แพทย์ยันยาสมุนไพรปลอดภัย อาการแพ้เป็นเฉพาะคน

นายแพทย์สญชัย วัฒนา รองอธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีสาวโรงงานย่านบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร ที่ป่วยเป็นงูสวัด แล้วไปซื้อยาแผนไทย มาต้มรับประทานเอง แต่เกิดอาการแพ้จนร่างกายเกิดผื่นแพ้ พุพองทั่วร่างจนมีลักษณะคล้ายมนุษย์ดักแด้ ซึ่งขณะนี้ได้เข้ารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตากสิน ว่ากรณีดังกล่าวผู้ป่วยซื้อยาจากแหล่งที่เชื่อถือได้ แต่การแพ้นั้นสามารถเกิดขึ้นได้กับยาและอาหารทุกขนาน ซึ่งไม่อาจตรวจทราบได้เพราะอาการแพ้จะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ซึ่งต้องประสบรู้และจดจำเอง เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้ยาดังกล่าวในภายหลัง ดังนั้นประชาชนยังสามารถมั่นใจในการรักษาด้วยยาสมุนไพรทางเลือกได้เพราะมีการตรวจสอบแล้วว่าปลอดภัยและรักษาอาการเจ็บป่วยได้ แต่ประชาชนควรเลือกซื้อจากแหล่งที่น่าเชื้อถือในร้านยาที่มีใบอนุญาตประกอบการ และหากใช้ยาแล้วเกิดอาการคัน เจ็บแสบให้รีบพบแพทย์ทันทีเพื่อหยุดการรุกรามของอาการแพ้เช่นที่เกิดกับกรณีนี้

สำหรับหมอแมะ หรือแพทย์แผนจีน ที่ประชาชนนิยมไปรักษานั้น นายแพทย์สญชัย ระบุให้ประชาชนตรวจสอบให้ดีเพราะในประเทศไทยมีเพียงไม่กี่รายเท่านั้นที่เป็นของจริงและได้รับอนุญาตให้ประกอบการ ที่เหลือเป็นแพทย์ปลอมทั้งหมดเกรงจะเกิดอันตราย อย่างไรก็ตาม กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กำลังศึกษาสุมนไพรจีนคู่กับสมุนไพรไทย เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับการแพทย์ทางเลือกต่อไปในอนาคต

ทั้งนี้ โรคงูสวัด เป็นโรคติดเชื้อไวรัสที่มีชื่อว่าเฮอร์ปี วาริเซลล่า ซอสเตอร์ (Herpes Varicella Zoster) เป็นชนิดเดียวกันกับที่ทำให้เกิดไข้สุกใส ผู้ที่เคยเป็นโรคสุกใสมาก่อน จะยังคงมีเชื้อไวรัสชนิดนี้หลงเหลืออยู่ในปมประสาทสันหลัง เมื่อถูกกระตุ้นจะสามารถทำให้เกิดโรคงูสวัดได้ บริเวณที่พบได้บ่อยคือ เอว คอ ก้นกบ ลำตัว ใบหน้า ผู้ใหญ่ร้อยละ 90 จะมีภูมิต้านทานเชื้อนี้ โดยพบผู้ป่วยได้ประมาณ 3 คนในประชาชนทุก 1,000 คน อาการเริ่มด้วยปวดศีรษะ เคืองตา ปวดตามตัว มักจะไม่มีไข้ ต่อมาจะมีอาการคัน ปวดแสบปวดร้อน โรคนี้เป็นโรคที่หายได้เองภายใน 2-3 สัปดาห์