กมธ.งบฯงงตัวเลขเงินคงคลังต่ำสุดมีแค่ 52,000 ล้าน

กมธ.งบฯงงตัวเลขเงินคงคลังต่ำสุดมีแค่ 52,000 ล้าน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
(30ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ปี 2552 โดยมีนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ทำหน้าที่ประธานการประชุม โดยที่ประชุมได้พิจารณางบประมาณในส่วนของกระทรวงการคลัง ซึ่งนายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ปลัดกระทรวงการคลังและคณะเข้าชี้แจง

โดยนายศุภรัตน์ กล่าวว่า จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องอัดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจให้ทันในเดือนก.พ.และมี.ค.นี้เพื่อให้มีเงินหมุนเวียนในระบบ มิเช่นนั้นเศรษฐกิจไทยอาจติดลบถึง 3 % ได้ ทั้งนี้ในช่วง 3 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2552 พบว่ารัฐจัดเก็บรายได้ต่ำกว่าเป้าหมายประมาณ 16 % ซึ่งกระทรวงการคลังคาดการณ์รายได้ตลอดปี 52 จะอยู่ที่ 132,000 ล้านบาท มีการเบิกจ่ายงบลงทุนไปได้เพียง 7.9 % มีการตั้งรายจ่ายเพื่อชดเชยเงินคงคลังสำหรับงบกลางปีไว้จำนวน 12,900 ล้านบาท มาจากรายได้ที่จะได้จากการขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมัน และรายได้จากผลของการกระตุ้นเศรษฐกิจ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากนั้นกรรมาธิการฯทั้งจากรัฐบาลและฝ่ายค้านต่างรุมซักถามถึงสาเหตุของการเบิกจ่ายงบประมาณล่าช้าที่เชื่อว่าจะส่งผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างแน่นอน อาทิ งบขององค์การบริหารส่วนท้องถิ่น และงบประมาณของกรมทางหลวงชนบทที่ผู้รับเหมาต่างยังไม่ได้รับเงิน จนนายพิเชษฐ์ พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.กระบี่ กรรมาธิการจากพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า อยากให้กระทรวงการคลังนำความจริงมาพูดให้ทุกคนรู้ เพราะจะได้ช่วยกันแก้ไขและเตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่หนัก เชื่อว่าเหตุที่ยังไม่มีการเบิกจ่ายงบลงทุนต่างๆเป็นเพราะความจริงเราไม่มีเงิน มีแต่เพียงตัวเลขลอยๆเท่านั้นจึงอยากทราบว่าความจริงขณะนี้ประเทศไทยมีเงินคงคลังจำนวนเท่าใดกันแน่

ด้านนายศุภรัตน์ กล่าวยอมรับว่า มีเม็ดเงินไหลออกมากกว่าเม็ดเงินไหลเข้า ซึ่งการบริหารเงินคงคลังต้องทำด้วยความละมุนละม่อม ทั้งนี้สิ้นเดือนธันวาคม ปี 2551 มีเงินคงคลังเหลืออยู่ 52,000ล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อนายศุภรัตน์ กล่าวจบ นายพิเชษฐ์ ถึงกับกล่าวอย่างตกใจว่าเหตุใดเงินคงคลังจึงมีมากกว่ารายจ่ายประจำไม่ถึง 2 เดือน ตัวเลขนี้คือปัญหาที่ว่าทำไมประเทศจึงไม่มีเงินในการจ่ายงบลงทุน ด้านนายศุภรัตน์ จึงกล่าวตอบว่า ยังมีเงินพอที่จะจ่ายเป็นเงินเดือนประจำประมาณ 1 เดือนครึ่งเนื่องจากต้องจ่ายเงินเดือนประจำเดือนละ 32,000ล้านบาท เหตุที่เงินคงคลังเหลืออยู่ไม่มากเนื่องจากที่ผ่านมาได้ลดการกู้ยืมเงินจากต่างประเทศเพื่อเป็นการลดภาระการจ่ายดอกเบี้ย อย่างไรก็ตามหากตัวเลขต่างๆไม่เพียงพอก็ยังสามารถกู้เงินจากต่างประเทศได้อีก

ด้านนายวิทยา บุรณศิริ กรรมาธิการจากพรรคเพื่อไทย ได้ซักถามว่า ดูมาตรการการเงินขณะนี้แล้วเชื่อถือไม่ได้ว่าจะมีรายได้กลับมาตามที่คาดหวัง จึงอยากรู้ว่าจะกู้เงินเมื่อใด จากไหน เท่าใดและกู้ที่ไหน ขณะที่นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ส.ส.สัดส่วน กรรมาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าทุกประเทศล้วนประสบปัญหาวิกฤตทั้งนั้น ฉะนั้นจะให้ประเทศไทยรอดเพียงประเทศเดียวไม่ได้ เพียงแต่ต้องช่วยกลุ่มคนที่มีปัญหามากที่สุดก่อนคือคนที่มีรายได้น้อย

นายศุภรัตน์ ตอบว่า กรอบการกู้ยืมเงินมีกฎเกณฑ์ไว้ชัดเจนอยู่แล้ว แต่อาจต้องใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมาใช้ให้เร็วกว่าเดิม ขณะนี้การขาดดุลงบประมาณทั้งประจำปีและกลางปีมีจำนวน 340,000 กว่าล้าน

โรฮิงญา ถูกทหารพม่าทารุณ! เหรียญอีกด้านที่สื่อนอกละเลย

การเปิดประเด็น ทหารเรือไทย ทารุณกรรมผู้อพยพชาวโรฮิงญา ก่อนจะตามมารุมถล่มอีกชุดใหญ่จากสื่อหัวใหญ่ๆ ทั่วโลก ล่าสุดก็เป็นซีเอ็นเอ็นที่ย้ำหัวตะปูด้วยภาพที่อ้างว่า ทหารเรือไทยชักลากเรือผู้อพยพออกไปลอยเท้งเต้งกลางทะเล

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook