ประมวล "ผบ.ตร." แจงบึ้มราชประสงค์ ขึ้นต้น..ไม่ใช่ก่อการร้าย ลงท้าย..แล้วแต่ดวง

ประมวล "ผบ.ตร." แจงบึ้มราชประสงค์ ขึ้นต้น..ไม่ใช่ก่อการร้าย ลงท้าย..แล้วแต่ดวง

ประมวล "ผบ.ตร." แจงบึ้มราชประสงค์ ขึ้นต้น..ไม่ใช่ก่อการร้าย ลงท้าย..แล้วแต่ดวง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สำนักข่าว มติชนออนไลน์ ได้ลำดับความคืบหน้าคดีคนร้ายก่อเหตุวางระเบิดที่บริเวณแยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 20 ราย บาดเจ็บอีกเป็นจำนวนมาก ผ่านคำให้สัมภาษณ์ของ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)

17 สิงหาคม วันเกิดเหตุระเบิดบริเวณลานหน้าศาลพระพรหม เอราวัณ แยกราชประสงค์ กทม.

พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)เปิดเผยว่าเป็นระเบิดแสวงเครื่องที่นำมาวางไว้เพียงลูกเดียว ทำด้วยท่อแป๊บห่อด้วยผ้าสีขาว น้ำหนัก 3 กิโลกรัม รัศมีทำลายล้างประมาณ 100-150 เมตร ส่วนดินระเบิด การจุดระเบิด อยู่ระหว่างการตรวจสอบ

ส่วนสาเหตุการเกิดระเบิดนั้นยังไม่สามารถสรุปในตอนนี้ ยังคงมองทุกประเด็น ทั้งเรื่องการเมือง ภาคใต้ ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง มองไปทุกกลุ่มที่มีประสิทธิภาพ ส่วนจะเชื่อมโยงกับเหตุระเบิดที่พารากอน และศาลอาญา ก่อนหน้านี้หรือไม่นั้น ยังไม่สามารถตอบได้

18 สิงหาคม หลังเกิดเหตุระเบิด 1 วัน

กทม.ทำความสะอาดพื้นที่ ห้างย่านราชประสงค์เปิดปกติ วันเดียวกัน เกิดเหตุระเบิดภายในแม่น้ำเจ้าพระยาช่วงใต้สะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน โดยเป็นระเบิดชนิดเดียวกันกับที่ใช้ที่แยกราชประสงค์

ภาพจากซีซีทีวีจับภาพชายต้องสงสัย 1 ราย ไม่ทราบสัญชาติ ผมหยักศก รูปร่างท้วม สวมใส่เสื้อยืดสีเหลือง กางเกงขาสั้นสีฟ้า ใส่แว่นตาสีเหลือง รองเท้าผ้าใบ สะพายกระเป๋าเป้ด้านหลัง

วันเดียวกัน พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่าจากภาพชายเสื้อเหลืองที่ได้จากกล้องวงจรปิดนั้นอาจมีการแปลงใบหน้าหรือตกแต่งหน้าตาเพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าใจผิดหรือหลงทางยืนยันยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้งและยังไม่เคยพูดว่าเป็นการกระทำของชาวต่างชาติ

19 สิงหาคม หลังเกิดเหตุระเบิด 2 วัน

ตำรวจเปิดเผยภาพสเกตช์คนร้ายก่อเหตุระเบิดบริเวณศาลท้าวมหาพรหม แยกราชประสงค์ พร้อมขอศาลอนุมัติหมายจับตามภาพสเกตซ์ พร้อมประกาศตั้งรางวัลนำจับ1ล้านบาท

วันเดียวกันพล.ต.อ.สมยศ เรียกประชุมความคืบหน้าเหตุระเบิด จากนั้นเปิดเผยว่า ยังไม่ปักใจเชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าเป็นชาวต่างชาติหรือไม่ ยังไม่ทราบว่าคนทำเป็นขบวนการไหน แต่กลุ่มนี้มุ่งหวังดิสเครดิตรัฐบาล ทำให้รัฐบาลเสื่อมเสีย มุ่งหวังทำลายเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว มูลเหตุต้องการให้รัฐบาลเสียหน้า ขาดความน่าเชื่อถือ ไม่ได้รับการยอมรับจากอารยประเทศเรื่องความปลอดภัยในประเทศ ส่วนตัวยืนยันไม่ใช่การก่อการร้าย

20 สิงหาคม หลังเกิดเหตุระเบิด 3 วัน

พล.ต.อ.สมยศ ยืนยันยังไม่ปักใจว่าชายที่ปรากฏในภาพสเกตซ์ ว่าเป็นชาวต่างชาติหรือไม่

คนร้ายทำเป็นขบวนการไม่ต่ำกว่า 10 คน มีทีมสำรวจพื้นที่ ดูแลเส้นทาง คุ้มกัน จัดหาวัสดุอุปกรณ์ และทีมพามาก่อเหตุ พาหลบหนีโดยรู้เส้นทาง วางแผนล่วงหน้าเป็นเดือน พร้อมกันนี้ ได้ยืนยันไม่เคยบอกว่ามีขบวนการต่างประเทศมาเกี่ยวข้อง บอกแค่ว่าเป็นขบวนการใหญ่ มีการจัดตั้ง เตรียมการ โดยใช้บุคคลจำนวนมากไม่ต่ำกว่า 10 คน

ได้เพิ่มรางวัลนำจับคนร้ายที่ก่อเหตุวางระเบิดแยกราชประสงค์ จากเดิม 1 ล้านบาท เพิ่มเป็น 2 ล้านบาท

21 สิงหาคม หลังเกิดเหตุระเบิด 4 วัน

พล.ต.อ.สมยศ เปิดเผยว่า มีภาคเอกชน และต่างประเทศ เข้ามาช่วยเหลือเรื่องเทคโนโลยีในการตามจับคนร้าย โดยจะทำให้ภาพจากกล้องซีซีทีวีชัดเจนมากยิ่งขึ้น

ยังคงย้ำไม่มีข้อมูลความเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อการร้ายสากล พร้อมปฏิเสธข้อมูลของสื่อเดอะ ไทม์ส ออฟ ลอนดอน ที่รายงานว่า ชายต้องสงสัยที่วางระเบิดแยกราชประสงค์ชื่อ "โมฮัมหมัด มูเซยิน" พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า หน่วยข่าวกรองจะมีรายชื่อขบวนการก่อการร้าย เช่น กลุ่มไอเอส กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ กลุ่มมูจาฮีดีน กลุ่มอัลกออิดะห์ หากปรากฏตัวที่ไหน เดินทางเข้าประเทศไหน หรือเดินทางออกไปประเทศใด จะมีการแจ้งเตือนไปยังประเทศนั้น เป็นความร่วมมือตามหลักสากล เชื่อว่าขณะนี้กลุ่มผู้ก่อเหตุยังคงอยู่ในประเทศ

เงินรางวัลนำจับของ ตร.เพิ่มเป็น 3 ล้านบาท

22 สิงหาคม หลังเกิดเหตุระเบิด 5 วัน

พล.ต.อ.สมยศ มีหนังสือวิทยุสั่งการเร่งด่วนที่สุดให้ พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกตร.ให้ข่าวความคืบหน้าคดีระเบิดเพียงคนเดียว วันเดียวกัน โฆษก ตร.กล่าวว่า ได้ส่งภาพสเกตช์ผู้ต้องหาก่อเหตุวางระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา ให้ตำรวจสากล 190 ประเทศเพื่อช่วยติดตามคนร้าย

ส่วนความคืบหน้าในการติดตามตัวคนร้ายชายใส่เสื้อสีเหลืองตามภาพสเกตช์ไปเจ้าหน้าที่สืบสวนสามารถไล่ตรวจกล้องจนทราบว่าคนร้ายโบกรถแท็กซี่สีเขียวคาดเหลืองมาจากพื้นที่เขตยานนาวาก่อนจะมาลงรถที่บริเวณสถานีรถไฟหัวลำโพงจากนั้นโบกรถตุ๊กตุ๊กเพื่อเดินทางมาก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ได้หลักฐานเพิ่มเป็นธนบัตรใบละ20บาทที่คนร้ายชำระเงินค่ารถให้กับคนขับรถตุ๊กตุ๊กเพื่อนำธนบัตรดังกล่าวส่งตรวจสอบเพื่อหาดีเอ็นเอของคนร้ายส่วนคนขับรถแท็กซี่ตำรวจกำลังเร่งตามตัวมาสอบปากคำ

คนร้ายใส่เสื้อสีฟ้า ก่อเหตุที่ท่าน้ำสาทร ตำรวจเชื่อว่าเป็นกลุ่มเดียวกับที่ก่อเหตุที่ราชประสงค์

23 สิงหาคม หลังเกิดเหตุระเบิด 6 วัน

พล.ต.อ.สมยศ ปล่อยแถวระดมป้องกันปราบปรามและจัดการความปลอดภัยในยุทธการ "ปิดเมือง ค้นรังโจร" พร้อมเปิดเผยความคืบหน้าของคดียืนยันว่าเรามีเป้าหมาย เรามีจุดหมาย และเราทำงานกันมาโดยตลอด แต่ไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้าเราโชคดีก็จะสามารถจับคนก่อเหตุได้

ด้วยเหตุว่าความล่าช้าในการสืบสวนสอบสวนนั้นไม่ได้เกิดจากความสามารถของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเกิดจากทางเราไม่มีอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือที่ทันสมัยมาช่วยสนับสนุนในการทำงานเหมือนเจ้าหน้าที่ตำรวจในต่างประเทศ

สรุปประเด็นความชัดเจนจากคำให้สัมภาษณ์ของ ผบ.ตร. ในเวลานี้ (23 ส.ค.)

1. ผู้ก่อเหตุเป็นใคร ?
ผบ.ตร. ย้ำว่าไม่ใช่การก่อการร้ายข้ามชาติ แต่ทำเป็นขบวนการ คนร้ายชายชุดเหลืองไม่สรุปชัดว่าเป็นชาติใด

2. ผู้ก่อเหตุหวังผลอะไร ?
ผบ.ตร. เห็นว่าทำไปเพื่อหวังทำลายภาพลักษณ์ของรัฐบาล

3. ความคืบหน้าของคดีไปถึงไหน ?
ผบ.ตร. คืบหน้าไปตามลำดับ มีเป้าหมายชัดเจนว่ากลุ่มผู้ต้องสงสัยเป็นใคร แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้

4. จะจับคนร้ายมาลงโทษตามกฎหมายได้หรือไม่ ?
ผบ.ตร. ถ้าโชคดีก็จับได้ แต่ทั้งนี้เพราะเราขาดเครื่องมือที่ทันสมัยทำให้การทำงานล่าช้า

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook