กรมอนามัยแนะให้นมลูกด้วยนมแม่6เดือน

กรมอนามัยแนะให้นมลูกด้วยนมแม่6เดือน

กรมอนามัยแนะให้นมลูกด้วยนมแม่6เดือน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อธิบดีกรมอนามัย เผยน้ำนมแม่เป็นประโยชน์แก่ลูกมากที่สุด ควรให้กินอย่างน้อย 6 เดือน

ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า องค์การอนามัยโลกและยูนิเซฟ แนะนำให้แม่เลี้ยงลูกด้วยนมตนเองอย่างเดียว 6 เดือนเต็ม และหลังจากนั้นเลี้ยงควบคู่อาหารที่เหมาะสมตามวัยจนลูกอายุครบ 2 ปี เพราะนมแม่มีสารอาหารมากกว่า 200 ชนิด ลูกได้สารอาหารครบถ้วนทำให้ร่างกายแข็งแรง ช่วยการพัฒนาเซลล์สมอง เส้นใยประสาท และจอประสาทตา เด็กที่ได้กินนมแม่ มีพัฒนาการด้านการเรียนรู้ในสิ่งต่าง ๆ ได้เร็ว ส่งผลให้มีไอคิวดีกว่าเด็กที่ไม่ได้กินนมแม่ 2-11 จุด ร่างกายแข็งแรง ว่องไว อารมณ์ดี ลูกไม่ป่วยบ่อย นอกจากนี้ นมแม่ในระยะสัปดาห์แรก จะมียอดน้ำนมที่เรียกว่า หัวน้ำนม หรือ โคลอสตรัม ถือเป็นยอดอาหารที่อุดมไปด้วยสารคาร์โบไฮเดรต โปรตีน วิตามิน เกลือแร่ครบถ้วน และมีภูมิคุ้มกันสูงสุด เปรียบเสมือนได้รับวัคซีนหยดแรกของชีวิต เพื่อป้องกันเชื้อโรคต่าง ๆ

ดร.นพ.พรเทพ กล่าวต่อไปว่า วิธีการให้นมลูกที่ถูกต้องใช้หลัก 3 ด. คือ 1) ดูดเร็ว หมายถึง แม่ต้องให้ลูกดูดนมแม่ภายใน 1 ชั่วโมง หลังคลอดพร้อมโอบกอดเนื้อแนบเนื้อ 2) ดูดบ่อย หมายถึง ดูดทุก 2-3 ชั่วโมง ภายใน 2-3 วันแรก และ 3) ดูดถูกวิธี หมายถึง ท่าอุ้มและการอมหัวนมให้ลึกถึงลานหัวนม และดูดให้เกลี้ยงเต้า ตามหลักจิตวิทยาพบว่าในขณะที่แม่อุ้มลูกให้กินนมแม่วันละ 8-10 ครั้ง พร้อมพูดคุยขณะให้นมลูกนั้น ก่อให้เกิดสายใยรัก สายใยผูกพันระหว่างแม่กับลูก อ้อมกอดแม่มีผลโดยตรงต่อการกระตุ้นการทำงานของระบบประสาทและสมองลูก ทำให้ใยสมองแตกแขนง กิ่งก้านมากขึ้น ลูกจะสัมผัสได้ถึงความรักของแม่ความอบอุ่น ปลอดภัย ไม่เครียด และมีความสุข แต่ในทางกลับกันหากเด็กไม่ได้รับสัมผัสที่อบอุ่นเช่นนี้แล้ว จะทำให้พัฒนาการของสมองของเด็กสูญไปอย่างน่าเสียดาย อีกทั้งการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เป็นการช่วยชาติประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อนมผงดัดแปลงได้ปีละ 24,000 ล้านบาท ซึ่งแต่ละปีมีเด็กเกิดใหม่ปีละประมาณ 8 แสนราย หากไม่มีการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ จะทำให้แม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซื้อนมผงให้ลูกเฉลี่ยเดือนละ 3,500 ต่อคน หรือปีละ 70,000 บาทต่อคน


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook