มติครม.ให้หยุดยาวปีหน้า5-8พ.ค.,16-20ก.ค.

กอบกาญจน์ เผย ครม. อนุมัติหยุดยาว 5 วัน 2 รอบ 5 - 8 พ.ค. และ 16 - 20 พ.ค. เพื่อกระตุ้นท่องเที่ยวภายในประเทศ พร้อมเห็นชอบสร้างสนามบินเบตง คาดใช้งบประมาณประมาณ 1,900 ล้านบาท

นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบอนุมัติวันหยุดช่วงเทศกาลประจำปี 2559 เพิ่มเติม ในวันที่ 6 พฤษภาคม เนื่องจากเป็นช่วงวันหยุดวันฉัตรมงคล ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 5 - 8 พฤษภาคม และยังเห็นชอบให้วันจันทร์ที่ 18 กรกฎาคม เป็นวันหยุดเพิ่มเติม เนื่องจากวันอังคารที่ 19 กรกฎาคม เป็นวันอาสาฬหบูชา และวันพุธที่ 20 กรกฎาคม เป็นวันเข้าพรรษา ทำให้เป็นวันหยุดยาวต่อเนื่อง 5 วัน เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวไทยในช่วงโลว์ซีซั่น เพราะรายได้ของประเทศส่วนใหญ่กว่า 7 - 8 แสนล้าน มาจากการเที่ยวภายในประเทศ 

นอกจากนี้ ที่ประชุม ครม. ยังได้อนุมัติการก่อสร้างสนามบินเบตง จังหวัดยะลา ซึ่งคาดว่าจะมีการใช้งบประมาณก่อสร้างประมาณ 1,900 ล้านบาท เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวของประเทศอีกด้วย

ครม.ไฟเขียวเว้นภาษีรายได้ลงทุนกอช.

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ ว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในส่วนของกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) หากมีการนำเงินสมาชิกไประดมทุนทำธุรกิจแล้วได้รับผลตอบแทน ไม่ต้องนำมาเสียภาษี ซึ่งเรื่องดังกล่าวนั้นเพื่อเป็นการนำเงินคืนสู่ผู้มีรายได้น้อยอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีมติอนุมัติในส่วนของการยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับกลุ่มบุคคลที่มีการรวมตัวกัน และได้รับรายได้จากมรดกที่มีการหักภาษีไปแล้วไม่ต้องนำมาคำนวณภาษีเงินได้บุคคล เนื่องจากไม่ได้เป็นการทำธุรกิจเพื่อให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์และผลตอบแทนดังกล่าว ซึ่งจะแตกต่างจากการเก็บภาษีของคณะบุคคลที่ร่วมกันทำธุรกิจ

ครม.ไฟเขียวงบ1.4ล.พัฒนาสถาบันการเงิน

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ ว่า ที่ประชุมมีมติอนุมัติให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน จัดวงเงิน 14,000 ล้านบาท เพื่อใช้ชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยในต้นปี 2559 หลังสถานกองทุนมีรายได้เพิ่มขึ้น ขณะที่ยอดหนี้คงเหลือยังคงมีอยู่ดีกว่า 984,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังอนุมัติตามที่กระทรวงอุตสาหกรรม เสนอในการกำหนดขอบเขต การจัดตั้งโรงงานที่มีวัตถุดิบจากอ้อย จากเดิมที่ให้ตั้งห่างกันโรงงานละไม่ต่กว่า 50 กิโลเมตร เป็นไม่เกิน 30 กิโลเมตร แต่จะต้องมีการใช้ประมาณอ้อยไม่เกินวันละ 300 ตัน เพื่อส่งเสริมเกษตรกรหลังรัฐบาลกำหนดให้อ้อยเป็นพืชยุทธศาสตร์