"ผบ.ตร."ลั่นไม่กลัว!! ทิ้งปรมาณูตำรวจ "สตม."ตายทั้งพวงส่งบันทึกถึงนายกฯตู่

"ผบ.ตร."ลั่นไม่กลัว!! ทิ้งปรมาณูตำรวจ "สตม."ตายทั้งพวงส่งบันทึกถึงนายกฯตู่

"ผบ.ตร."ลั่นไม่กลัว!! ทิ้งปรมาณูตำรวจ "สตม."ตายทั้งพวงส่งบันทึกถึงนายกฯตู่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อวันที่ 9 กันยายน พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ุม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีพฤติกรรมตำรวจตรวจคนเข้าเมือง(ตม.)ที่กระทบต่อภาพลักษณ์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่า ได้ทำบันทึกถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีแล้ว จะส่งไปภายในวันนี้

"เนื้อหาคือสิ่งที่เกิดขึ้น ได้รับการร้องเรียน มีการสืบสวน มีพยานหรือบุคคลที่บอกกล่าวเล่าให้ฟังว่าเป็นเช่นนั้นเช่นนี้ ผมเห็นว่าปัญหานี้ระดับไม่ธรรมดา ไม่ถูกต้อง ไม่ถูกกฎหมาย ผู้นำประเทศต้องรู้ปัญหานี้ และช่วยเหลือแก้ไข ผมมีเวลาน้อยที่จะแก้ปัญหานี้ ถ้าผมอยู่อีกสัก 1-2 เดือนคงได้เห็นดีกัน แต่ผมมีเวลาแค่ 20 วัน ผมทำเท่าที่ได้ บอกพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร. ไปว่าท่านจะเป็นผบ.ตร. รู้ปัญหาแล้ว ท่านทิ้งปัญหานี้ไม่ได้ ต้องเข้ามาแก้ไข ฝากสื่อมวลชนช่วยถามท่านเรื่อยๆ ว่าท่านจะทำอย่างไร" ผบ.ตร.กล่าว

"ผมต้องเรียนท่านนายกฯเพราะเรื่องนี้กระทบความน่าเชื่อถือภาพลักษณ์เศรษฐกิจความมั่นคงของประเทศหากปล่อยเช่นนี้ต่อไป ความเสียหายเกิดขึ้นกับประเทศชาติ ในฐานะที่เป็นคนไทย ไม่รู้สึกกันหรือ ที่คนกลุ่มหนึ่ง ทำแบบนี้ ผมเป็นตำรวจผมพูดเรื่องนี้ขึ้นมา เหมือนเอาความไม่ดี ความไม่ถูกต้องในสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาเปิดเผย ตีแผ่ หลายคนบอกว่าผมไม่ควรเอาเรื่องนี้ขึ้นมา ผมถามกลับไปว่าถ้าผมรู้แล้ว จะปล่อยให้เป็นอย่างนี้อีกต่อไปหรือ ถ้าผมไม่รู้ไม่เป็นไร แต่รู้ มีข้อมูล มีคนมาบอกกล่าวร้องเรียนเล่าสู่ คนกลุ่มนั้นไม่อยากเปิดเผยตัวเอง เขากลัวเดือดร้อน เขาประกอบธุรกิจที่ต้องอาศัยตำรวจตม.เช่นมีพนักงานหรือที่ปรึกษาเป็นคนต่างชาติ บริษัทท่องเที่ยว ร้านอาหารที่มีเชฟต่างชาติ พวกนี้ไม่กล้ามีปัญหากับตำรวจหรอก เพราะว่าบางครั้งธุรกิจเหล่านี้มีข้อผิดพลาด คนจ้องจับผิดกับคนระวังสู้ไม่ได้หรอก แต่ขืนเราปล่อยไว้อย่างนี้ ทั้งๆที่รู้ ผมทำไม่ได้หรอก"

"ผมอาย ถึงแม้มีเวลา 20 วัน ผมก็รู้สึกอาย บางคนบอกว่าไม่เคยมีส่วนรู้เห็น มีการสอบสวน ตรวจสอบแล้ว อ้างว่าไม่พบผิด ก็พูดไป แก้ตัวไป แต่ผมจะนำเสนอนายกรัฐมนตรีเป็นลายลักษณ์อักษร ผมจะต้องทิ้งสิ่งนี้ ท่านนายกรัฐมนตรีต้องเข้ามาดู เพราะผมเชื่อว่าลำพัง ผบ.ตร.คนเดียวแก้ปัญหาเหล่านี้ไม่ได้" พล.ต.อ.สมยศ กล่าว

ผบ.ตร.กล่าวด้วยว่า เรื่องนี้มาจากการตรวจสอบ สืบสวนจากการร้องเรียนถึงความเสื่อมเสีย แล้วกระทบกระเทือนความมั่นคง เช่นกรณีผู้ต้องสงสัยในคดีนี้ เดินทางเข้าออกในประเทศไทยไม่รู้ตั้งกี่ครั้งแล้ว แต่ไม่มีการตรวจสอบ "

อย่างไรก็ตาม ที่ทำบันทึกถึงนายกรัฐมนตรียังไม่ระบุถึงตัวบุคคล หากตนรู้บุคคลผมไม่รอท่านนายกฯแล้ว ผมชั๊วะเลย ผมสั่งการ พล.ต.ท.ศักดา ชื่นภักดี ผบช.สตม.ในห้องประชุมเมื่อวันที่ 7 กันยายน ให้ดำเนินการแล้ว จะบอกว่าไม่รู้ไม่ได้ ท่านอาจอยู่ข้างบนไม่รู้เห็น แต่ต้องแก้ไข ที่ประชุมในวันนั้นผมพูดถึงพฤติกรรมต่างๆ ไม่มีตำรวจ ตม.คนไหนเถียงผมสักแอะ นั่งเป็นนกปากเจ็บหมดเลย"

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในวงการตำรวจพูดกันว่าตำรวจ สตม.ล้วนเป็นคนที่มีเส้นสาย เป็นคนใกล้ชิดของอดีตผู้บังคับบัญชาระดับสูง ผบ.ตร.กล่าวว่า ก็นั่นสิ จึงต้องบันทึกถึง นายกรัฐมนตรี เรื่องนี้หากกลัวคงไม่ทำ

"วันนั้นประกาศในที่ประชุม ผมทำอย่างนี้รู้ว่าตำรวจตม.เกลียดผม เกลียดก็เกลียดไป ผมไม่เคยต้องการให้ตำรวจตม.ตามพะเน้าพะนอเวลาเดินทาง ตามเป็นพวงเป็นฝูง ผมไม่เข้าใจเหมือนกันผู้บังคับบัญชาที่เดินทางไปต่างประเทศชอบให้ลูกน้องเดินตามเป็นหาง บ้าหรือเปล่า เดินทางไม่เป็นหรือ พวกเดินตามก็บ้า ไม่รู้หรือ เขารำคาญจะตาย เวลาผมเดินทางไปไหน มีคนมาคอยตามผมโคตรรำคาญ"

"ผมบอกไปทำงานเถอะน้องไป พอลุกจากเคาน์เตอร์แถวที่ประชาชนเขาติดต่อก็ยาว ชาวบ้านด่า ครั้งนี้ใหญ่แค่ไหนก็จะเปิดโปง เรื่องนี้ผมเรียกมาเตือน มาว่า ดำเนินการมาตลอด คิดว่าไม่เคยดำเนินการหรือ บอกเตือนตลอดเขาว่าเขาร้องเรียนอย่างนั้นอย่างนี้ ที่ออกมาตอนนี้เพราะมันมีระเบิดที่ศาลท้าวมหาพรหม แล้วผู้ต้องสงสัยให้การว่าเดินทางเข้าออกที่สระแก้ว 4-5 รอบ แล้ว เสียตังค์ด้วย ผมไม่ได้จู่ๆ กุเรื่องมา ผมไม่ใช่คนบ้า ใครๆก็รู้ทั้งนั้น ฝ่ายสืบสวนรู้ทุกคน"

ผบ.ตร.กล่าวทิ้งท้ายว่า "เป็นความหละหลวมหรือไม่ให้คิดกันเอง อย่าให้พูดทุกเรื่อง ไม่หละหลวม เหลวไหล รุ่งริ่ง มันไม่เป็นอย่างนี้หรอก นี่ไม่ใช่แค่การทิ้งทวน แต่คือการทิ้งปรมาณู ทิ้งทวนตายทีละศพ แต่ทิ้งปรมาณูตายทั้งพวง"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook