พท.ขอสปช.ไม่รับรธน.จ่อหารือคำสั่งคสช.ห้ามเคลื่อนไหว

'สามารถ' เพื่อไทย ขอ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ เตรียมหารือประเด็นคำสั่ง คสช. ห้ามเคลื่อนไหวทางการเมือง

นายสามารถ แก้วมีชัย อดีต ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการแสดงจุดยืนเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญ ว่า ไม่ได้ขออนุญาตคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เพราะคิดว่าไม่ใช่การแถลงเป็นเพียงการชี้แจงความเห็นของพรรคเพื่อไทยเท่านั้น และการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญเป็นสิทธิ์ของทุกคน แม้ว่านายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้นำและอาจจะทำให้เกิดการชี้นำได้ แต่เชื่อว่าสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ หรือ สปช. จะสามารถเลือกได้ด้วยตนเอง ทั้งนี้ หาก สปช. ผ่านร่างฯ พรรคเพื่อไทยจะมีการหารือถึงคำสั่ง คสช. ที่ห้ามเคลื่อนไหวทางการเมืองอีกครั้ง และยืนยันแม้จะมีความเห็นคล้ายกับพรรคประชาธิปัตย์ แต่พรรคเพื่อไทยจะไม่เข้าร่วมในการรณรงค์ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ

ส่วนกรณีที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย ออกมาแสดงความเห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญ มองว่าเป็นสิทธิส่วนบุคคลและการออกมาแถลงครั้งนี้ก็เป็นการแสดงจุดยืนของพรรคเพื่อไทยเท่านั้น

นายสามารถ ยังแถลงจุดยืนว่า สมาชิกพรรคเพื่อไทยส่วนใหญ่ไม่สามารถรับได้กับร่างรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน และขอให้สภาปฏิรูปแห่งชาติ หรือ สปช. ไม่รับร่างฯ ดังกล่าว เนื่องจากเป็นร่างรัฐธรรมนูญที่ไม่เคารพอำนาจประชาชน ซึ่งอำนาจตกอยู่กับองค์กรและกลุ่มบุคคลที่ได้สร้างกลไกเพื่อมุ่งสืบทอดอำนาจและไร้การตรวจสอบ ประชาชนขาดสิทธิและโอกาส ซึ่งผลของร่างรัฐธรรมนูญจะทำให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งอ่อนแอ ไร้ประสิทธิภาพ บริหารประเทศไม่ได้ เศรษฐกิจของประเทศจะยิ่งตกต่ำ และจะนำพาประเทศไปสู่ความขัดแย้งในทุกระดับ ยากที่จะกลับคืนสู่สันติสุขได้ เป็นที่น่าห่วงใยว่า ประเทศชาติจะตกอยู่ในวงจรอุบาทว์อย่างไม่สิ้นสุด

ทั้งนี้ ยังมีหลายฝ่ายไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญดังกล่าว โดยมองว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ นอกจากจะไม่มีความเป็นประชาธิปไตยแล้ว ยังมีเนื้อหาที่นำพาประเทศถอยหลัง มีลักษณะเป็นการสืบทอดอำนาจ และอาจทำให้เสียงบประมาณแผ่นดินถึงกว่า 3,000 ล้านบาท ในการยกร่างฯ และจัดทำประชามติ จึงอยากให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องแก้ไข โดยให้ สปช. แสดงความรับผิดชอบ โดยการลงมติไม่เห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อให้เกิดการร่างรัฐธรรมนูญขึ้นใหม่

'นิรันดร์' เรียกร้อง สปช.ไม่รับร่าง รธน.

นายนิรันดร์ พันทรกิจ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ แถลงการเรียกร้องให้ สปช. มีมติร่วมกันไม่ผ่านร่างรัฐธรรมนูญฉบับล่าสุด เนื่องจากในรัฐธรรมนูญ ฉบับชั่วคราว 2557 ระบุว่า หากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเสียงข้างมากมีมติรับร่างรัฐธรรมนูญให้นายกรัฐมนตรีนำขึ้นทูลเกล้า ภายใน 90 วัน เพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาและมีผลบังคับใช้ ซึ่งปัจจุบันประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งมีประมาณ 47 ล้านคน ดังนั้น เสียงมากคือ 23,500,000 เสียง ซึ่งส่วนตัวมองว่า เป็นไปไม่ได้เลยที่ร่างรัฐธรรมนูญจะผ่านการทำประชามติของประชาชน จึงไม่ควรเสียงบประมาณเกือบ 4 พันล้าน โดยไม่มีประโยชน์ พร้อมทั้งขอให้ สนช. ดำเนินการแก้ไข ม.37 ของรัฐธรรมนูญ ฉบับชั่วคราว ก่อน แล้วจึงจัดให้มีการลงประชามติในภายหลัง

อย่างไรก็ตาม นายนิรันดร์ กล่าวว่า แม้ว่าที่ผ่านมาผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจะออกมาระบุว่า ร่างรัฐธรรมนูญจะผ่านการทำประชามติได้ต้องมีคะแนนเสียงเกินครึ่งหนึ่งของผู้มาใช้สิทธิ์ แต่ในทางปฏิบัติต้องยึดตามบทบัญญัติกฎหมาย