อดีตทนายอาสา มั่นใจ 2 จำเลยคดีเกาะเต่าไม่ได้ทำผิด เพจดัง CSILA ตั้งข้อสงสัย?

อดีตทนายอาสา มั่นใจ 2 จำเลยคดีเกาะเต่าไม่ได้ทำผิด เพจดัง CSILA ตั้งข้อสงสัย?

อดีตทนายอาสา มั่นใจ 2 จำเลยคดีเกาะเต่าไม่ได้ทำผิด เพจดัง CSILA ตั้งข้อสงสัย?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อวานนี้ (24 ก.ย.) ที่ ศาลจังหวัดเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในห้องพิจารณาที่ 6 ผู้พิพากษาได้เปิดให้มีการสืบพยานฝ่ายจำเลยเป็นวันที่ 3 โดยได้เบิกตัว นางสาวจันทร์จิรา แจ้งแผ้ว อนุกรรมการสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ในคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ที่ได้รับการแต่งตั้งให้หาข้อมูลในประเด็นการตรวจสอบเรื่อง สองผู้ต้องหาร้องว่าถูกทำร้ายร่างกายจากเจ้าหน้าที่เพื่อบังคับให้รับสารภาพ ขณะถูกจับกุม ขึ้นเบิกความต่อศาล และยังเป็นผู้ที่ได้เข้าไปซักถาม นายเมาเมา แรงงานชาวเมียนมาบนเกาะเต่า ภายในสถานทูตเมียนมาประจำประเทศไทย โดย นายเมาเมา ยืนยันว่า ถึงแม้ตนเองจะถูกกันให้มาเป็นพยาน แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรงบังคับให้ชี้ตัว นายซอริน และนายเวพิว ว่าเป็นผู้ก่อเหตุในครั้งนี้

ต่อมาในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน ทนายความฝ่ายจำเลยจากสภาทนายความ ได้เบิกตัว นายนริทร์ศักดิ์ หลายทวีวัฒน์ อดีตทนายความอาสาสภาทนายความ ที่ได้รับแต่งตั้งจากสภาทนายความให้ลงมาทำหน้าที่ทนายความให้กับ นายซอริน และ นายเวพิว ในการนัดสืบพยานล่วงหน้าในวันที่ 14 ตุลาคม 2557 และได้พบกับสองผู้ต้องหาภายในห้องพิจารณาศาลจังหวัดเกาะสมุย

นายทวีศักดิ์ กล่าวให้ปากคำว่า ตนเองได้มีการสอบถาม นายซอริน และ นายเวพิว ว่าได้เป็นผู้ลงมือกระทำหรือไม่ ทั้งสองคนได้บอกผ่านล่ามแปลภาษาว่า ไม่ได้เป็นคนฆ่าสองนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษดังกล่าว จากนั้นได้ให้กระดาษผ่านล่ามเพื่อให้ทั้งสองคนเขียนเพื่อยืนยันคำพูด โดย นายซอริน และ นายเวพิว ได้เขียนเป็นภาษาเมียนมา แปลเป็นภาษาไทยว่า "ผมไม่ได้ทำ" และด้านหลังกระดาษแผ่นดังกล่าวเขียนเป็นภาษาเมียนมาอีกว่าว่า "ผมไม่รู้เรื่อง" ก่อนที่จะให้ทั้งสองคนเซ็นชื่อกำกับไว้ว่าเป็นลายมือของจำเลยทั้งสองคน

นายทวีศักดิ์ ยังกล่าวอีกว่า ทำให้เชื่อว่าจำเลยทั้งสองคนไม่น่าจะเป็นผู้ลงมือฆ่าสองนักท่องเที่ยวด้วยความสูงและลักษณะรูปพรรณโดยรวม ที่ทั้งสองคนตัวเล็กกว่า นายเดวิด และในวันสืบพยานล่วงหน้าทั้งสองคนอยู่ในอาการหวาดระแวง โดยสังเกตได้จากการสักถามแต่ครั้ง ทั้งสองคนจะพูดเสียงเบา และเมื่ออยู่ด้วยกันจะมีการสะกิดเพื่อส่งสัญญาณ เมื่อถูกถามในลักษณะคล้ายจะให้หยุดพูดเพื่อไม่ต้องการมีปัญหากับเจ้าหน้าที่รัฐ

รายงานระบุอีกว่าจากนั้น นายธีรวุฒน์ พราหมหรรณ์ อัยการจังหวัดเกาะสมุย ทำหน้าที่ทนายความฝ่ายโจทย์ ได้สักถามนายนรินทร์ศักดิ์ ทนายความฝ่ายจำเลยว่า การที่ได้ส่งกระดาษให้กับจำเลยทั้งสองคนเขียนเป็นภาษาเมียนมาโดยผ่านล่ามนั้น รู้หรือไม่ว่าล่ามได้สื่อสารอะไรหรือได้บอกอะไรกับจำเลยทั้งสองคนหรือไม่

นายนรินทร์ศักดิ์ ทนายความของทั้งสองคนในช่วงสืบพยานล่วงหน้า กล่าวว่า ตนไม่สามารถฟังหรือพูดภาษาเมียนมาได้ โดยคาดว่าสิ่งที่ได้บอกผ่านล่ามแปลภาษาไปถึงทั้งสองผู้ต้องหาชาวเมียนมานั้น เชื่อได้ว่าล่ามไม่น่าจะบิดเบือนข้อความที่ตนเองต้องการสื่อสาร และการมาทำหน้าที่ในวันนั้นทำหน้าที่ทนายอาสาที่ได้รับการร้องขอมาจากสภาทนายความ

ต่อจากนั้น ได้เบิกตัว นายโกอาว พยานฝ่ายจำเลยชาวเมียนมา ให้การว่าในวันที่ 2 ตุลาคม 2557 ตนเองได้รับการร้องขอจาก นายชัยชัย ชาวเมียนมา ซึ่งเป็นเพื่อน ให้ช่วยมารับนายเวพิวที่ท่าเรือนอนเกาะเต่า ในตัวเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานี ไปส่งที่ยังพักคนงานก่อสร้างตรงข้ามศูนย์การค้าเซ็นทรัลสุราษฎร์ธานี เพื่อไปทำงานเป็นแรงงานก่อสร้าง แต่ระหว่างที่ไปรับพบว่านายเวพิวถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวไป และตนเองได้จอดรถจักรยานยนต์

จากนั้นได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบมาล็อคคอไปสอบสวนพร้อมกับ นายเวพิว ที่ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี โดยได้แยกกันสอบสวน หลังจากสอบสวนเสร็จ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พาไปค้นยังห้องพักแต่ไม่พบสิ่งผิดปกติหรือผิดกฎหมาย หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงปล่อยตัวออกมา แต่นายเวพิวยังถูกควบคุมตัวอยู่

นายโกอาว ยังกล่าวอีกว่าในขณะถูกควบคุมตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้มีการซ้อมแต่อย่างใด แต่ตนเองถูกล็อคคอจนแทบหายใจไม่ออก สำหรับตนเองเป็นลูกจ้างของบริษัทนายหน้ารับต่อวีซ่า และพาสปอร์ตของแรงงานข้ามชาติที่ทำงานในจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมีเจ้าของเป็นคนไทย

นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า เฟซบุ๊กแฟนเพจ CSI LA ได้โพสข้อความมีเนื้อหาว่า โอละพ่อ การผ่าพิสูจน์ผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คนอีกครั้งที่ประเทศอังกฤษ โดยข้อมูลและเอกสารที่ได้รับมาจากประเทศอังกฤษ ที่เป็นผลของการผ่าพิสูจน์ซึ่งมีการรับรองเอกสารจากสถานทูตไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งทางอังกฤษได้ตัดชิ้นส่วนไปตรวจอย่างละเอียด ไม่พบการฉีกขาดของอวัยวะเพศ ซึ่งเป็นไปได้ยาก ที่คนถูกข่มขืนมากกว่า 2 คน ทางทวารหนัก จะไม่มีแผลฉีกขาด และการกัดหัวนมด้านขวาที่ตรวจพบในไทย แต่ของอังกฤษไม่พบ (Credit: The Nation According to the British medical examiner, the coroner didn′t find any wounds caused by rape that was different from Thai police report.) และยังโพสข้อความเรื่องที่มีการนำภาพไปให้ผู้เชี่ยวชาญจากประเทศอังกฤษวิเคราะห์การเดิน มีเนื้อหาว่า ตำรวจไทย VS CSI London (ไสยศาสตร์ Vs วิทยาศาสตร์)

โดยเนื้อหาระบุว่า นักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญลักษณะการเดินของมนุษย์จากบริษัท Acume Forensic ประเทศอังกฤษ ได้ให้การต่อศาลว่า ชายที่ไม่ได้ใส่เสื้อ ไม่ใช่ นายวิน อย่างที่ตำรวจอ้าง เพราะหลังจากการทำ Gait Analysis หรือ การวิเคราะห์ลักษณะการเดิน เเละองศาของเท้าเเบบวิทยาศาสตร์ คนที่อยู่ในกล้องวงจรปิด ที่วิ่งไปมาไม่ใช่ นายวิน ตามที่ตำรวจไทยอ้าง (Credit: Andy Hall บริษัท Acume Forensic ให้คำปรึกษาเเละเป็นพยานให้ฝ่ายจำเลยโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายอะไร According to Acume Forensics gait analysis, the ′running man′ in the Koh Tao murder case is NOT accused Wai Phyo. The defense team thank Acume Forensics for their pro bono work on this case.)

ขณะที่ มีรายงานเพิ่มเติมว่า นายนคร ชมพูชาติ ทนายความฝ่ายจำเลย กล่าวว่า สำหรับการสืบพยานในวันที่ 25 กันยายน จะมีเจ้าหน้าที่จากสถานทูตเมียนมา กับผู้เชี่ยวชาญด้านเชื้อชาติจากประเทศเมียนมา มาให้ข้อมูลในส่วนนี้ และพยานที่เป็นล่ามแปลภาษาที่ถูกกฎหมายโดยมีสถานทูตเมียนมารับรอง มาให้รายละเอียดเกี่ยวกับการทำหน้าที่ล่ามแปลภาษา เนื่องจากล่ามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ในการแปลภาษาช่วงระหว่างการสอบสวนเป็นล่ามแปลภาษาที่ไม่ได้รับรองจากสถานทูตเมียนมา

ทั้งนี้ นายนคร กล่าวว่า ทางทีมทนายฝ่ายจำเลยได้ร้องขอต่อศาลที่จะขอเพิ่มวันสืบพยานจำเลยต่อไปอีก 2 วัน เพราะการสืบพยานของ นายซอริน โดยให้เหตุผลว่ายังให้รายละเอียดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเองไม่ครบกระบวนการซักถาม ส่วน นายเวพิว ยังไม่ได้ให้การเลย ขณะที่ทางอัยการได้ค้านให้เหลือแค่ 1 วัน จนผู้พิพากษาต้องตัดสินว่าขอดูการสืบพยานฝ่ายจำเลยในวันที่ 25 กันยายนนี้ ถึงจะสรุปได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook