ยิ่งลักษณ์มาศาลฟ้อง อสส.อัยการ รวม 4 รายผิด ม.157

ยิ่งลักษณ์มาศาลฟ้อง อสส.อัยการ รวม 4 รายผิด ม.157

ยิ่งลักษณ์มาศาลฟ้อง อสส.อัยการ รวม 4 รายผิด ม.157
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อดีตนายกรัฐมนตรี "ยิ่งลักษณ์" ยื่นฟ้อง อัยการสูงสุดกับพวกรวม 4 คน กรณี สั่งฟ้องคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวโดยมิชอบ

นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมายังศาลอาญา รัชดาภิเษก พร้อมกับ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี และทนายความ เพื่อยื่นฟ้อง นายตระกูล วินิจนัยภาค อัยการสูงสุด, นายชุติชัย สาขากร อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ, นายสุรศักดิ์ ตรีรัตน์ตระกูล อธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน และ นายกิตตินันท์ ธัชประมุข รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน รวม 4 คน ในความผิดฐานละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบและความผิดตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม

โดย นางสาวยิ่งลักษณ์ ระบุว่า อัยการสูงสุด มีความเห็นชี้ข้อไม่สมบูรณ์ในคดีโครงการรับจำนำข้าว ที่ยื่นฟ้องตัวเอง ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี แต่กลับไม่ไต่สวนให้เสร็จสิ้น และมีความเห็นสั่งฟ้องเพียง 1 ชั่วโมง ก่อนที่ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จะพิจารณาถอดถอนตัวเอง อัยการสูงสุด ยังพิจารณาเพิ่มข้อกล่าวหาว่า ตัวเองสมยอมให้เกิดการทุจริตและแสวงหาประโยชน์มิชอบ เพิ่มจากที่ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แจ้งข้อกล่าวหาไว้ก่อนหน้านี้ด้วย

และในชั้นพิจารณาของศาล อัยการสูงสุด ยังนำเอกสารที่ไม่มีการไต่สวนในชั้น ป.ป.ช. และคณะทำงานร่วม เพิ่มเข้ามากว่า 60,000 แผ่น ถือว่า เป็นเอกสารนอกสำนวนที่นำเข้ามาในสำนวนโดยมิชอบ จึงเห็นว่า การกระทำของอัยการสูงสุด เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จึงเดินทางมายื่นฟ้องต่อศาลใช้สิทธิตามกฎหมาย และหวังว่าจะได้รับความเป็นธรรม

ซึ่งภายหลัง ศาลได้นัดฟังคำสั่งว่า จะรับคดีนี้ไว้พิจารณา เพื่อไต่สวนมูลฟ้องหรือไม่ อีก 7 วัน หรือ วันอังคารที่ 6 ตุลาคม นี้

'ยิ่งลักษณ์'FBยื่นฟ้องอสส.เพื่อปกป้องตนเอง

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ส่วนตัว "Yingluck Shinawatra" ว่า ได้เดินทางมายังศาลอาญาเพื่อยื่นฟ้องอัยการสูงสุดพร้อมพวกในความผิดอาญาฐานร่วมกันปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด และความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 มาตรา 200 และมาตรา 83 โดยเป็นการกระทำผิดต่างกรรมต่างวาระกันรวม 3 กรณี

1.การที่อัยการสูงสุดมีความเห็นชี้ข้อไม่สมบูรณ์เพียงพอที่จะดำเนินคดีได้รวม 4 ข้อ อันประกอบไปด้วย ประเด็นปัญหาเรื่องโครงการรับจำนำข้าว ประเด็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ประเด็นเรื่องการทุจริต และประเด็นอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ซึ่งเป็นคุณกับตน แต่กลับไม่ได้ไต่สวนให้เสร็จสิ้นตาม พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและภายหลังกลับมีความเห็นสั่งฟ้อง 1 ชั่วโมงก่อนการพิจารณาถอดถอนที่ สนช.

2.การบรรยายฟ้องของอัยการสูงสุด ที่ยื่นฟ้องตนต่อศาลมีการเพิ่มเติมข้อกล่าวหาจากที่ ป.ป.ช. แจ้งข้อกล่าวหาเดิมตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 โดยไม่มีข้อกล่าวหาว่าทุจริต หรือสมยอมให้ทุจริต แต่คำฟ้องของ อสส.กลับบรรยายว่าตนรู้เห็นและสมยอมให้เกิดการทุจริต ซึ่งเป็นการแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับผู้อื่น

3. ในชั้นพิจารณาของศาล อัยการสูงสุดกลับนำเอกสารที่ไม่มีการไต่สวนในชั้น ป.ป.ช. และในชั้นคณะทำงานร่วมระหว่างอัยการสูงสุดและ ป.ป.ช. ในคดีที่กล่าวหาเข้ามาในสำนวนจำนวน 60,000 แผ่น ซึ่งถือเป็นการนำเอกสารนอกสำนวน เข้ามาในสำนวนโดยมิชอบ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook