ปิดล้อมล่านักโทษ 8 คดีอุกฉกรรจ์ โดดรั้วหนีศาลนครปฐม

ปิดล้อมล่านักโทษ 8 คดีอุกฉกรรจ์ โดดรั้วหนีศาลนครปฐม

ปิดล้อมล่านักโทษ 8 คดีอุกฉกรรจ์ โดดรั้วหนีศาลนครปฐม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

4 ก.ย. - ความคืบหน้าล่าสุดกรณีนักโทษคดีอุกฉกรรจ์ที่ก่อเหตุมาแล้ว 8 คดี หลบหนีขณะถูกนำตัวมาที่ศาลจังหวัดนครปฐม จนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังคงปิดล้อมบริเวณป่ากกในพื้นที่ ต.พระประโทน อย่างไม่ละความพยายาม และกดดันทุกวิถีทางเพื่อควบคุมตัวนักโทษให้ได้

ภาพวงจรปิด นายเจษฎา รำพึงจิต อายุ 29 ปี นักโทษคดีสำคัญทั้งปล้น-ฆ่าชิงทรัพย์ รวม 8 คดี ก่อเหตุหลบหนีจากศาลจังหวัดนครปฐม ขณะเจ้าหน้าที่นำตัวมาฟังคำพิพากษา โดย นายเจษฏา ได้กระโดดข้ามรั้วกั้นระหว่างห้องควบคุมใต้ถุนศาล และวิ่งหลบหนีไปทั้งๆ ที่ยังมีโซ่ตรวนติดอยู่ที่ขา

ก่อนชิงรถจักรยานยนต์สีดำ หมายเลขทะเบียน 987 ของชาวบ้าน ที่จอดอยู่ที่บริเวณตลาดผลไม้ปฐมมงคล ห่างจากศาลจังหวัดนครปฐมประมาณ 500 เมตร หลบหนีไป โดยผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า เห็นชายไม่ใส่เสื้อขี่รถจักรยานยนต์ข้ามเกาะกลางถนนไปทางวัดเกาะวังไซ โดยมีโซ่ตรวนอยู่ที่ข้อเท้า จึงขี่รถจักรยานยนต์ตามไป แต่ก็ตามไม่ทัน

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และอาสาสมัครมูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์ รวมกว่า 100 นาย เร่งติดตามตัวนายเจษฎา ผ่านไป 2 ชั่วโมง พบรถจักรยานยนต์ที่ชิงมาถูกทิ้งอยู่ในป่ากกริมถนนชุมชนบ่อโตนด ซอย 1 ต.พระประโทน อ.เมืองนครปฐม และพบร่องรอยการแหวกป่ากกหลบหนี

พ.ต.ท.สุธี วรรณสูตร รองผู้กำกับการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรเมืองนครปฐม เปิดเผยว่า นักโทษรายนี้ก่อเหตุมาอย่างโชกโชนทั้งยิงตำรวจเสียชีวิต ฆ่าชิงทรัพย์ทหาร และปล้นจี้ชิงทรัพย์ประชาชน

พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่พร้อมตั้งจุดบัญชาการที่หน้าวัดเกาะวังชัย พร้อมสั่งการให้ทุกส่วน ทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง กระจายกำลังปิดล้อม รอบพื้นที่ป่ากกที่คาดว่าคนร้ายกบดานอยู่ พร้อมทั้งให้สุนัขทหารเข้าดมกลิ่น และใช้รถดับเพลิงฉีดน้ำเข้าใส่ เพื่อโอบล้อมกระชับพื้นที่ กดดันให้นายเจษฎายอมออกมามอบตัว

พร้อมประสานรถไฟส่องสว่างจากเทศบาลนครนครปฐม นำไฟส่องสว่างมาเตรียมพร้อมเพื่อค้นหาตัวในช่วงค่ำ ก่อนจะประสานนำเรือไฟเบอร์ขนาดเล็กมาล่องตามคลองน้ำรอบป่ากก เพื่อค้นหาตัวอีกทางหนึ่ง แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีวี่แววของนักโทษชายรายดังกล่าว - สำนักข่าวไทย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook