วู้ดดี้ เปิดใจดราม่า สึกกลางพรรษา..สังคมถามสมควรหรือ !?

หลังจากที่สร้างความแคลงใจให้กับสังคมอยู่นาน กับกรณีสึกกลางพรรษาของพิธีกรหนุ่ม "วู้ดดี้ วุฒิธร มิลินทจินดา" ล่าสุดในวันบันทึกเทปรายการ "ตื่นมาคุย" เจ้าตัวก็ได้ออกมาชี้แจงข้อสงสัยดังกล่าวแล้วว่า สาเหตุที่สามารถสึกออกมาได้นั้นก็เป็นเพราะตนเองไม่ได้ทำการอธิษฐานเข้าพรรษาไว้ตั้งแต่แรก แต่ก็รู้สึกดีใจมากที่เหตุการณ์นี้ทำให้คนไทยหันมาแสดงความเห็นในเรื่องของศาสนามากขึ้น พร้อมย้ำอีกว่าในอนาคตหากมีเวลาตนก็อยากที่จะบวชเรียนทุกปีเพื่อที่จะได้ฝึกสติและเข้าใจตัวเองให้มากยิ่งขึ้น...

ล่าสุดมีประเด็นเรื่องการสึกระหว่างพรรษาของเราออกมา ?
"ครับผม ตอนแรกที่เห็นข่าวผมก็เป็นกังวลนะเพราะคนให้ความสนใจเรื่องนี้เยอะมาก ถึงขนาดเข้าอินเตอร์เน็ตหาข้อมูลเองด้วยว่ามันผิดจริงอย่างที่เขาพูดกันหรือเปล่า จนสุดท้ายผมก็ได้มีโอกาสพูดคุยกับพระอาจารย์ซึ่งท่านก็บอกว่า ถ้าหากผิดท่านก็คงไม่ให้สึกตั้งแต่แรก เพราะเราไม่ได้ปวารณาเข้าพรรษาไว้ ซึ่งกับเหตุการณ์นี้เองเอาจริงๆ ผมก็แอบรู้สึกดีด้วยเหมือนกันนะ เพราะว่ามันได้ช่วยให้หลายๆ คนได้ค้นหาข้อมูลมากขึ้น และเข้าใจตรงกันว่ามันไม่ใช่เรื่องผิดหรืออะไรเลย"

หลังจากนั้นพอเราได้อ่านข้อความที่เขาวิจารณ์มาเรารู้สึกยังไง ?
"โอเคขึ้นมากครับ เพราะเรารู้แล้วไงล่ะว่าเขาไม่รู้ คือคนเราเวลาไม่รู้อะไรมันก็ต้องเกิดการถกเถียงเป็นปกติอยู่แล้ว ซึ่งตรงนี้แหละที่ผมมองว่ามันเป็นเรื่องดีมากๆ เพราะถ้าวันนั้นเขาไม่เถียงกันเราก็คงไม่รู้ว่าข้อเท็จจริงคืออะไร และในที่สุดวันนี้ทุกคนก็รู้แจ้งแล้ว ส่วนเราเองก็สงบลงด้วย"

เพราะอะไรเราถึงเลือกที่จะสึกออกมาไม่บวชให้เต็มพรรษาเลย ?
"เรื่องจริงเลยก็คือผมมีบริษัทที่ต้องดูแล แต่ ณ ตอนนั้นตอนที่ผมบวช ผมกลับเลือกที่จะอยู่เกินโควต้าที่กำหนดไว้เพราะผมรู้สึกว่าชีวิตผมมันเป็นสุขมากจริงๆ แต่ทว่าความสุขของผมคนเดียวมันกลับทำให้คนอื่นๆ เขาทุกข์ตามไปด้วย ง่ายๆ เลยยกตัวอย่างรายการวู้ดดี้ ทีมงานเขาก็ต้องไปหาคนอื่นมาช่วยแทน ไหนจะต้องวุ่นวายเรื่องการจัดตารางใหม่ ซึ่งผมก็ต้องขอโทษทุกคนไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ"

ความรู้สึกของเราตอนนั้นเราตั้งใจว่าจะบวชนานแค่ไหน ?
"ไม่ใช่แค่เดือนหรือสองเดือน ไม่ใช่แค่พรรษา เพราะผมตั้งใจจะยิงยาวเลยไม่บอกใคร แต่เหมือนกับว่าใจผมกับความคิดมันขัดแย้งกัน เพราะใจหนึ่งก็คิดว่านี่คือความสุขของเรา แต่อีกใจก็บอกว่าเรามีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ เหมือนเรามีห่วงหลายอย่างมาก จนในที่สุดก็ตัดสินใจได้ว่ากลับมาตรงนี้ทำให้เต็มที่ก่อนดีกว่าและหลังจากนี้หากมีเวลามากพอเราก็ค่อยกลับไปศึกษาต่อได้"

แสดงว่ามีความคิดที่จะกลับไปบวชอีกเหมือนกัน ?
"ผมคิดว่าทุกพรรษาหลังจากนี้ไปผมก็สามารถบวชได้อีก หรือไม่ก็บวชทุกปี ปีละครั้ง ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะบวชทุกปี แต่จะเป็นช่วงไหนนั้นคงต้องขอดูก่อน"

วันนี้เราได้อะไรบ้างจากการบวช ?
"โล่งขึ้นมากครับ ตื่นเช้ามาเราก็มีความสุขไม่เครียด ทำรายการก็แฮปปี้ไม่หน้าบูดบึ้งเหมือนเมื่อก่อน คือแบบชีวิตเมื่อก่อนเหมือนเรามีสองขั้วแต่ว่าตอนนี้ไม่ใช่แล้ว"

สุดท้ายเราได้เอาธรรมมะมาใช้ในชีวิตยังไงบ้าง ?
"ใช้ครับ ผมพยายามฝึกพยายามนำกลับมาใช้กับตัวเองให้ได้มากที่สุด คือโอเควันนี้เราอาจจะทำได้ไม่ดีมาก แต่เราก็มีสติมากขึ้น และก็จะตั้งใจฝึกต่อไปครับ"