าหน้าที่ต่างวิ่งแตกฮือไปคนละทาง เจ้าหน้าที่เข้าควบคุมตัวไว้ได้ 4 คน พบว่าทุกคนสวมเสื้อยืดสีดำรวมทั้งกลุ่มที่หลบหนีไปด้วย หลังจากนั้นจึงคุมตัวมาที่บ้านหลังดังกล่าวพบว่ามีรถจักรยานยนต์ยี่ห้อต่างๆรวม 7 คัน คอมพิวเตอร์ โทรทัศน์ เครื่องใช้ไฟฟ้าอีกหลายรายการ ซึ่งแต่ละชิ้นนั้นมีหมายเลขพัสดุครุภัณฑ์และตราโรงเรียนหลายแห่งกำกับอยู่ มูลค่าหลายแสนบาท เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจยึด และประสานกับพนักงานสอบสวนรวมทั้งโรงเรียนที่มีตราและหมายเลขครุภัณฑ์อยู่บนเครื่องใช้ไฟฟ้าที่พบ

จากการตรวจสอบปรากฏว่าเป็นทรัพย์สินของโรงเรียนที่ถูกโจรกรรมมาทั้งหมด ส่วนรถจักรยานยนต์นั้นไม่พบหลักฐานใดๆ ซึ่งทั้ง 4 คนที่ควบคุมตัวไว้นั้นสารภาพเบื้องต้นว่าทรัพย์สินเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมดนั้นเป็นคนโจรกรรมมาจากโรงเรียนต่างใน อ.ร่อนพิบูลย์ ส่วนรถจักรยานยนต์นั้นโจรกรรมมาจากเขต อ.เมือง 1 คันส่วนอีก 6 คันที่เหลือนั้นเป็นของเพื่อนร่วมแก๊งส์ที่หลบหนีไป

ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัววัยรุ่นทั้ง 4 คน มาสอบสวนยัง สภ.ร่อนพิบูลย์ พบว่าทุกคนสวมเสื้อยืดสีดำ และมือขวาทุกคนนั้นสักรูปดาวไว้ทุกคน และมีอายุระหว่าง 14-16 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ใน ต.ร่อนพิบูลย์ ทั้งหมด

พ.ต.อ.ภคพล ทวิชศรี ผกก.สภ.ร่อนพิบูลย์ เปิดเผยว่าจากการพูดคุยในเบื้องต้นกับกลุ่มวัยรุ่นผู้ต้องหาทั้ง 4 รายนั้นสารภาพว่าเป็นอดีตนักเรียนที่พ้นสภาพจากโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งใน อ.ร่อนพิบูลย์ ซึ่งทั้งหมดอยู่ในช่วงระหว่าง ม.2 และ ม.3 หลังจากที่ออกมาจากโรงเรียนนั้นต่างก็เที่ยวเตร่ และมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด

แต่ที่น่าเป็นห่วงคือเขาได้ออกมาตั้งแก๊งส์ชื่อว่า ยืดดำมือดาว มีที่มาจากที่เพื่อนร่วมแก๊งส์ทุกคนต้องสวมเสื้อยืดสีดำ และสักรูปดาวที่มือขวาเหมือนกันทุกคน จากนั้นจะรวมตัวกันมีเป้าหมายในการโจรกรรมทรัพย์สินต่างสถานศึกษาต่างๆในอำเภอร่อนพิบูลย์ เข้าใจว่าเป็นการล้างแค้นที่พ้นจากการเป็นนักเรียน เมื่อได้ทรัพย์สินมาแล้วงจึงนำไปขายและนำเงินมาเที่ยวเตร่ รถจักรยานยนต์ที่ได้มาจากการโจรกรรมนั้นเขาสารภาพว่าไปเที่ยวในตัวเมืองแล้วไม่มีเงินกลับจึงโจรกรรมรถเป็นพาหะนะกลับบ้าน และได้นำผู้ต้องหาเยาวชนทั้ง 4 รายไปตรวจร่างกายพบว่าทุกคนมีสารเสพติดอยู่ตัว ดังนั้นในส่วนของการดำเนินคดีนั้นได้แบ่งออกเป็นสองส่วนคือลักทรัพย์และคดียาเสพติดตามขั้นตอนของการดำเนินคดีเด็กและเยาวชน ผกก.สภ.ร่อนพิบูลย์กล่าว

อย่างไรก็ตามขณะที่ พ.ต.อ.ภคพล ทวิชศรี ผกก.สภ.ร่อนพิบูลย์ กำลังสอบถามข้อมูลจากผู้ต้องหา ได้รับแจ้งว่ามีนักเรียนพยายามทำร้ายร่างกายครูผู้สอนด้วยวัตถุคล้ายระเบิดในโรงเรียนมัธยมชื่อดังแห่งหนึ่งของ อ.ร่อนพิบูลย์ หลังจากนั้นจึงนำกำลังเข้าตรวจสอบพบว่า ครูฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่ในโรงเรียนได้คุมตัวนักเรียนมัธยมต้นและมัธยมปลายในโรงเรียนดังกล่าวไว้แล้วรวม 13 คน หลังจากนั้นจึงคุมตัวมายัง สภ.ร่อนพิบูลย์ พร้อมทั้งอาจารย์ฝ่ายปกครองที่เกี่ยวข้อง ส่วนในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้เก็บหลักฐานพบว่าเป็นวัตถุระเบิดประเภทประทัดยักษ์

อาจารย์ฝ่ายปกครองโรงเรียนดังกล่าวเปิดเผยกับเจ้าหน้าที่ว่า เด็กกลุ่มดังกล่าวนั้นเป็นกลุ่มที่ถูกติดตามพฤติกรรมเป็นพิเศษ และได้ถูกเรียกมาตักเตือนว่ากล่าวเกี่ยวกับพฤติกรรมเสมอรวมทั้งก่อนเกิดเหตุ หลังจากที่เด็กกลุ่มนี้ผละออกไปจากห้องปกครองได้ปาวัตถุบางอย่างเข้ามาพร้อมทั้งเกิดเสียงระเบิดดังขึ้น และภายหลังได้คุมตัวนักเรียนทั้งหมดไว้ได้

พ.ต.อ.ภคพล ทวิชศรี ผกก.กล่าวเพิ่มเติมว่าจากการตรวจสอบเบื้องต้นนั้นวัตถุดังกล่าวเป็นประทัดยักษ์ไม่มีสะเก็ด เมื่อจุดระเบิดมีเฉพาะเสียงดังและเศษกระดาษ และจากการพูดคุยในกับอาจารย์นั้นไม่ประสงค์จะดำเนินคดีกับเด็กเนื่องจากเกรงว่าจะเสียอนาคต จึงลงบันทึกประจำวันและเรียกผู้ปกครองมารับทราบพฤติกรรมและรับตัวกลับไปในที่สุด

โรฮิงญา ถูกทหารพม่าทารุณ! เหรียญอีกด้านที่สื่อนอกละเลย

การเปิดประเด็น ทหารเรือไทย ทารุณกรรมผู้อพยพชาวโรฮิงญา ก่อนจะตามมารุมถล่มอีกชุดใหญ่จากสื่อหัวใหญ่ๆ ทั่วโลก ล่าสุดก็เป็นซีเอ็นเอ็นที่ย้ำหัวตะปูด้วยภาพที่อ้างว่า ทหารเรือไทยชักลากเรือผู้อพยพออกไปลอยเท้งเต้งกลางทะเล

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook