ชาวนาลพบุรีเฮได้สูบน้ำ-หลายจังหวัดเฝ้าระวังน้ำท่วม

ชาวนาลพบุรีเฮได้สูบน้ำ-หลายจังหวัดเฝ้าระวังน้ำท่วม

ชาวนาลพบุรีเฮได้สูบน้ำ-หลายจังหวัดเฝ้าระวังน้ำท่วม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ชาวนาบ้านหมี่ จ.ลพบุรี ยิ้มออก หลังชลประทานให้สูบน้ำเข้านาได้ครั้งแรกในรอบ1เดือน ขณะที่จ.พิษณุโลกฝนตกหนักน้ำท่วมหลายจุด,จันทบุรีฝนตกต่อเนื่อง,เพชรบูรณ์ตั้งชุดเฝ้าระวังหวั่นน้ำท่วมหนัก

สถานการณ์น้ำในคลองชัยนาท-ป่าสัก หลังประกาศให้ชาวนางดสูบน้ำเข้านามาระยะหนึ่ง ทำให้ปริมาณน้ำในคลองเพิ่มขึ้น เพียงพอผลิตประปา ทางชลประทานได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกสำรวจ จัดโซนการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ว่า จะอนุญาตให้จุดไหนสามารถสูบน้ำเข้านาได้ก่อน
 
โดย ร.ต.สุรัตน์ เรืองรุ่ง อายุ 69 ปี ชาวนาตำบลหนองทรายขาว อำเภอบ้านหมี่ บอกว่า ทางชลประทานอนุญาตให้พื้นที่ตำบลหนองทรายขาว สามารถสูบน้ำเข้านาข้าวได้ก่อน เนื่องจากพบว่า ข้าวที่นี่มีอายุ 70-80 วัน ซึ่งอยู่ในช่วงตั้งท้องถึงออกรวง จึงให้สูบน้ำเข้านาวันนี้ ซึ่ง ร.ต.สุรัตน์ บอกว่า ดีใจมากที่รัฐบาล และชลประทานอนุญาตให้สูบน้ำ แม้ว่าจะช้าไปบ้าง แต่ก็ขอขอบคุณนายกฯ เจ้าหน้าที่ชลประทานที่ให้น้ำในครั้งนี้ โดยทางชาวนาที่ตำบลหนองทรายขาว ได้รับอนุญาตให้สูบน้ำเข้านาได้แค่ 1 วัน และจะสับเปลี่ยนให้พื้นที่อื่นสูบบ้าง ด้านสำนักงานชลประทานที่ 10 จังหวัดลพบุรี เตรียมทำตารางการสูบน้ำให้กับชาวนาในพื้นที่อำเภอบ้านหมี่ปฏิบัติตามในการสูบน้ำ โดยจะอนุญาตให้สูบพื้นที่ละ 1 วันเท่านั้น เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนไปก่อน โดยเน้นไปที่ข้าวอายุ 70-80 วันก่อน เพราะข้าวกลุ่มนี้มีโอกาสที่จะได้ผลผลิตมากกว่า

 

พิษณุโลกฝนตกหนักน้ำท่วมหลายจุด

หลังจากฝนตกหนักนานหลายชั่วโมงติด ส่งผลให้หลายพื้นที่ใน จังหวัดพิษณุโลก โดยเฉพาะในเขตเมืองที่เป็นพื้นที่ต่ำ มีน้ำท่วมขังหลายแห่ง นอกจากนี้ ยังได้รับรายงานว่า แม่น้ำสายต่าง ๆ มีปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้น ทั้งแม่น้ำแควน้อย ที่ ต.เนินเพิ่ม อ.นครไทย ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เช่นเดียวกับ ลำน้ำเข็ก ที่ อ.วังทอง บริเวณน้ำตกสกุโณทยาน ปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นและไหลแรง เจ้าหน้าที่ต้องติดป้ายเตือนนักท่องเที่ยวห้ามลงเล่นน้ำในระยะนี้ด้วย

 

จันทบุรีฝนตกต่อเนื่องชาวบ้านเดือดร้อน

ฝนที่ตกต่อเนื่อง ในพื้นที่ จ.จันทบุรี ส่งผลให้น้ำท่วมขังภายสวนผลไม้ ของ นายอภิชาต รสฟุ้ง อายุ 46 ปี ต้องรีบเก็บผลผลิตหนีน้ำ เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย นอกจากนี้ ฝนที่ตกหนักยังทำให้บ้านเรือนของชาวบ้าน ตำบลปัถวี อำเภอมะขาม ถูกน้ำท่วมสูง เบื้องต้น ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจันทบุรี นำเรือท้องแบนเข้าไปช่วยเหลือ พร้อมทั้งกำชับให้ผู้นำชุมชนเข้าไปดูแล หากสถานการณ์ไม่น่าไว้วางใจให้อพยพชาวบ้านออกมาอยู่ในพื้นที่ที่ปลอดภัยเป็นการชั่วคราว

นายวิสุทธิ์ ประกอบความดี ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจันทบุรี ระบุว่า ระดับน้ำใน 4 จุดหลัก ของจังหวัดจันทบุรีมีการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีสีขุ่นแดง เนื่องจากพื้นที่ต้นน้ำ คือ อำเภอเขาคิชฌกูฏ มีฝนตกมากในระดับ 100-120 มิลลิเมตร รวมทั้งพื้นที่รอบนอกก็มีฝนตก 90-100 มิลลิเมตร ทำให้น้ำทั้งหมดไหลมารวมที่แม่น้ำจันทบุรี ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้ชาวบ้านตื่นตระหนก ทางป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจันทบุรี จะนำธงเขียวมาติดเตือนกลางสะพานวัดจันทนาราม เพื่อบอกถึงระดับน้ำว่า ยังอยู่ในเกณฑ์ที่จังหวัดสามารถรับมือได้ต่อไป

 

เพชรบูรณ์ตั้งชุดเฝ้าระวังหวั่นน้ำท่วมหนัก

ความคืบหน้า หลังเกิดอุทกภัยน้ำป่าจากเทือกเขาในเขตติดต่อ อ.ด่านซ้าย และ อ.หล่มเก่า ไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่บ้านหินโง่น ต.ศิลา อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ ยังทำให้ระดับน้ำในคลองน้ำย่าสูงขึ้น ล่าสุด นายสุบิน ภาวงศ์ นายก อบต.ศิลา แจ้งว่า สถานการณ์อุทกภัยขณะนี้ได้คลี่คลายลงแล้ว ส่วนคลองห้วยน้ำย่า และแม่น้ำป่าสัก ระดับน้ำก็ลดลงเช่นกัน แต่ที่ยังเป็นกังวลจนต้องจัดชุดติดตามเฝ้าสถานการณ์น้ำบริเวณพื้นที่ต้นน้ำอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสภาพท้องฟ้ายังมืดครึ้มและอาจมีฝนตกหนักลงมาอีกระลอก

นายสุบิน ระบุว่า ต.ศิลา มีหมู่บ้านเสี่ยงภัยตั้งอยู่เชิงเขา ได้แก่ หมู่ 4 บ้านก้นหวด และ หมู่ 5 บ้านหินโง่น ซึ่งสภาพเป็นเขาหัวโล้น เพราะป่าถูกบุกรุกจนหมด หากมีฝนตกหนักจะทำให้น้ำป่าไหลทะลักอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังพัดเอาดินโคลนไหลมาตามน้ำด้วยเช่นกัน

 

ทบ.ระนองเปิดทางน้ำหวั่นท่วมบ้านเรือนปชช.

นายพินิจ ตันกุล นายกเทศบาลเมืองระนอง มอบหมายให้เจ้าหน้าที่จากกองช่าง นำรถตักขนาดใหญ่เข้าตักทราย และเศษขยะ ที่มากับน้ำช่วงที่มีฝนตกหนัก ในฝายคลองบางริ้น ซึ่งฝายดังกล่าว รับน้ำจากคลองหาดส้มแป้น ระยะทางยาวกว่า 10 กิโลเมตร จากน้ำต้นทางบนภูเขา ก่อนปล่อยน้ำผ่านบ้านเรือนประชาชน ในเขตพื้นที่เทศบาลเมือง และเขตพื้นที่เทศบาลตำบลบางริ้น หากไม่ทำการเปิดประตูน้ำ เพี่อระบายน้ำออกลงสู่ทะเล หรือทำการตักทราย และเศษขยะที่ถูกน้ำพัดมา อาจจะทำให้เกิดการอุดตันจนน้ำระบายไม่ทัน เข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนได้ จึงต้องเร่งทำการตักทรายออกจากฝายแห่งนี้ เป็นการเร่งด่วนเพื่อป้องกันน้ำท่วม

 


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook