จับแก๊งล้วงกระเป๋านักท่องเที่ยวประวัติเคยก่อเหตุหลายครั้ง
ที่เกิดเหตุพบชาวบ้านช่วยกันควบคุมตัว น.ส.เสาวภา แซ่ตั้ง อายุ 18 ปี และ ด.ญ.ยา นามสมมุติ อายุ 13 ปี ผู้ก่อเหตุเอาไว้ โดยมี MR.CRAIG ROBERTSON อายุ 40 ปี สัญชาติออสเตเรีย ผู้เสียหายชี้ตัวยืนยัน สอบสวน MR.CRAIG ROBERTSON ผู้เสียหายได้ให้การว่าในเวลาที่เกิดเหตุนั้นตนพร้อมกับแฟนสาวซึ่งเป็นคนไทยและเพื่อนอีก 2 คน ได้พากันนั่งรถสหกรณ์สองแถวพัทยามาจาก ถนนพัทยาใต้เพื่อเดินทางกลับห้องพักที่เขตจอมเทียน ระหว่างทางแก๊งคนร้ายซึ่งเป็นหญิงสาว 3 คน ได้โบกขึ้นมาบนรถสหกรณ์สองแถว ซึ่งคนร้ายได้นั่งติดกับตนแต่ตนก็ไม่ได้คิดเอะใจอะไร จนกระทั่งมาถึงจุดเกิดเหตุ หนึ่งในแก๊งคนร้ายได้อาศัยจังหวะที่ตนกำลังนั่งคุยกับเพื่อนล้วงเอากระเป๋าสตางค์ที่ใส่ไว้ในกระเป๋าเป้ซึ่งวางอยู่ที่ตักของตนโดยภายในกระเป๋าสตางค์มีเงินสดอยู่จำนวนหนึ่ง แล้วส่งต่อให้กับเพื่อนร่วมแก๊ง จากนั้นคนร้ายจะกดอ๊อดแล้วพากันเดินลงจากรถด้วยท่าทางเร่งรีบ ตนจึงรู้สึกผิดสังเกตุจึงตรวจสอบดูทรัพย์สินก็พบว่ากระเป๋าสตางค์ถูกก่อเหตุไป ตนจึงตะโกนร้องขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านให้ช่วยกันจับตัวคนร้าย และ สามารถจับกุมตัวคนร้ายเอาไว้ได้ 2 คน ส่วนคนร้ายอีกหนึ่งคนสามารถหลบหนีไปได้พร้อมกับกระเป๋าสตางค์ของตน
จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ได้ให้การปฏิเสธข้อกล่าวหาว่าไม่ได้ก่อเหตุแต่อย่างไร และไม่ได้รู้จักกับคนร้ายที่หลบหนีไป แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่เชื่อในคำให้การปฏิเสธข้อกล่าวหาเนื่องจากมีพยานที่เห็นเหตุการณ์และผู้เสียหายชี้ตัวยืนยัน จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามตามกฏหมายต่อไป
ในเวลาต่อมา ( 01.00 น.)ทางเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่ามีคนร้ายแก๊งล้วงกระเป๋าเป็นหญิงจำนวน 5 คน ได้ก่อเหตุล้วงกระเป๋านักท่องเที่ยวบนรถสหกรณ์สองแถวพัทยาอีกที่บริเวณหน้าปาก ซอยพัทยาแลนด์ 2 ถนนสายสองพัทยาใต้ หมู่ 10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยทางผู้เสียหายและพลเมืองดีสามารถช่วยกันติดตามจับกุมตัวแก๊งคนร้ายเอาได้ทั้งหมดที่บริเวณ หน้าห้างท๊อป ซุปเปอร์มาร์เก็ต ถนนสายสองพัทยากลาง หลังได้รับแจ้งจึงนำกำลังรุดตรวจสอบทันที
ที่เกิดเหตุพบชาวบ้านช่วยกันควบคุมตัว นาง สุเนตร เขียวสะอาด อายุ 42 ปี นาง สุนันท์ เขียวสะอาด อายุ 39 ปี น.ส.สุนิสา จันทะโร อายุ 18 ปี และ ด.ญ.ดา นามสมมุติ อายุ 14 ปี แก๊งคนร้ายที่ก่อเหตุเอาไว้พร้อมของกลางเป็นกระเป๋าสตางค์ ลายการ์ตูนโดเรม่อน 1 ใบ เงินสด 1120 บาท บัตรเอทีเอ็ม และ เอกสารสำคัญต่าง ของ นาย แฟร้ง อายุ 40 ปี สัญชาติอเมริกา ผู้เสียหายที่เข้าชี้ตัวยืนยัน สอบสวน นาย แฟร้ง ผู้เสียหายได้ให้การว่าในเวลาที่เกิดเหตุตนได้นั่งรถสหกรณ์สองแถวเมืองพัทยาเพื่อเดินทางกลับห้องพักมาจากบริเวณหน้าตลาดวัดชัยมงคล พัทยาใต้ ซึ่งแก๊งคนร้ายขึ้นมาบนรถคันเดียวกับตน โดยบนรถมีตนนั่งอยู่เพียงลำพัง จากนั้นหนึ่งในแก๊งคนร้ายจึงทำทีเป็นชักชวนตนพูดคุย จนกระทั่งมาถึงจุดเกิดเหตุหนึ่งในแก๊งคนร้ายได้ล้วงเอากระเป๋าสตางค์ที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงของตนไปแล้วส่งต่อให้กับเพื่อร่วมแก๊ง จากนั้นคนร้ายจึงรีบพากันลงจากรถแล้วเรียกรถสหกรณ์สองแถวคันใหม่ก่อนจะพากันแยกย้ายหลบหนี เมื่อตนตรวจสอบทรัพย์สินก็พบว่ากระเป๋าสตางค์ถูกแก๊งคนร้ายก่อเหตุไป จึงขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน และ ติดตามคนร้ายทันที จนสามารถติดตามจับกุมตัวคนร้ายเอาไว้ได้จำนวน 4 คน เพร้อมของกลาง ส่วนคนร้ายอีก 1 คน สามารถหลบหนีไปได้ จึงแจ้งทางเจ้าหน้าที่ทันที
จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งหมดกลับให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ก่อเหตุแต่อย่างไร โดยอ้างว่าคนร้ายหลบหนีไปได้นั้นเป็นผู้ก่อเหตุ ซึ่งในขณะที่หลบหนีได้โยนกระเป๋าสตางค์มาให้พวกตน โดยพวกตนไม่มีส่วนรู้เห็นแต่อย่างไร จนกระทั่งมาถูกทางเจ้าหน้าที่จับกุมดังกล่าว หลังสอบสวนและตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วทางเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อทำการสอบสวนดำเนินคดีตามกฏหมาย อย่างไรทางเจ้าหน้าที่จะได้ทำการสอบสวนขยายผลแก๊งคนร้ายอย่างละเอียดอีกครั้งโดยทางเจ้าหน้าที่เชื่อว่าแก๊งคนร้ายทั้ง 2 แก๊ง น่าจะเป็นพวกเดียวกัน และ จากการตรวจสอบประวัติพบว่าผู้ต้องหาทั้งหมดเคยก่อเหตุมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนแต่ไม่สามารถจับกุมได้ และ บางรายผู้เสียหายไม่ได้เอาเรื่อง
โรฮิงญา ถูกทหารพม่าทารุณ! เหรียญอีกด้านที่สื่อนอกละเลย
การเปิดประเด็น ทหารเรือไทย ทารุณกรรมผู้อพยพชาวโรฮิงญา ก่อนจะตามมารุมถล่มอีกชุดใหญ่จากสื่อหัวใหญ่ๆ ทั่วโลก ล่าสุดก็เป็นซีเอ็นเอ็นที่ย้ำหัวตะปูด้วยภาพที่อ้างว่า ทหารเรือไทยชักลากเรือผู้อพยพออกไปลอยเท้งเต้งกลางทะเล