สนง.ทรัพย์สินฯชี้แจงปมผู้ค้าตลาดเฉลิมลาภประท้วง

สนง.ทรัพย์สินฯชี้แจงปมผู้ค้าตลาดเฉลิมลาภประท้วง

สนง.ทรัพย์สินฯชี้แจงปมผู้ค้าตลาดเฉลิมลาภประท้วง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ชี้แจง กรณีผู้ค้าตลาดเฉลิมลาภ ประท้วงถูกไล่ที่ ยันพร้อมเจรจาผู้เช่าที่ไม่เข้าใจ ยึดหลักกฎหมาย

จากกรณีกลุ่มผู้ค้าตลาดเฉลิมลาภ นับ 300 คน ได้รวมตัวปิดถนน บริเวณแยกประตูน้ำ ประท้วงกรณีกรณีสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ขอเวนคืนที่ดิน ในช่วงเย็นของวันพุธที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมา  โดยกลุ่มผู้ชุมนุมได้ปิดถนนทั้ง 2 ฝั่ง ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหาร ได้ไปเจรจาขอพื้นที่การจราจร 

ทั้งนี้ ทางสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ได้ออกเอกสารชี้แจงถึงข้อเท็จจริง  โดยระบุว่า สภาพอาคารบางส่วนเริ่มทรุดโทรมและต่อเติมโดยไม่ถูกต้อง อาจก่ออันตรายกับผู้อยู่อาศัย ในด้านการขอพัฒนาด้วยตนเองของกลุ่มผู้เช่าเดิม สำนักงานทรัพย์สินฯ ได้ให้โอกาสผู้เช่าเดิมเสนอแผนการพัฒนาตนเอง แต่ข้อเสนอของผู้เช่าเมื่อพิจารณาแล้วไม่อาจเทียบได้กับข้อเสนอของนักพัฒนามืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญกว่า สำนักงานทรัพย์สินฯ จึงปฏิเสธข้อเสนอการขอพัฒนาของกลุ่มผู้เช่าเดิม โดยสำนักงานทรัพย์สินฯ พยายามประนีประนอมอย่างที่สุด ยืนยันว่าได้ให้การดูแลผู้เช่าเดิมที่ให้ความร่วมมืออย่างดีที่สุด

สำหรับผู้เช่าที่ยังคงไม่ชัดเจนกับแนวทางการพัฒนาพื้นที่ดังกล่าว สำนักงานทรัพย์สินฯพร้อมที่จะเจรจารวมไปถึงการร่วมแก้ไขปัญหาด้วยกระบวนการที่เป็นธรรมและเหมาะสมเพื่อประโยชน์ของสังคมโดยรวม



ฉบับเต็ม

เอกสารชี้แจงข้อเท็จจริง โครงการพัฒนาพื้นที่บริเวณตลาดเฉลิมลาภ

สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ชี้แจงข้อเท็จจริง โครงการพัฒนาพื้นที่บริเวณตลาดเฉลิมลาภ โดยสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ขออภัยประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อนด้านการจราจร จากกรณีการประท้วงของกลุ่มผู้ค้าตลาดเฉลิมลาภ เมื่อวันพุธที่ 7 ตุลาคม 2558 โดยกลุ่มผู้ค้าตลาดเฉลิมลาภ อ้างเหตุผลว่าได้รับความเดือดร้อนจากการขับไล่ โดยสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ และต้องการให้สำนักงานทรัพย์สินฯ ยุติการบังคับคดีตามที่ศาลมีคำพิพากษาไว้ สำนักงานทรัพย์สินฯ จึงขอชี้แจงข้อเท็จจริง รวมทั้งการดูแลผู้เช่า โดยมีข้อมูลดังนี้

"ตลาดเฉลิมลาภ" ซึ่งตั้งอยู่มุมถนนเพชรบุรีและถนนราชปรารภ เนื้อที่ประมาณ 7 ไร่เศษ ประกอบด้วยสิ่งปลูกสร้างที่มีอายุใช้งานนานมากกว่า 40 ปี สภาพของอาคารทรุดโทรม บางส่วนถูกต่อเติมอย่างไม่ถูกต้องตามระเบียบบังคับของหน่วยราชการ สร้างปัญหาด้านสุขลักษณะที่ต่ำกว่ามาตรฐาน ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้อยู่อาศัยและบุคคลทั่วไป ทางสำนักงานทรัพย์สินฯ จึงมีความจำเป็นต้องพัฒนาพื้นที่ดังกล่าว ด้วยความตระหนักถึงผลกระทบที่จะมีต่อผู้เช่าเดิม สำนักงานทรัพย์สินฯ ได้กำหนดแนวทางความช่วยเหลือในด้านต่างๆ เพื่อให้ผู้เช่าเดิมได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ทั้งในด้านเงินช่วยเหลือ รวมทั้งสิทธิพิเศษในการกลับมาเช่าใหม่หลังการพัฒนา และระหว่างการพัฒนาพื้นที่ก็ได้จัดพื้นที่เพื่อรองรับการค้าขายและอยู่อาศัยโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งผู้เช่าเดิมส่วนใหญ่มีความเข้าใจถึงความจำเป็นในการพัฒนาและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

ในด้านการขอพัฒนาด้วยตนเองของกลุ่มผู้เช่าเดิม สำนักงานทรัพย์สินฯ ได้ให้โอกาสผู้เช่าเดิมเสนอแผนการพัฒนาตนเองแต่ด้วยลักษณะของพื้นที่ ซึ่งเป็นการพัฒนาพื้นที่ขนาดใหญ่ ผู้พัฒนาจำเป็นต้องมีสถานะทางการเงินที่ชัดเจนมีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ด้านการพัฒนาโครงการขนาดใหญ่แต่มีข้อเสนอของผู้เช่า เมื่อพิจารณาแล้วไม่อาจเทียบได้กับข้อเสนอของนักพัฒนามืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญกว่า สำนักทรัพย์สินฯ จึงปฏิเสธข้อเสนอการขอพัฒนาของผู้เช่าเดิม

สำนักงานทรัพย์สินฯ ยืนยันว่าได้ให้การดูแล ผู้เช่าเดิมที่ให้ความร่วมมืออย่างดีที่สุด ส่วนผู้เช่าเดิมที่ไม่พอใจในข้อเสนอ สำนักงานทรัพย์สินก็ได้พยายามอย่างประนีประนอมอย่างที่สุด และเมื่อไม่อาจตกลงกันได้จึงจำเป็นต้องดำเนินการผ่านกระบวนการยุติธรรมทางกฎหมาย เพื่อสร้างความเป็นธรรมต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง จึงสร้างความไม่พอใจให้กับผู้เช่าเดิมบางส่วนจนใช้วิธีประท้วงและปิดถนนพร้อมกันนี้ อย่างไรก็ดี สำนักงานทรัพย์สินฯ ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทหารและเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อาสาเป็นหน่วยประสานเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องกับทุกฝ่าย สำหรับผู้เช่าที่ยังคงไม่ชัดเจนกับแนวทางการพัฒนาพื้นที่ดังกล่าว สำนักงานทรัพย์สินฯ พร้อมที่จะเจรจา รวมไปถึงแก้ไขปัญหาด้วยกระบวนการที่เป็นธรรมและเหมาะสมเพื่อประโยชน์ของสังคมโดยรวม


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook