"นาซา"เผยลูกไฟตกไทย พลังงานการชน 1 ใน 4 ปรมาณูฮิโรชิมา ใหญ่ที่สุดในรอบปี

"นาซา"เผยลูกไฟตกไทย พลังงานการชน 1 ใน 4 ปรมาณูฮิโรชิมา ใหญ่ที่สุดในรอบปี

"นาซา"เผยลูกไฟตกไทย พลังงานการชน 1 ใน 4 ปรมาณูฮิโรชิมา ใหญ่ที่สุดในรอบปี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากปรากฏการณ์ลูกไฟสว่างตกจากท้องฟ้า สามารถพบเห็นได้ทั่วกรุงเทพมหานคร กาญจนบุรี และบริเวณหลายจังหวัดในภาคกลาง เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 7 กันยายนที่ผ่านมา เบื้องต้น สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน)(สดร.) ให้ข้อมูลว่า เป็นลูกไฟขนาดใหญ่ที่สุดที่พุ่งเข้ามาในบรรยากาศโลกในรอบปี คาดว่าอาจมีชิ้นส่วนตกที่กาญจนบุรี ย้ำว่าเป็นเหตุการณ์ที่สามารถพบเห็นได้เป็นปกติ ประชาชนไม่ต้องตกใจ

วันที่ 14 กันยายน นายศรัณย์ โปษยะจินดา รองผู้อำนวยการสดร. เปิดเผยว่า สดร.ได้รับข้อมูลจากองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ(นาซา) และลงพื้นที่สำรวจ รวมทั้งวิจัยข้อมูลเบื้องต้นที่ จ.กาญจนบุรี พบว่า วัตถุดังกล่าวเป็นวัตถุจากนอกโลก ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 3.5 เมตร มวลประมาณ 66 ตัน

พุ่งเข้ามาในบรรยากาศโลกด้วยความเร็วประมาณ 75,600 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีความที่สุดในขณะอยู่สูงจากพื้นโลกประมาณ 29.3 กิโลเมตร พลังงานการชนของวัตถุมีค่าเท่ากับ 3.9 กิโลตัน หรือ 1 ใน 4 ของระเบิดปรมาณูที่ฮิโรชิมา ทิศทางการเคลื่อนที่มุ่งไปทางทิศตะวันตก คาดการณ์ว่าอาจตกลงบริเวณอุทยานแห่งชาติไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี นับเป็นลูกไฟขนาดใหญ่ที่สุดที่พุ่งเข้ามาในบรรยากาศโลกในรอบปีที่ผ่านมา

นายศรัณย์ กล่าวว่า ยืนยันว่า วัตถุที่หล่นลงมา ไม่ใช่ดาวเทียมหรือขยะอวกาศอย่างแน่นอน เมื่อเทียบจากลักษณะการตกซึ่งมีความชันกว่า เป็นวัตถุที่มีพลังงานสูงสามารถมองเห็นได้ในเวลากลางวัน เคลื่อนที่ด้วยความเร็วกว่าเสียง ไม่มีความเสียหายรุนแรง ไม่แน่ใจว่าวัตถุที่หล่นลงมาจะมีการเผาไหม้หมดก่อนถึงพื้นหรือไม่ แต่คาดการณ์ว่าน่าจะมีหลงเหลืออยู่

ขอให้ประชาชนไม่ต้องเป็นกังวล เพราะไม่เป็นอันตราย โลกมีชั้นบรรยากาศเป็นกลไกในการป้องกันตัวเอง กรณีนี้ไม่ต่างจากปรากฏการณ์ดาวตกที่พบเห็นได้ในตอนกลางคืน เพียงแต่เหตุการณ์เกิดขึ้นในเวลากลางวัน และพบเห็นได้ในแหล่งชุมชนเท่านั้น ยืนยันว่าตอนนี้ยังไม่มีการค้นพบวัตถุที่ตกลงมาแต่อย่างใด

รศ.บุญรักษา สุนทรธรรม ผู้อำนวยการสดร.กล่าวว่า หากมีการค้นพบชิ้นส่วนของวัตถุ อาจทำให้การวิจัยเกิดความกระจ่างชัดมากขึ้น มีความยินดีที่จะสนับสนุนทีมค้นหาอุกกาบาต หากมีประชาชนในพื้นที่พบเห็นหินอุกกาบาต ขอให้นำมาส่งให้กับเจ้าหน้าที่เพื่อเป็นข้อมูลในการศึกษา วิจัย และหาแนวทางในการป้องกัน ตระหนัก เฝ้าระวังวัตถุจากนอกโลกต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook