กทม.ลงพื้นที่สำรวจการระบายน้ำท่วมขังรัชดา

รองผู้ว่าฯ ลงพื้นที่สำรวจการระบายท่วมขังถนนรัชดาภิเษก พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่อำนวยความสะดวก หลังฝนตกหนักต่อเนื่อง พร้อมฝากเตือนประชาชนเตรียมรับมือ ในวันที่ 6 ต.ค. นี้ ฝนจะตกหนักอีกครั้ง

นายอมร กิจเชวงกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงการแก้ปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ว่า หม่อมหลวงสุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพมหานคร มีความห่วงใยในการแก้ปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่กรุงเทพมหานคร หลังจากที่มีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บางพื้นมีน้ำท่วมขัง การจราจรติดขัด ทั้งนี้ ได้ให้เจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคอยดูแลและให้ความสะดวกแก่ประชาชนเรียบร้อยแล้ว พร้อมขอความร่วมมือประชาชนให้คอยติดตามข่าวสารจากกรุงเทพมหานครอย่างใกล้ชิด เพื่อความสะดวกในการเดินทางและการรับข้อมูลข่าวสารเพื่อเตรียมความพร้อม

รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ยังกล่าวอีกว่าในวันที่ 6 ตุลาคม นี้ บริเวณพื้นที่กรุงเทพมหานคร จะมีฝนตกหนักอีกครั้ง อีกทั้งฝากเตือนประชาชนเตรียมความพร้อมในการรับมือและดูแลตนเอง

ทั้งนี้ นายอมร กล่าวขณะลงพื้นที่สำรวจการระบายท่วมขังถนนรัชดาภิเษก ว่า เป็น 1 ในจุดอ่อนจากทั้งหมด 21 จุด ของพื้นที่กรุงเทพมหานนคร จากเดิมปี 2557 มีจุดอ่อนทั้งหมด 24 จุด ทางกรุงเทพมหานครสามารถแก้ได้เหลือ 16 จุด ซึ่งในปี 2558 นี้เพิ่มมาอีก 5 จุด รวมพื้นที่เสี่ยงทั้งหมด 21 จุด โดยบริเวณพื้นที่รัชดาฯ นั้น หากมีปริมาณฝนตกลงมา 60 มิลลิเมตร น้ำสามารถระบายได้ภายใน 1 ถึง 2 ชั่วโมง แต่จากเมื่อคืน ( 2 ตุลาคม 2558 ) ที่ผ่านมาฝนตกมาปริมาณ 108 มิลลิเมตร ส่งผลให้การระบายน้ำอาจล่าช้า แต่ยังสามารถระบายได้โดยใช้เวลา 2 ถึง 5 ชั่วโมง ทั้งนี้ทางกรุงเทพมหานครได้นำเครื่องสูบน้ำขนาด 24 นิ้ว 2 ตัว, ขนาด 10 นิ้ว 2 ตัว โดยมีความสามารถสูบน้ำจากบริเวณถนนรัชดาภิเษก ลาดพร้าว ได้มากกว่า 1 ลูกบาศเมตรต่อวินาที 

พร้อมกันนี้ อยู่ในระหว่างการสร้างอุโมงค์บางซื่อ ซึ่งคาดว่าจะสามารถช่วยแก้ปัญหาเรื่องน้ำท่วมขังได้ในอนาคต แต่หากยังไม่สามารถแก้ไขได้หมดนั้นจะดำเนินการต่อท่อลอด เพื่อนำน้ำส่งไปยังคลองบางแก้วต่อไป ยืนยัน ทางกรุงเทพมหานครจะดำเนินการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมอย่างเต็มที่ 

อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 6 ตุลาคมนี้ จะมีฝนตกหนักอีกครั้ง เนื่องจากได้รับอิทธิพลพายุโซนร้อน มูจีแก และอาจมีลมพายุขอเตือนประชาชนอย่ายืนใต้ต้นไม้และป้ายโฆษณา โดยหากไม่มีความจำเป็นขอให้อาศัยอยู่ภายในบ้าน แต่หากมีความจำเป็นในการเดินทาง ขอให้หลีกเลี่ยงเส้นทางที่เป็นจุดอ่อนทั้งหมด 21 จุด ของกรุงเทพมหานคร และคอยติดตามข่าวสารจากช่องทางต่างๆ อย่างต่อเนื่อง

 

กทม.เร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มหลังฝนตกหนัก

นายอมร กิจเชวงกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประชุมสำนักการระบายน้ำ สรุปสถานการณ์ฝนตก เมื่อวันที่ 2 ต.ค.58 ต่อเนื่องจนถึงช่วงเช้าของวันนี้ (3 ต.ค.) พร้อมทั้งซักซ้อมแผนรับมือฝนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งคาดการณ์ว่าจะมีฝนตกต่อเนื่องช่วงวันที่ 4 - 6 ต.ค.58 ว่า จากวานนี้ (2 ต.ค.) ปริมาณฝนตกหนักสูงสุด 108 มิลลิเมตร ทำให้หลายพื้นที่ของกรุงเทพมหานครประสบภาวะน้ำท่วมขังสูง ถนนรัชดาภิเษก อีกทั้งมีรถจอดเสียจากน้ำเข้าเครื่องยนต์ ส่งผลให้การจราจรติดขัด กทม. ได้ระดมเจ้าหน้าที่และติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติม ขนาด 24 นิ้ว 2 ตัว และขนาด 10 นิ้ว 2 ตัว พร้อมเดินเครื่องเต็มกำลังเพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่บรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ทั้งนี้ ในช่วงที่มีฝนตกหนัก ซึ่ง กทม. ขอให้ประชาชนติดตามรายงานสถานการณ์ฝนและสภาพการจราจรจากสื่อมวลชน ซึ่ง กทม. จะแจ้งข้อมูลในแต่ละพื้นที่เป็นระยะเพื่อหลีกเลี่ยงการเดินทางในเส้นทางที่อาจเกิดน้ำท่วมขังสูง ถนนบางแห่งมีสภาพเป็นแอ่ง เนื่องจากเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ อีกทั้งบางแห่งเป็นจุดอ่อนน้ำท่วม หากฝนตกไม่เกิน 60 มิลลิเมตร จะใช้เวลาในการสูบเพื่อระบายน้ำจากพื้นที่ 2 - 3 ชั่วโมง แต่หากมากกว่า 60 มิลลิเมตร จะต้องใช้เวลาเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ กทม. กำลังก่อสร้างโครงการอุโมงค์ระบายน้ำคลองบางซื่อ เมื่อแล้วเสร็จจะช่วยแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังบริเวณถนนรัชดาภิเษกได้ต่อไป

และในวันนี้ นายอมร ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบถนน เครื่องสูบน้ำ และความพร้อมรับมือฝนบนถนนรัชดาภิเษก บริเวณข้างศาลอาญา พร้อมทั้งกล่าวว่า หากยังเกิดปัญหาน้ำท่วมขังบริเวณถนนรัชดาภิเษกต่อเนื่องอาจต้องเสริมท่อลอดขนาดใหญ่ชั่วคราวขนาด 2 เมตร ข้ามฝั่งถนน เพื่อเร่งส่งน้ำลงสู่คลองรับน้ำใกล้เคียง เตือนประชาชนระมัดระวังในการเดินทางในช่วงที่มีฝนตกและลมกระโชกแรง อย่าหลบฝนใต้ต้นไม้ เนื่องจากอาจเกิดต้นไม้หักโค่นได้