ปชป.ทวงสมยศถอดยศทักษิณช้าขอสตง.สอบงบลับ130ล.

อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ 'วัชระ' แถลงเรียกร้อง ผู้ตรวจการแผ่นดิน ตรวจสอบงบลับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จี้ ผบ.ตร. เร่งดำเนินการถอดยศ 'ทักษิณ' พร้อมคัดค้านตั้งกระทรวงตำรวจ ใน 7 เหตุผล เตรียมรวบรวมรายชื่อยื่น ประธาน สนช.

นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า ภายใต้การบริหารงานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ สตช. ของ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นั้น มีงบประมาณราชการลับ จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2558 กว่า 130 ล้านบาท ทั้งนี้ จากเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์ พล.ต.อ.สมยศ ได้ตั้งรางวัลนำจับ 1 ล้านบาท ซึ่งไม่ได้เปิดเผยว่าเป็นเงินส่วนตัว หรือเงินจากงบฯ ราชการลับดังกล่าว อีกทั้ง ยังให้สัมภาษณ์ทำนองว่าต้องพึ่งดวง ซึ่งส่วนตัวรู้สึกสิ้นหวังกับการทำงานของทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ยังไม่สามารถจับกุมผู้ที่กระทำความผิดได้ และรู้สึกสงสัยว่า งบประมาณราชการลับดังกล่าวนำไปใช้อะไรบ้าง และใช้เพื่อประโยชน์ของประชาชนหรือไม่ จึงขอเรียกร้องให้สำนักงานผู้ตรวจเงินแผ่นดิน ตรวจสอบงบประมาณราชการลับดังกล่าวของ สตช.

นายวัชระ ยังกล่าวว่า จากการที่ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการเรื่องการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นไปด้วยความล่าช้า โดยอ้างว่าจะต้องหารือในคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ หรือ กขร. ก่อนนั้น ตนเองจะเดินทางไปยื่นหนังสือถึง นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน กขร. ในวันที่ 31 สิงหาคม นี้ เวลา 14.00 น. ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ข้างทำเนียบรัฐบาล เพื่อสอบถามว่า มีความจำเป็นหรือไม่ เนื่องจากการดำเนินการถอดยศในอดีต ไม่จำเป็นต้องหารือใน กขร. จึงจะขอไปสอบถามรายละเอียดต่าง ๆ เพราะเกรงว่าจะเป็นเพียงข้ออ้างของ พล.ต.อ.สมยศ ที่ทำให้การดำเนินการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ มีความล่าช้า จนถึงวันเกษียณอายุราชการ

นอกจากนี้ นายวัชระ  ยังกล่าวว่า ส่วนตัว รวมถึง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จำนวนหนึ่ง ขอคัดค้านและต่อต้านการตั้งกระทรวงตำรวจ จากกรณีที่มีสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. เสนอร่าง พ.ร.บ.ตำรวจ ซึ่งจะมีการผลักดันให้ตั้งกระทรวงตำรวจ ซึ่งมองว่า สนช. ไม่มีหน้าที่ในการปฏิรูป โดยถือเป็นการฉกฉวยโอกาสในขณะที่มีอำนาจ ทั้งนี้ ส่วนตัวมีเหตุผล 7 ข้อที่คัดค้าน อาทิ เป็นการรวบอำนาจไว้ในส่วนกลาง เป็นการสร้างองค์กรให้ใหญ่ขึ้นโดยไม่จำเป็น และเป็นภาระงบประมาณแผ่นดิน และไม่ได้เป็นการแก้ไขปัญหาของประชาชนที่ไม่ได้รับการอำนวยความยุติธรรม อีกทั้ง ยังสวนทางกับคำกล่าวของนายกรัฐมนตรี อีกด้วย ทั้งนี้ ตนเอง รวมถึง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จะเดินทางไปยื่นหนังสือถึง นายกรัฐมนตรี รวมถึง ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ต่อไป