บล็อกรีเฟรชไร้ผล! เมื่อคืนพลเมืองต้าน Single Gateway ถล่มเว็บไซต์รัฐบาลอีก

บล็อกรีเฟรชไร้ผล! เมื่อคืนพลเมืองต้าน Single Gateway ถล่มเว็บไซต์รัฐบาลอีก

บล็อกรีเฟรชไร้ผล! เมื่อคืนพลเมืองต้าน Single Gateway ถล่มเว็บไซต์รัฐบาลอีก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ดูเหมือนว่าความพยายามของรัฐบาลในการบล็อกรีเฟรช เพื่อป้องกันการถูกโจมตีจากผู้ใช้อินเตอร์เน็ตจะไม่ได้ผล หลังเมื่อคืนที่ผ่านมา กลุ่มพลเมืองต่อต้าน Single Gateway รวมตัวกันถล่มเว็บไซต์รัฐบาลอีกรอบ

เมื่อคืนวานนี้ (5 ต.ค.) มีความเคลื่อนไหวของ กลุ่มพลเมืองต่อต้าน Single Gateway ที่ออกประกาศ การส่งเสียงเตือนไปยังรัฐบาลอีกครั้ง โดยระบุว่า จากท่าทีของทางรัฐบาล หลังจากที่ทางประชาชนจำนวนหลายแสนคนคัดค้าน นโยบาย Single Gateway ในสัปดาห์ที่ผ่านมา และทางกลุ่มมีแถลงการณ์กำหนดเส้นตายเอาไว้ในวันที่ 14 ต.ค. 58

แต่ทางรัฐบาลยังคงไม่เปลี่ยนแปลงท่าทีใดๆ ทางกลุ่มพลเมืองต่อต้าน Single Gateway จึงจำเป็นต้องส่งเสียงเตือนไปยังรัฐบาลอีกครั้งหนึ่ง โดยการกระทำเมื่อคืนที่ผ่านมา เวลา 22.00 น. วันที่ 5 ต.ค. ถึง เวลา 12.00 น. ในวันที่ 6 ต.ค. ประกาศ ณ วันที่ 5 ต.ค.โดยพิกัดที่กำหนด คือ 1.สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี 2.เซิร์ฟเวอร์กระทรวงไอซีที 3.เซิร์ฟเวอร์เมล์ของสำนักนายกฯ 4.ระบบสารบรรณอิเล็กทรอนิกส์ กระทรวงมหาดไทย 5.ศูนย์ปฏิบัติการไซเปอร์กองทัพบก 6.เซิร์ฟเวอร์กองทัพบก

ในเวลาประมาณ 01.00 น. ที่ผ่านมา กลุ่มดังกล่าวได้ประกาศ ยุติการเคลื่อนไหว โดยขอพักรบชั่วคราวเพื่อจัดทัพเเละเตรียมอาวุธใหม่ เนื่องด้วยหลายหน่วยงานได้ปิดพอร์ตหนีแล้ว หลายหน่วยงานคงกู้เซิร์ฟเวอร์กันอยู่ บางหน่วยงานย้าย IP หนี โดยเว็บไซต์เป้าหมายส่วนใหญ่ได้ล่มลงในเวลาที่ต้องการ อีกทั้งยังขู่อีกว่า หากรัฐยังดึงดัน เราจะใช้อาวุธหนักขึ้นในครั้งต่อไป รอฟังแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ ถึงท่าทีต่างๆ ในคืนวันนี้ เวลา 22.00 น.

ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลยังไม่ได้ดำเนินการอะไรเลย ยังไม่ได้ใช้งบประมาณสักบาทเดียว ขอให้สบายใจได้ ส่วนคนที่จะเคลื่อนไหวนั้นคงห้ามไม่ได้ หากเขาจะเคลื่อนไหว เชื่อว่าคงไม่มีอะไร เพราะเป็นปกติของคนที่ไม่เข้าใจ

ด้าน พลตรีฤทธี อินทราวุธ ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีกองทัพบก เรียกร้องให้ยุติการถล่มเว็บไซต์ ขณะนี้กองทัพบกรับรู้ปฏิกิริยาต่อต้านเชิงสัญลักษณ์เรียบร้อยแล้ว ขอให้ประชาชนอย่าตกเป็นเครื่องมือสร้างกระแสกดดันรัฐบาลอีก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook