สปท.ทยอยรายงานตัววันที่2- สุชน ลาออก พท. แล้ว

สมาชิก สปท. ทยอยรายงานตัววันที่ 2 'สุชน' เข้ารายงานตัวแล้ว หลังยื่นลาออกจากเพื่อไทย ชี้ ปรองดองสำคัญต่อการเดินหน้าปฏิรูปประเทศ

บรรยากาศการรับรายงานตัวสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ หรือ สปท. วันที่สอง ล่าสุด ขณะนี้มีสมาชิกทยอยเข้ามารายงานตัวแล้ว 37 คน ซึ่งรวมทั้งหมด 101  คน ทั้งนี้ นายสุชน ชาลีเครือ อดีตประธานวุฒิสภา มารายงานตัวลำดับที่ 24 ซึ่งได้ยื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย แล้ว พร้อมระบุว่า ยินดีที่จะสานงานด้านการปรองดองตามแนวทางของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เพราะเห็นว่า การปรองดองสมานฉันท์เป็นเรื่องที่สำคัญ ที่ทุกคนต้องช่วยกัน เพราะไม่เช่นนั้นการปฏิรูปจะเดินหน้าต่อไปไม่ได้ ส่วนการนิรโทษกรรม ก็น่าจะเป็นแนวทางหนึ่งที่จะสานงานต่อจากคณะกรรมการศึกษาแนวการสร้างความปรองดองของ สปช. พร้อมมองว่า ความหลากหลายของสมาชิก สปท. เป็นเรื่องที่ดี ซึ่งแต่ละคนนั้น มีความรู้ความสามารถในการนำมาพัฒนาประเทศได้

นอกจากนี้ นายสุชน ยืนยันว่า ยังไม่ได้คุยกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในการมารับตำแหน่ง แต่ได้คุยเรื่องการปรองดอง

สปท.ทยอยรายงานตัวเพิ่มแล้ว23คน

การรับรายงานตัวสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ หรือ สปท. วันที่ 2 ที่ ห้องโถง อาคารรัฐสภา 1 ล่าสุด
ขณะนี้มีสมาชิกทยอยเข้ามารายงานตัวแล้ว 23 คน ซึ่งรวมทั้งหมด 87 คน อาทิ นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม, นางถวิลวดี บุรีกุล อดีตกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ, พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, นายปรีชา บุตรศรี อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.), พล.ต.ท.ธีรจิตร์ อุตมะ อดีตผู้บัญชาการประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ, พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ เกยานนท์ อดีตผู้บัญชาการทหารเรือ, พล.ร.อ.สุรินทร์ เริงอารมณ์ อดีตรองผู้บัญชาการทหารสูงสุด, นายวิรัช ชินวินิจกุล รองประธานศาลฎีกา และ นายคำนูณ สิทธิสมาน อดีตกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ

อย่างไรก็ตาม สำนักงานเลขาธิการแทนราษฎร จะเปิดให้ สมาชิก สปท. รายงานตัวได้ตามเวลาราชการ

คำนูณยินดีรับใช้ปท.เตรียมเดินหน้าปฏิรูป

บรรยากาศการรายตัวของ สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ หรือ สปท. ล่าสุด นายคำนูณ สิทธิสมาน อดีตกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ และอดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ เข้าแสดงตนแล้ว โดยกล่าวว่า รู้สึกยินดีที่ได้เข้ามารับใช้ประเทศในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของประเทศ ซึ่งหน้าที่ของ สปท. เป็นการสืบทอดงานจาก สปช. โดยไม่ต้องเริ่มต้นใหม่ เพียงนำแผนแม่บทของ สปช. มาพิจารณา เสนอเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรีดำเนินการให้เห็นผลเป็นรูปธรรม ซึ่งใน สปท. มีอดีตสมาชิก สปช. เข้าร่วมถึง 61 คน จึงเชื่อว่าไม่มีปัญหา ส่วนจะเริ่มดำเนินการเรื่องใดเป็นอันดับแรกนั้นขึ้นอยู่ที่ดุลยพินิจของประธาน และรองประธาน สปท. โดยคาดว่า ภายหลังจากมีการคัดตำแหน่งสำคัญของสภาครบแล้ว ไม่เกิน 30 วัน จะสามารถเริ่มพิจารณาเรื่องการปฏิรูปประเทศได้ทันที แต่สิ่งสำคัญ คือ การทำงานจะต้องสอดประสานไปกับคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)

ส่วนกรณีของพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมที่ตัวแทนพรรคการเมือง เสนอว่า เป็นหนึ่งในหน้าที่ของ สปท. ที่ต้องดำเนินการนั้น นายคำนูณ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ สปช. มีการศึกษาเรื่องดังกล่าวไว้แล้ว ซึ่ง สปท. มีหน้าที่การปฏิรูปประเทศ ซึ่งส่วนตัวมองว่า การปฏิรูปประเทศ การสร้างความปรองดองและการนิรโทษกรรมเป็นเรื่องเดียวกันไม่สามารถแบ่งแยกได้