เปิดรอยความบาดหมางของเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้

เปิดรอยความบาดหมางของเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้

เปิดรอยความบาดหมางของเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เปิดรอยความบาดหมางของเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ เหตุใดรอยแผลไม่สามารถสมานได้จนกระทั่งกลายเป็นมะเร็งร้ายอย่างวันนี้

หากนับกันจริงๆ แล้ว เกาหลีเหนือ และ เกาหลีใต้ คือกลุ่มชนคนชาติพันธ์เดียวกัน แต่ถูกแยกออกเป็นสองดินแดนหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้ ฝ่ายพันธมิตรได้แบ่งดินแดนของเกาหลีเป็นสองส่วนโดยใช้ "เส้นขนานที่ 38"  

โดยฝ่ายเกาหลีเหนืออยู่ภายใต้การดูแลของโดยสหภาพโซเวียต (รัสเซียในปัจจุบัน) และจีน  ส่วนเกาหลีใต้อยู่ภายใต้การกำกับของสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ

ซึ่งประเทศมหาอำนาจที่เข้าควบคุมกิจการทางการเมืองของเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ต่างมีอุดมการณ์ต่างกันสุดโต่ง สหภาพโซเวียต-จีน ปกครองแบบลัทธิคอมมิวนิสต์ แบบฉบับที่รัฐควบคุมอย่างเบ็ดเสร็จ

ส่วนสหรัฐอเมริกา-อังกฤษ ได้ใช้หลักการปกครองแบบประชาธิปไตย เน้นเสรีภาพเป็นหลัก

เพราะระบอบการปกครองที่ต่างกันสุดขั้วที่เองทำให้ชาติเชื้อไม่สามารถรวมกันเป็นหนึ่งเดียวได้ ชนวนเหตุแห่งสงครามเกาหลี จึงเปิดฉากขึ้นเมื่อเดือนมิถุนายน ค.ศ.1950 ฝ่ายเกาหลีใต้ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐอเมริกา แน่นอนว่าฝ่ายเกาหลีเหนือคือ สภาพโซเวียต แต่ละฝ่ายได้ทำการห้ำหั่นกันอย่างเต็มเหนี่ยวเนื่องจากต่างฝ่ายต่างได้แรงสนับสนุน จนกระทั่งต่อมาได้มีการทำข้อตกลงยุติสงครามเกาหลี

การพยายามรวมชาติของเกาหลีเหนือและใต้ยังคงดำเนินต่อหลังสิ้นสุดสงครามเกาหลี แต่ด้วยการเจรจาและแนวทางของผู้นำยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้

ในความโหดร้ายของการพลัดพรากเนื่องจากการแบ่งแยกดินแดน เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ ได้กำหนดให้มีวันพบญาติกันเกิดขึ้นปีละครั้ง ชาวโลกจะได้เห็นภาพของสองครอบครัวเจอกันบนคราบน้ำตาแห่งความคิดถึง ต้องบอกว่าเป็นภาพที่เศร้าแต่เปี่ยมไปด้วยยินดี แต่ก็มีบางปีที่ถูกยกเลิกไปเนื่องจากสถานการณ์ตรึงเครียดของสองผู้นำ 

และสิ่งที่ชาวโลกไม่อยากให้เกิดขึ้นก็ปรากฏขึ้น ท่ามกลางความกังวลใจของหลายฝ่าย วันที่ 20 สิงหาคม 2558 ชนวนความบาดหมางถูกจุดติดอีกครั้ง เมื่อเกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธเข้ามายังเกาหลีใต้ ซึ่งห่างจากกรุงโซลเมืองหลวงเพียง 60 กิโลเมตรเท่านั้น ต่อมากระทรวงกลาโหมของเกาหลีใต้ได้ออกแถลงการณ์ยิงปืนใหญ่หลายสิบนัดข้ามกลับไปเพื่อตอบโต้

จนกระทั่งวันนี้ (21 ส.ค.) เกาหลีเหนือโดยผู้นำ คิม จอง อึน ได้มีคำสั่งให้กองทัพเตรียมความพร้อมสูงสุดในภาวะสงคราม โดยจะเริ่มมีผลตั้งแต่เวลา 17.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันนี้ ซึ่งตรงกับเวลา 15.00 น. ของไทย

เราได้ก้าวผ่านมาถึงโลกในยุคที่ไร้พรมแดนทุกข้อมูลข่าวสารสามารถเชื่อมต่อกันได้อย่างรวดเร็ว แต่เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ก็ยักงคงไม่สามารถเชื่อมต่อกันได้อยู่ เทคโนโลยีไม่ได้ช่วยให้ความสัมพันธ์ดีขึ้นการหันหน้าเจรจาด้วยความจริงใจคงเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ความหวังของคนเกาหลีที่จะยืนอยู่บนแผ่นดินเดียวกัน วันนั้น "เส้นขนานที่ 38" จะต้องถูกลบออกไปจากแผนที่

โลกยังคงเฝ้ามองและภาวนาขออย่ารุนแรงไปมากกว่านี้เลย   

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook