"มิตร มิตรชัย" โร่ร้องตร. ขอความเป็นธรรม ถูกบังคับเซ็นสัญญารับสภาพหนี้ 35 ล้านบาท

"มิตร มิตรชัย" โร่ร้องตร. ขอความเป็นธรรม ถูกบังคับเซ็นสัญญารับสภาพหนี้ 35 ล้านบาท

"มิตร มิตรชัย" โร่ร้องตร. ขอความเป็นธรรม ถูกบังคับเซ็นสัญญารับสภาพหนี้ 35 ล้านบาท
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(9 ต.ค.) นายคีรีรัก สมณะบารมี หรือ มิตร มิตรชัย อายุ 21 ปี น้องชายแอน มิตรชัย พร้อมนายทวิชา หวังโภคา ทนายความ เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อพลตำรวจโทประวุฒิ ถาวรศิริ รักษาราชการแทนที่ปรึกษาสัญญาบัตร 10 และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอความเป็นธรรมในกรณีที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยศระดับพันตำรวจเอกนายหนึ่งบังคับให้เซ็นสัญญารับสภาพการเป็นหนี้จำนวน 35 ล้านบาท

สืบเนื่องจากที่ก่อนหน้านี้ นายมิตร มิตรชัย ได้คบหาดูใจกับสาวใหญ่คนหนึ่งซึ่งทราบภายหลังว่าเป็นหญิงคนสนิทของนายตำรวจท่านหนึ่ง จึงพยายามตีตัวออกห่าง แต่เมื่อนายตำรวจคนดังกล่าวทราบเรื่องจึงเกิดความไม่พอใจและนัดหมายให้ตนไปพบเพื่อเคลียร์ปัญหาที่ร้านอาหารย่านซอยวิภาวดี 62 แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา แต่ระหว่างการเจรจา นายตำรวจรายนี้กลับพูดจาข่มขู่ต่างๆ นานา และห้ามไม่ให้ตนยุ่งเกี่ยวกับสาวใหญ่รายนี้อีก

นอกจากนี้ยังขู่บังคับให้เซ็นยอมรับสภาพหนี้ก้อนโตถึง 35 ล้านบาท หากไม่ยินยอมจะเปิดโปงความสัมพันธ์อื้อฉาวของตน รวมทั้งขู่ว่าจะส่งคนไปทำร้ายบุคคลในครอบครัวด้วย ทำให้ตนรู้สึกหวาดกลัวและจำยอมเซ็นรับสภาพหนี้ดังกล่าวเพื่อความปลอดภัยของตนและคนในครอบครัว

นายคีรีรักกล่าวว่า เหตุที่มายื่นหนังสือที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อต้องการเรียกร้องขอความเป็นธรรม เนื่องจากรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมในกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการบังคับให้เซ็นสัญญารับสภาพการเป็นหนี้

ส่วนกรณีรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้าเวลไฟร์ คันที่ แอน มิตรชัย พี่สาวของตนนำไปใช้งานแล้วถูกตำรวจเข้าตรวจยึดเมื่อวันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมาไว้ เป็นรถที่ตนได้รับมาจากสาวใหญ่เพื่อนสาวคนสนิทของนายตำรวจคู่กรณี ซึ่งไม่ทราบมาก่อนว่าเป็นรถหลบเลี่ยงภาษีและตนยืนยันว่า นางสาวรัญชิตา หรือ ปุ้ย อดีตแฟนสาว เป็นผู้นำรถมาให้ใช้จริง

และต้องการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบว่าใครเป็นเจ้าของรถที่แท้จริง ซึ่งในวันเกิดเหตุตนก็อยู่ในรถคันดังกล่าวด้วย จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการออกมาชี้แจงรายละเอียดว่าทำไมถึงยึดรถไป ซึ่งในวันพรุ่งนี้ตนจะมีการแถลงข่าวเพื่อชี้แจงต่อสื่อมวลชนอีกครั้ง

ด้านนายทวิชา ทนายความ เปิดเผยถึงกรณีที่มีเจ้าหน้าที่ทหารนายหนึ่งเข้ามาช่วยไกล่เกลี่ยเจราจาเรื่องดังกล่าว เนื่องจากต้องการให้เรื่องยุติลงด้วยดี ซึ่งจะขอเปิดเผยรายละเอียดถึงนายทหารคนดังกล่าวภายหลัง

ทั้งนี้ พลตำรวจโทประวุฒิ ระบุว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย แต่ต้องขอเวลาในการตรวจสอบรายละเอียดของหลักฐานก่อน และจะนำเรียนให้กับพลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติรับทราบและสั่งการว่าจะให้เจ้าหน้าที่หน่วยใดเป็นผู้รับผิดชอบคดีกล่าว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook