วอลล์สตรีตอิมโบนัส6แสนล.

เมื่อ 30 ม.ค. เอพีรายงานว่า นายบารัก โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐประณามผู้บริหารของบริษัทต่างๆ ในตลาดหุ้นวอลล์สตรีตว่ามีพฤติกรรมน่าละอายใจ และไร้ความรับผิดชอบ หลังมีรายงานจากสำนักงานตรวจบัญชีรัฐนิวยอร์ก ระบุว่า เมื่อปีที่ผ่านมามีการแจกเงินโบนัสรวมกันถึงราว 660,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินโบนัสก้อนใหญ่ทั้งที่อยู่ในช่วงวิกฤตและรัฐบาลต้องเอาเงินภาษีประชาชนไปอุ้มไม่ให้บริษัทเหล่านี้ล้มละลาย

รายงานระบุว่า โอบามาหารือกับนายทิมอธี ไกธ์เนอร์ รมว.คลัง และจะเรียกบรรดาผู้บริหารของวอลล์สตรีตเข้าพบเพื่อชี้แจง เนื่องจากสิ่งที่เกิดขึ้นจะทำลายความเชื่อมั่นต่อมาตรการและนโยบายต่างๆ ของรัฐบาล ขณะที่ประชาชนคงไม่พอใจที่รัฐบาลนำเงินภาษีมาช่วยให้พ้นจากภาวะขาดทุน แต่กลับนำเงินไปใช้อย่างสุรุ่ยสุร่ายเช่นเดิม ทั้งที่โอบามาเคยเตือนแล้วว่า สถาบันการเงินควรจะจ่ายโบนัสเท่าที่จำเป็น

ขณะเดียวกัน โอบามาลงนามกฎหมายฉบับแรกในฐานะประธานาธิบดี ว่าด้วยการจ่ายเงินเดือนในการทำงานอย่างเท่าเทียมกันระหว่างชายและหญิง ซึ่งเมื่อบังคับใช้จะทำให้ชายและหญิงได้ผลตอบแทนเสมอภาคกัน

วันเดียวกันที่ญี่ปุ่น สถานการณ์เศรษฐกิจยังคงตึงเครียดรอบด้าน ผลผลิตด้านอุตสาหกรรมเดือนที่ผ่านมาดิ่งลงร้อยละ 9.6 ต่อเนื่องจาก 3 เดือนก่อนหน้านั้นที่ดิ่งไปกว่าร้อยละ 11.9 ส่วนภาวะคนตกงานพุ่งสูงถึงร้อยละ 4.4 ในเดือนธ.ค. กรณีที่ช็อกที่สุดคือบริษัทเอ็นอีซีสั่งปลดพนักงานทั่วโลก 20,000 ตำแหน่ง และล่าสุด บริษัทฟูจิตสึ ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า แถลงว่า ผลประกอบการช่วง 9 เดือนสิ้นสุดที่เดือนธ.ค.ที่ผ่านมา ขาดทุนถึง 13,900 ล้านบาท คาดว่าปีนี้ก็จะขาดทุนอีก

นายคาโอรุ โยซาโน่ รมว.เศรษฐกิจ กล่าวว่า ปัญหาตอนนี้ร้ายแรงมาก เป็นไปไม่ได้เลยที่จะพยากรณ์ได้ว่า จะดิ่งลงไปถึงจุดต่ำสุดเมื่อใด และปัญหานี้เป็นปัญหาระดับโลก ไม่ใช่เรื่องภายในประเทศ