เมียช็อก! 23 ปีไม่เคยรู้ ผัวเป็น พล.ต.ท.เก๊ โวสนิท "พงศพัฒน์"

รวบ พล.ต.ท.ปลอม อ้างสนิทกับ "พงศพัฒน์" โวเป็นหน่วย "อินทร์ดำ" เมียตกใจสุดขีด ไม่เคยรู้มาก่อน ทั้งที่อยู่กินกันมา 23 ปี

(25 ส.ค.) ที่กองกำกับการ 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 3 จ.นครราชสีมา ได้แถลงผลการจับกุม นายภูมิพัฒน์ เลิศธนาอนันต์ หรือ พล.ต.ท.ภูมิพัฒน์ เลิศธนาอนันต์ หรือ "ผู้บัญชาการไก่" อายุ 48 ปี มาสอบปากคำ หลังถูกจับกุมตัวได้ที่บ้านพัก ฐานแต่งกายเลียนแบบเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ทั้งนี้ นายภูมิพัฒน์ ได้ถูกออกหมายจับศาลจังหวัดนครราชสีมา เลขที่ 193/2558 ในข้อหาแต่งเครื่องแบบตำรวจโดยไม่มีสิทธิ มีของกลางเป็นชุดข้าราชการตำรวจสีกากี มีเครื่องหมายตราประดับยศ "พล.ต.ท." เต็มขั้น พร้อมหมวก เสื้อเกาะ เสื้อคลุม มีตราสัญลักษณ์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระเป๋าสะพาย กระเป๋าเดินทางบรรจุเอกสารส่วนตัว แต่ไม่มีบัตรประจำตัวที่แสดงว่าเป็นข้าราชการตำรวจ

ที่สำคัญยังมีอาวุธปืนพกสั้นทั้งแบบออโตเมติก ลูกโม่ ขนาดต่าง ๆ หลายยี่ห้อ รวม 7 กระบอก ตรวจสอบพบมีใบอนุญาตแค่ 5 กระบอก พร้อมกระสุนจำนวนมาก ก่อนหน้านี้ตำรวจสืบสวนทราบว่า นายภูมิพัฒน์ หรือ ผู้บัญชาการไก่ มีพฤติกรรมแต่งกายเครื่องแบบข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่ระดับ พล.ต.ท. โดยถ่ายภาพลงเฟซบุ๊ก

แต่ปรากฏว่า ตำรวจชั้นผู้น้อย ผู้ปฏิบัติการหลายคนสงสัยว่า มีตำรวจระดับนายพลชื่อนี้หน้าตาแบบนี้อยู่ใน จ.นครราชสีมา จริงหรือไม่ เพราะไม่เคยเห็นหน้าหรือไม่เคยร่วมปฏิบัติงานใดๆ จึงทำการตรวจเช็คประวัติพบว่าเป็น พล.ต.ท.ปลอม จึงขออนุญาตศาลออกหมายจับ

จากการสอบสวนเบื้องต้น นายภูมิพัฒน์ หรือ ผู้บัญชาการไก่ ยืนยันเสียงแข็งแบบหน้าตาเฉยว่า ตนเองเป็นตำรวจจริง รับราชการตำรวจมานาน 23 ปี ปัจจุบันสังกัดกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด และเป็นคนสนิทของ พล.ต.อ.พงศพัฒน์ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. ปฏิบัติหน้าที่หน่วยปราบปรามยาเสพติด ฉายา อินทรีย์ดำ ปกติทำหน้าที่สืบราชการลับเกี่ยวกับคดียาเสพติดในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ

แม้เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามเปิดโอกาสให้ นายภูมิพัฒน์ หาหลักฐานแสดงตัวว่าเป็นนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ระดับผู้บัญชาการจริง แต่ก็อ้างเหตุผลแบบยกเมฆไปต่าง ๆ นานา เช่น บอกให้โทรศัพท์หา พล.ต.อ.พงศพัฒน์ เพื่อยืนยันตัวจริง แต่ก็บ่ายเบี่ยงว่าเวลานี้นายติดประชุม ไม่สะดวกรับสาย รวมทั้งเจ้าหน้าที่ลองให้แต่งเครื่องแบบดู ปรากฏว่า นายภูมิพัฒน์ ยอมเปลี่ยนเสื้อผ้าแต่งเครื่องแบบนายพลตำรวจเต็มยศแบบไม่เขอะเขิน พร้อมยืนถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึก

ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงได้เชิญ ภรรยาของผู้บัญชาการไก่ มาสอบสวนเพิ่มเติม ปรากฏว่าภรรยามีอาการตกใจหน้าซีด ไม่คิดว่าสามีตัวเองจะถูกจับกุม ในข้อหาเป็นตำรวจปลอม และไม่ยอมให้การใดๆ กับเจ้าหน้าที่ บอกแต่เพียงว่า เข้าใจมาตลอดว่าสามีเป็นตำรวจระดับนายพลจริงๆ ไม่คิดว่าสามีจะเป็นตำรวจปลอม

ภรรยาของผู้บัญชาการไก่ ยังบอกอีกว่า ตั้งแต่อยู่กินกันมานานกว่า 20 ปี สามีไม่ค่อยอยู่กับบ้าน ก่อนจะให้ไปทำความเข้าใจกัน กระทั่ง นายภูมิพัฒน์ ยอมรับสารภาพแต่โดยดีว่า แต่งกายเลียนแบบตำรวจจริง เพราะคลั่งไคล้เครื่องแบบตำรวจมาตั้งแต่เด็ก

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กำลังสืบสวนขยายผลว่า นายภูมิพัฒน์ ผู้ต้องหามีพฤติกรรมอ้างตัวเป็นตำรวจระดับผู้บัญชาการ เพื่อหลอกลวงผู้อื่นหรือกระทำการสิ่งผิดกฎหมายอื่นๆ ด้วยหรือไม่ เนื่องจากผู้ต้องหามีฐานะทางการเงินค่อนข้างดี มีรถยนต์หรู มีสร้อยทองคำหลายเส้น และครอบครองอาวุธปืนหลายกระบอก ทั้งๆ ที่ครอบครัวมีเพียงธุรกิจหอพักให้เช่าเพียงไม่กี่ห้องเท่านั้น