ศาลฎีกายกคำร้องทนาย ยิ่งลักษณ์ ค้าน อสส.เพิ่มพยานคดีข้าว

ศาลฎีกายกคำร้องทนาย ยิ่งลักษณ์ ค้าน อสส.เพิ่มพยานคดีข้าว

ศาลฎีกายกคำร้องทนาย ยิ่งลักษณ์ ค้าน อสส.เพิ่มพยานคดีข้าว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ศาลฎีกายกคำร้อง 'ทนายยิ่งลักษณ์' กรณีให้ส่งคดีพิจารณาศาลปกครอง และยกคำร้องการคัดค้านพยานของฝ่ายโจทก์ด้วย นัดพร้อมคู่ความ วันที่ 29 ต.ค.นี้

นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมายังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตามที่ศาลนัดตรวจพยานหลักฐาน คดีที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ฟ้องในความผิดฐานปฎิบัติหน้าที่มิชอบ สร้างความเสียหายแก่รัฐ กรณีละเลยไม่ยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว

ซึ่งทนายจำเลยได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลรอการพิจารณาคดีไว้ชั่วคราว เนื่องจากเห็นว่า คดีนี้ไม่อยู่ในอำนาจของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง แต่อยู่ในอำนาจของศาลปกครอง โดยศาลฎีกาฯ พิจารณาแล้วเห็นว่า ศาลฎีกาฯ มีอำนาจพิจารณาคดีนี้ เนื่องจากตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 มาตรา 11(1) ถึง (9) ไม่มีมาตราใดที่กำหนดให้ศาลปกครอง มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีอาญา ดังนั้น จึงไม่มีเหตุที่ศาลฎีกาฯ จะต้องทำความเห็นเสนอไปยังศาลปกครอง ตามพระราชบัญญัติวินิจฉัยเขตอำนาจศาล ตามที่จำเลยร้องขอ จึงให้ยกคำร้อง

ส่วนที่จำเลยยื่นคำร้องขอคัดค้านบัญชีพยานโจทก์ โดยอ้างว่า โจทก์เพิ่มเติมพยานโดยไม่สุจริต ไม่เป็นธรรม ขอให้ศาลไม่รับพยานดังกล่าวเข้าสู่สำนวนนั้น องค์คณะผู้พิพากษาเห็นว่า แม้ตามกฎหมายในการไต่สวนจะให้ยึดสำนวนจาก สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เป็นหลัก แต่ศาลฎีกาฯ ก็มีอำนาจเรียกพยานไต่สวนได้ และฝ่ายจำเลย ก็สามารถนำพยานเข้าสืบเพื่อหักล้างพยานหลักฐานโจทก์ได้ จึงให้ยกคำร้อง

และคดีนี้ฝ่ายโจทก์ ได้ส่งพยานเอกสารจำนวน 161 แฟ้ม ขณะที่ฝ่ายจำเลยส่งพยานเอกสาร 61 แฟ้ม และทั้งสองฝ่ายได้อ้างพยานบุคคลจำนวนหลายปาก และพยานเอกสารจำนวนมาก ศาลฎีกาฯ จึงให้คู่ความทั้งสองฝ่ายร่วมกันพิจารณาพยานหลักฐานและพยานบุคคลในคดี ทุกวันพุธ เวลา 09.00 น. จนกว่าจะแล้วเสร็จ และให้นัดพร้อมคู่ความทั้งสองฝ่ายเพื่อกำหนดวันไต่สวนพยาน ในวันที่ 29 ตุลาคม นี้ เวลา 09.30 น.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook