ญาติโชว์ภาพชูวงษ์คาดเข็มขัดรถยันไร้อัยการหนุนหลัง

ญาติโชว์ภาพชูวงษ์คาดเข็มขัดรถยันไร้อัยการหนุนหลัง

ญาติโชว์ภาพชูวงษ์คาดเข็มขัดรถยันไร้อัยการหนุนหลัง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ญาติโชว์ภาพ ชูวงษ์ คาดเข็มขัดนิรภัย ขณะขับออกไปกับ พ.ต.ท.บรรยิน ยืนยัน ไร้อัยการหนุนหลังปัดแย่งสมบัติ สอบ จนท.ตลาดหลักทรัพย์ ปมโอนหุ้น พบเอกสารผิด2-3จุด รอเวลาตรวจสอบ

นายกันต์ แซ่ตั๊ง, นางวันเพ็ญ ธนธรรมศิริ บุตรชาย และพี่สาวของ นายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ ที่เสียชีวิตหลังประสบอุบัติเหตุ พร้อม นายเอนก คำชุ่ม ทนายความ แถลงเปิดเผยหลักฐานใหม่ ซึ่งได้จากกล้องวงจรปิด บริเวณก่อนเกิดอุบัติเหตุ วันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยภาพดังกล่าวเป็นภาพที่ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ มารับ นายชูวงษ์ ที่ บริษัท SPC ชั้น 5 ซ.นาคนิวาส 21 ซ.ลาดพร้าว 71 ซึ่งในภาพจะเห็นว่า นายชูวงษ์ ขึ้นรถพร้อมกับดึงเข็มขัดนิรภัยมารัดก่อนปิดประตูรถ ก่อน พ.ต.ท.บรรยิน จะขับรถออกไป

โดย นายเอนก กล่าวว่า จากภาพที่พบดังกล่าวเป็นหลักฐานที่ไม่ตรงกับคำให้การของ พ.ต.ท.บรรยิน ที่ว่า นายชูวงษ์ ไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัยตั้งแต่ขึ้นรถ ยืนยันใครที่รู้จักกับ นายชูวงษ์ จะรู้ดีว่า นายชูวงษ์ มักจะคาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้ง ไม่ว่าจะขับเองหรือเป็นคนนั่ง เพราะเคยประสบอุบัติเหตุครั้งใหญ่มาแล้วถึง 2 ครั้ง แต่ไม่เป็นอะไร เพราะคาดเข็มขัดนิรภัย จึงมักบอกคนรอบข้างเสมอ

ด้านคำกล่าวอ้างของ พ.ต.ท.บรรยิน ที่ว่ามีนักกฎหมายระดับใหญ่เป็นผู้ให้การสนับสนุน และยุยงให้ทางครอบครัวดำเนินการขุดคุ้ย เอาผิดกับ พ.ต.ท.บรรยิน กับกรณีดังกล่าว ยืนยันไม่เป็นความจริง ชี้ครอบครัวของ นายชูวงษ์ เป็นครอบครัวที่รักกันดี ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะ หรือมีปัญหาในเรื่องทรัพย์สมบัติ วอนอย่าเอาปัญหาของครอบครัวอื่นมาเปรียบเทียบ


ทนายชูวงษ์ยันทวงคืนทรัพย์สินตาม กม.

นางวันเพ็ญ ธนธรรมสิริ พี่สาวของ นายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง เจ้าของบริษัทรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ เปิดเผยขณะทำการแถลงเปิดหลักฐานกล้องวงจรปิดวันเกิดเหตุ (26 มิ.ย. 58) ว่า นายชูวงษ์ มีนิสัยชอบคาดเข็มขัดนิรภัยก่อนขับรถ หรือ นั่งรถเสมอ และมักจะสอนลูก เตือนเพื่อน คนรอบข้าง เรื่องการคาดเข็มขัดนิรภัยเสมอ

ด้าน นายเอนก คำชุ่ม ทนายความ ระบุว่า ครอบครัวติดใจเรื่องอุบัติเหตุที่พบว่า นายชูวงษ์ ไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัยเป็นอย่างมาก ดังนั้น หากตำรวจสรุปสำนวนแล้ว แต่ยังไม่ให้ความกระจ่างในกรณีดังกล่าวกับครอบครัว ทางครอบครัวอาจขอให้ผู้เชี่ยวชาญรถ และแพทย์นิติเวชมาตรวจสอบเรื่องนี้อีกครั้ง ส่วนคดีการโอนหุ้นที่พบพิรุธนั้น ยืนยันว่า หุ้นที่ถูกโอนไปเป็นสินสมรส ดังนั้น ผู้ใดได้ทรัพย์สินไปโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ทางครอบครัวจะทวงคืนทุกบาททุกสตางค์



ทนายพริตตี้ขอป.ถอนอายัดหุ้นชูวงษ์ให้

นายเสกสรรค์ เสนาชู ทนายความของ นางสาวกัณฐณา ศิวธนพล พริตตี้สาวที่ นายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง โอนหุ้นให้จำนวน 9.5 ล้านหุ้น รวมมูลค่ากว่า 228 ล้านบาท เดินทางยื่นหนังสือต่อ พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี ผบก.ป. เพื่อให้ดำเนินการถอนอายัดหุ้นธุรกิจพลังงาน (EA) และหุ้นวิน เนื่องจากได้รับความเสียหาย ภายหลังเจ้าหน้าที่ได้ทำการอายัดไป เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2558 ทำให้ขณะนี้หุ้นทั้งสองเกิดราคาตก และได้รับความเสียหายกว่า 16 ล้านบาท

โดย นายเสกสรรค์ เปิดเผยว่า เอกสารที่ได้มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขหุ้นนั้น นางสาวกัณฐนา ไม่ทราบมาก่อน เพราะเพียงแค่ทำหน้าที่กรอกตัวเลขหุ้นตามที่ นายชูวงษ์ ให้เซ็นในเอกสาร และยืนยันว่า นางสาวกัณฐนา และ นางสาวอรุชา ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน

ด้าน พล.ต.ต.อัคราเดช เผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบปากคำไปแล้วประมาณ 20 ปาก ส่วนเอกสารและหลักฐานรวมถึงข้อสงสัยต่าง ๆ ได้ส่งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกองพิสูจน์หลักฐาน ซึ่งคาดว่า วันนี้หากไม่ติดขัดอะไร ทางกองพิสูจน์หลักฐานจะส่งเอกสารกลับมา

นอกจากนี้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ยังได้เข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อให้ข้อมูลถึงขั้นตอนการทำธุรกรรมในการโอนหุ้นอีกด้วย


กองปราบเรียกสอบจนท.โอนหุ้น 'ชูวงษ์' วันนี้

พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช ผู้กำกับการ 1 กองปราบปราม เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงความคืบหน้าการรวบรวมหลักฐาน ในคดีการโอนหุ้น นายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ว่า ในวันนี้ เวลาประมาณ 09.30 เจ้าหน้าที่จากตลาดหลักทรัพย์ที่ดูแลเรื่องการโอนหุ้น จะเข้ามาให้ข้อมูลที่กองปราบปราม เพื่อชี้แจงถึงกระบวนการดำเนินการ ว่าถูกต้องหรือไม่ ส่วนการสอบปากคำนั้น ได้สอบไปมากแล้ว เหลือเพียงไม่กี่ปาก แต่ขณะนี้ยังไม่มีเรียกใครสอบเพิ่มเติม

ด้านคลิปเสียง นายชูวงษ์ ได้ส่งให้กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบแล้ว ยังรอผลตรวจอยู่ แต่ทั้งนี้ ถือว่าใช้เป็นเพียงข้อมูลเท่านั้น เพราะคลิปเสียงจะไม่สามารถใช้เป็นหลักฐานได้เนื่องจากมีน้ำหนักน้อย ส่วนกรณีที่ทนายจะเปิดหลักฐานกล้องวงจรปิด ที่มีภาพ นายชูวงษ์ นั่งรถ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ นั้น พ.ต.อ.จิรภพ ระบุว่า ตนยังไม่เห็นภาพดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ทางด้านกองปราบได้เร่งรวบรวมหลักฐานได้มากแล้ว ประมาณ 70-80% คาดว่า ใช้เวลาไม่นานจะสามารถสรุปได้ 


ตร.พบโอนหุ้นชูวงษ์ผิดปกติบางจุด-รอสอบ

พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผช.ผบ.ตร. เปิดเผยภายหลังการประชุมหารือร่วมกับคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ว่า วันนี้เป็นการสอบถามรายละเอียดหน้าที่ของโบรกเกอร์ว่า มีขั้นตอนการปฏิบัติอย่างไร และหุ้นทั้ง 2 ตัวที่ตรวจพบนั้น มีความผิดปกติหรือไม่ ซึ่งจากการสอบถามพบว่า การโอนหุ้นต้องมีการตรวจสอบจากฝ่ายบัญชีก่อนการโอนผ่านทางโทรศัพท์ เพื่อเป็นสิ่งยืนยัน

ทั้งนี้ พบว่าเอกสารมีความผิดปกติ 2 - 3 จุด แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะอยู่ในกระบวนการพิสูจน์ และพบว่าเอกสารการโอนหุ้นนั้น มีการแก้ไขตามที่เสนอข่าวไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ในการประมวลกฎหมายการแก้ไขเอกสารนั้น ถือว่ามีการกระทำความผิด และไม่สามารถจะทำได้

สำหรับส่วนของ นางสาวอุรชา ผู้ที่ได้รับโอนหุ้นจาก นายชูวงษ์ จำนวนประมาณ 40 ล้านบาท นั้น ยืนยันว่า เป็นเพียงมาร์เก็ตติ้งในการดูแลตลาดหลักทรัพย์ ที่ นายชูวงษ์ ใช้บริการเท่านั้น ไม่ได้เป็นโบรกเกอร์ของ นายชูวงษ์ ตามที่ถูกกล่าวอ้าง แต่มีเจ้าหน้าที่อีกคนที่เป็นโบรกเกอร์ดูแลหุ้น ของ นายชูวงษ์ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เรียกโบรกเกอร์มาสอบปากคำอยู่ระหว่างการติดตามตัว และหากได้ข้อมูลที่สมบูรณ์ครบถ้วนจะแถลงข่าวทั้งหมดอีกครั้ง



แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook