สมยศบอกวรรณาโยงบึ้มประสานมอบตัวอาจขอหมายจับอีก

สมยศบอกวรรณาโยงบึ้มประสานมอบตัวอาจขอหมายจับอีก

สมยศบอกวรรณาโยงบึ้มประสานมอบตัวอาจขอหมายจับอีก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผบ.ตร. บอก 'วรรณา' ผู้ต้องหาโยงเหตุระเบิด ประสานขอมอบตัว อาจมีขอหมายจับอีก เตรียมดำเนินคดี หากพบ จนท.เอี่ยว ด้าน 'ประวุฒิ' บอก ไม่ชัดบึ้มราชประสงค์โยงอุยกูร์ ขณะ คสช. แถลง ยันชายต่างชาติให้การเป็นประโยชน์ ศาลออกหมายจับแล้วรวม4คน

พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. เปิดเผยความคืบหน้าการติดตามจับกุมตัวคนร้ายลอบวางระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์และท่าเรือสาทร ว่า ได้รับรายงานว่า น.ส.วรรณา สวนสัน หรือ "ไมซาเลาะห์" อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับพัวพันระเบิดราชประสงค์ ซึ่งอยู่ที่ประเทศตุรกี ได้ติดต่อประสานเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจริง ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ ตนยังไม่ขอเปิดเผย พร้อมระบุว่า พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างเร่งดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม หากพบผู้กระทำผิด ก็จะดำเนินการขอศาลออกหมายจับเพิ่ม แต่ขณะนี้ยังคงมีผู้ต้องหาตามหมายแค่ 4 ราย ส่วนการสอบปากคำผู้ต้องหาครอบครองระเบิดที่จับได้ย่านหนองจอก ยังอยู่ในการควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่ทหาร จึงยังไม่ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับการสอบสวน ต้องรอให้ทางทหารส่งมอบตัวให้พนักงานสอบสวนก่อน 

อย่างไรก็ตาม ผบ.ตร. กล่าวด้วยว่า ได้เข้ารายงานความคืบหน้าทางคดีให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รับทราบแล้ว โดย นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำ และกำชับว่า หากพบว่ามี จนท.รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องให้ดำเนินการเอาผิดทันที ส่วนกรณีที่มีคำสั่งย้ายตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จ.สระแก้ว มาช่วยราชการที่ ศปก.ตร. นั้น เนื่องจากสืบสวนพบว่า มีการปล่อยปละละลายให้ต่างชาติเข้า-ออกประเทศโดยผิดกฎหมาย แต่ยังไม่พบว่าโยงเหตุระเบิดราชประสงค์ ส่วนกรณีที่มีรายงานว่า ตม.สระแก้ว รับเงินก้อนรอสอบก่อน

"ประวุฒิ"ไม่ชัดบึ้มราชประสงค์โยงอุยกูร์

พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการติดตามตัวผู้ร่วมกระบวนการคดีระเบิด บริเวณแยกราชประสงค์ และบริเวณท่าเรือสาทร ว่า ยืนยันกระแสข่าวที่มีชายเสื้อขาวยังไม่ทราบและไม่สามารถยืนยันอะไรได้ อยู่ในระหว่างการตรวจสอบ ซึ่งหากยังไม่มีการเปิดเผย ขออย่าเพิ่งเชื่อข้อมูลจากแหล่งข่าวใด ส่วนผลการสอบปากคำผู้ต้องหานั้นยังไม่สามารถเปิดเผยได้

สำหรับการลงพื้นที่ตรวจค้นบ้านพักตรวจสอบประวัติการเดินทางของ น.ส.วรรณา สวนสัน หนึ่งในผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีพัวพันเหตุระเบิด ที่จังหวัดพังงานั้น พบแต่ครอบครัว แต่ตัว น.ส.วรรณา นั้นได้เดินทางออกนอกประเทศแล้ว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็ได้มีการติดต่อประสานงานกับสถานทูตอังการา ประเทศตุรกีแล้ว สำหรับเส้นทางการเดินทางออกนอกประเทศของ น.ส.วรรณา นั้นยังไม่สามารถยืนยันหรือเปิดเผยได้ แต่ผู้ต้องหาทั้งหมดเป็นกลุ่มเดียวกันแน่นอน ด้านการให้ข่าวกับสื่อต่างประเทศที่ว่า น.ส.วรรณา ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องนั้นน่าจะเป็นทางครอบครัวให้ข่าวไป ซึ่งทางครอบครัวของผู้ต้องหาเองก็พร้อมให้ความร่วมมือเต็มที่

สำหรับการก่อเหตุนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับอุยกูร์หรือไม่นั้นยังไม่ชัดเจน ส่วนเรื่องปาเลสไตน์ไม่มีแน่นอน รวมถึงขณะนี้ยังไม่มีการควบคุมผู้ใดเพิ่ม ในส่วนของการยืนยันสัญชาติของผู้ต้องหาที่สามารถจับกุมได้แล้วนั้นยังไม่มีการยืนยันจากสถานทูตตุรกีแต่อย่างใด เนื่องจากยังไม่มีการส่งเอกสารตัวจริงไปให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบอยู่ระหว่างการรวบรวม โดยขณะนี้ได้เร่งสอบปากคำขยายผลจากผู้ต้องหา คาดจะมีการออกหมายจับเพิ่มแน่นอน


คสช.ยันชายต่างชาติให้การเป็นประโยชน์คดีบึ้ม

พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงข่าว ศูนย์ติดตามสถานการณ์ คสช. ต่อคดีระเบิดแยกราชประสงค์ ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้รายงานการจองเที่ยวบินจากต่างประเทศมายังประเทศไทย ยังอยู่ในระดับปกติ

สำหรับการดำเนินการต่อผู้เสียชีวิตชาวต่างชาติทั้ง 14 รายนั้น ได้ให้ความช่วยเหลือในการเคลื่อนย้ายศพกลับประเทศและประกอบพิธีทางศาสนาเรียบร้อยแล้ว ส่วนความคืบหน้า การสอบสวนคดี ตั้งแต่เริ่มเกิดเหตุการณ์จนถึงปัจจุบัน ศาลได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องสงสัยแล้ว จำนวน 4 คน ได้แก่  1. ชายที่สวมเสื้อสีเหลือง ซึ่งอาจจะเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่ราชประสงค์  2. ชายที่สวมเสื้อฟ้า ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่ท่าเรือสาทร  3. ชายตามภาพสเกตช์ ซึ่งมีผู้พบเห็นว่าเป็นผู้พักอาศัยในห้องเช่าย่านมีนบุรี ที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบอุปกรณ์ที่ใช้ในการประกอบระเบิด และ 4. น.ส.วรรณา สวนสัน ซึ่งเป็นผู้ทำสัญญาเปิดเช่าห้องพักในพื้นที่มีนบุรีจำนวนหลายห้อง ที่มีชายชาวต่างชาติตามภาพสเกตช์เข้าพักอาศัย

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ น.ส.วรรณา ซึ่งปัจจุบันพำนักอยู่ต่างประเทศและได้ติดต่อขอเข้าให้ปากคำกับทางเจ้าหน้าที่แล้ว

พ.อ.วินธัย ยังกล่าวว่า ล่าสุดสำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยงานด้านความมั่นคงที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างการซักถามผู้ต้องหาที่ควบคุมตัวได้จากพื้นที่หนองจอกเมื่อวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งได้ให้การที่เป็นประโยชน์ต่อการสืบสวนคดีเป็นอย่างมาก จนนำไปสู่การขยายผลติดตามจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม ทั้งนี้ จากผลการสอบพยานต่างๆ โดยเฉพาะพยานบุคคลและผลพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ ทำให้การทำงานของเจ้าหน้าที่ เป็นไปอย่างรวดเร็วมากขึ้น  พร้อมขอความร่วมมือผู้ประกอบการ อาคารที่พัก เกสต์เฮาส์และห้องเช่าต่างๆ หากพบเห็นบุคคลที่มีพฤติกรรมน่าสงสัยเข้ามาพักอาศัย ก็ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจที่ใกล้ที่สุด

นอกจากนี้ ต้องขอความร่วมมือสื่อมวลชนทุกแขนง ให้งดการนำเสนอข่าวในเชิงด่วนสรุปหรือคาดเดาไปเอง โดยปราศจากข้อมูลที่ได้รับการยืนยันจากทางราชการ เนื่องจากการกระทำดังกล่าวถือเป็นการชี้นำต่อการรับรู้ของประชาชน จนอาจทำให้สังคมเกิดความตื่นตระหนกและส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศได้


สมยศรู้คนร่วมขบวนการบึ้ม-อุบรายละเอียด

พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ได้รับการประสานจาก น.ส.วรรณา สวนสัน หรือ ไมซาเลาะห์ ผู้ต้องหาตามหมายจับ ว่า อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดราชประสงค์ ได้ติดต่อตำรวจเพื่อเข้ามอบตัวเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจแล้ว แต่ตำรวจยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า น.ส.วรรณา จะเข้าพบตำรวจเมื่อใด และไม่ทราบว่าขณะนี้อยู่ที่ใด และไม่ได้รับรายงานกรณีกระแสข่าวการจับกุม น.ส.วรรณา ด้วย

พล.ต.อ.สมยศ ปฏิเสธว่า ไม่ได้รับรายงานกรณีกระแสข่าวว่าผู้ต้องหาที่สวมเสื้อสีเหลือง และสีฟ้า ในคดีระเบิดหลบหนีออกนอกประเทศ ผ่านด่านตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว ส่วนกรณีตำรวจกองปราบปราม เข้าไปประสานเจ้าหน้าที่ของประเทศกัมพูชา พร้อมส่งทีมติดตามผู้ร่วมก่อเหตุนั้น เป็นขั้นตอนปกติ ที่จะต้องทำงานให้ครอบคลุมทุกมิติ 

ขณะที่จากการสอบปากคำชายชาวต่างชาติที่ควบคุมได้ที่อพาร์ตเมนต์ย่านหนองจอก มีความคืบหน้าไปมาก และให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ สามารถขยายผลไปถึงผู้ร่วมขบวนการได้ แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ว่า มีผู้เกี่ยวข้องกี่คน 

ส่วนกรณีการสั่งย้ายตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เห็นว่าเบื้องต้นมีการปล่อยปละละเลยให้ชาวต่างชาติ ซึ่งเป็นแรงงานผิดกฎหมายเข้าออกประเทศ และหากผลการสอบสวนพบว่ามีการปล่อยปละละเลยจริง จะเสนอย้ายออกนอกพื้นที่ทันที


'เรืองศักดิ์'จ่อตรวจด่านมั่นคงแยกราชประสงค์

บรรยากาศขณะนี้ ที่ลานท้าวพระพรหม เอราวัณ สี่แยกราชประสงค์ ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ประชาชนและนักท่องเที่ยวยังคงเดินทางมากราบไหว้สักการะบูชากันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในวันนี้ ก็ถือว่าเป็นสัปดาห์ที่สองแล้วหลังเกิดเหตุระเบิด ที่ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ เสียชีวิตกว่า 20 ราย ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังคงทิ้งร่องรอยไว้อยู่ โดยเฉพาะบริเวณองค์พระพรหมที่เจ้าหน้าที่ยังคงใช้ผ้าขาวมาคลุมไว้บริเวณโดยรอบเพื่อบูรณะซ่อมแซม ให้สวยงามตามปกติโดยเร็ว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิก็ยังไม่สามารถตอบได้เช่นกันว่าจะแล้วเสร็จเมื่อใด โดยก็จะเร่งซ่อมแซมอย่างเต็มที่ ด้านการดูแลรักษาความปลอดภัยตลอดทั้งวัน ก็เป็นไปอย่างเข้มงวด ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร หมุนเวียนผลัดเปลี่ยนกันอยู่ทุก ๆ ชั่วโมง ตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่วันเกิดเหตุ รวมทั้งบริเวณรอบนอก ก็มีเจ้าหน้าที่ตระเวนตรวจอยู่ตลอดทั้งวันเป็นระยะซึ่งเมื่อช่วงเช้าที่สังเกตเห็นมีคนมายืนรอตั้งแต่เจ้าหน้าที่ยังไม่เปิดพื้นที่ให้กราบไหว้องค์พระพรหม เพื่อเข้าไปกราบสักการะบูชา ซึ่งจากการประเมินแล้ว ขณะนี้สถานการณ์ก็เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติแล้วกว่า 90% 

โดยเวลา 13.30 น. พล.ต.อ.ดร.เรืองศักดิ์ จริตเอก รอง ผบ.ตร. พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง จะเดินทางมาตรวจเยี่ยมด่านมั่นคงบริเวณแยกราชประสงค์





แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook