หนุ่มโพสต์โวย ตร.ตั้งด่านจ๊ะเอ๋ ทำหลานสาวรถล้มหน้าแหก

หนุ่มโพสต์โวย ตร.ตั้งด่านจ๊ะเอ๋ ทำหลานสาวรถล้มหน้าแหก

หนุ่มโพสต์โวย ตร.ตั้งด่านจ๊ะเอ๋ ทำหลานสาวรถล้มหน้าแหก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(10 ต.ค.) ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพและข้อความจาก เฟซบุ๊กTechnician Dee ซึ่งเปิดเผยว่า หลานสาววัย 15 ปี ได้รับบาดเจ็บบนใบหน้าอย่างหนัก หลังถูกตำรวจ สน.บางนา 2 นาย เรียกให้จอด 

แต่ขณะนั้นเวลา 02.00 น. หลานสาวซึ่งมีเพื่อนผู้หญิงซ้อนท้ายรถจยย.กลับบ้าน ไม่ทราบว่าเป็นด่านตรวจ เพราะไม่มีสัญญาณบ่งบอกอะไรทั้งสิ้น จึงพยายามเร่งเครื่องหลบ และถูกขัดขวางจนรถจยย.ล้มได้รับบาดเจ็บ นอกจากนี้ ตำรวจใช้เวลากว่า 7 ชั่วโมง กว่าจะแจ้งให้ญาติทราบ  โดยข้อความทั้งหมดมีดังนี้ 

"ก่อนอื่นขอบอกไว้ก่อนว่าเรื่องนี้ อาจจะพาดพิงไปถึง พี่ น้อง เพื่อน ที่มีอาชีพเป็น"ตำรวจ"//*ผมขอให้มองเรื่องนี้เป็นการกระทำรายบุคคลนะครับ*// อย่าเหมาเป็นภาพรวม ของคนทำงานในสายอาชีพนี้ ทั้งหมด

ภาพที่ทุกคนเห็นคือ "หลานสาวผมเอง" อายุ 15 ปี สภาพที่เห็นคือผลของการปฏิบัติงานของ "ตำรวจบางนายของ สน.บางนา" เหตเกิดเมื่อ 8/10/58 หรือเมื่อคืนที่ผ่านมาตอน ตี 2 กว่า โดยประมาณ เหตุการณ์ที่ทราบมาคร่าวๆ คือ หลานผมขับมอไซค์กำลังกลับมาบ้าน โดยมีเพื่อนซ้อนท้ายมาด้วยหนึ่งคนเป็นเด็กผู้หญิงเหมือนกัน เส้นทางกลับบ้านเป็นทางเปลี่ยวและเป็นยามวิกาลตามเวลาที่เกิดเหตุ

หลานผมขับมาตามทางปกติ แล้วอยู่ๆ ก็มี ผู้ชายสองคนวิ่งจากข้างทางมุ่งหน้ามาหาหลานผมซึ่งขี่มอไซค์อยู่ ผู้ชายทั้งสองคนตะโกนบอกให้จอด หลานผมตกใจเพราะไม่รู้ว่าใคร เลยพยายามเร่งเครื่องหลบ และหนึ่งในนั้นได้เขวี้ยงกรวยยางสีส้ม มาใส่รถมอไซค์ที่หลานผมขับอยู่จนเสียหลัก แล้วตำรวจอีกคนก็ยื่นเหล็กกันทาง แบบที่เรารู้จักกันดี ด้วยความตั้งใจ จนทำให้เกิดเหตุชนเข้ากับราวเหล็กกั้นทางที่ตั้งใจยื่นออกมาขวาง พอรถล้มลงจนถึงรู้ว่าเคยเป็นด่านแต่ด่านนั้นได้เก็บไปแล้ว

"ซึ่งด่านตอนนั้น ไม่มีไฟ ไม่มีการวางกรวยยางสะท้อนแสง ไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้า เพราะเวลานั้นคือเวลาเลิกด่านแล้ว จึงไม่สามารถรู้ได้ว่าคือด่านตรวจหรือเคยเป็นด่านตรวจ" สภาพเลยออกมาอย่างที่เห็น อาการบาดเจ็บผมไม่ขออธิบายนะครับดูกันเองน่าจะพอเดาได้ หลังเกิดเหตุทางตำรวจที่ก่อเหตุ ไม่ได้นำตัวส่งโรงพยาบาลหรือแจ้งให้ญาติทราบทันที แต่เป็นอาสาที่อยู่ในเหตการณ์นำตัวส่งโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้โดยเรียกรถมูลนิธินำส่ง แล้วก็ทำเรื่องย้ายอีกโรงพยาบาลนึงไปอีกโรงพยาบาลนึง โดยที่ตอนนั้นก็ยังไม่มีการแจ้งทางบ้านเด็กให้รับรู้

จนกระทั่งเวลา 09.00 น. โดยประมาณ ถึงได้แจ้งให้ทางบ้านเด็กว่าเกิดอุบัติเหตุกับเด็ก แล้วทางแม่เด็กคือพี่สาวผมก็โทรมา แล้วสักพักตำรวจก็โทรมา สรุปเวลาเกิดเหตุจนกระทั่งถึงเวลาโทรแจ้งทางบ้านเด็กใช้เวลา 7 ชั่วโมงโดยประมาณถึงจะแจ้งญาติ แล้วพอผมไปถึงโรงพยาบาลมีแค่แม่ของเพื่อนหลานที่อยู่คนเดียว คุณคิดว่าเหตุการณ์ทั้งหมดมันสมเหตุสมผลกับการการกระทำทั้งหมดแล้วหรือ สิ่งที่ผมติดใจมีหลายประเด็นหลักๆ ตามนี้

1.หลานผมขับมาตามทางเปลี่ยวแล้วมีคนกระโดดเข้าใส่ ผมว่าเป็นใครก็ต้องเอาตัวรอดก่อน

2.ด่านได้มีการเก็บแล้ว เลยไม่มีสิ่งที่บอกล่วงหน้าว่าเคยมีหรือเคยเป็นด่าน

3.หลานผมไม่ได้ใส่หมวก ซึ่งน่าจะดูออกว่าเป็น "เด็กผู้หญิง" ขี่มอไซค์มา

4.การกระทำที่เกิดขึ้นเหมาะสมแล้วหรือกับการกระทำแบบนั้น ทั้งที่ก็ดูออกว่าเป็น "เด็กผู้หญิงขี่มอไซค์มาตามทางเปลี่ยว"

5.หลังเกิดเหตได้นำตัวส่งโรงพยาบาลกันเอง โดยที่ไม่มีการโทรแจ้งทางบ้านผู้บาดเจ็บทันที ทำถูกต้องแล้วหรือ

6.ทำเรื่องย้ายผู้ป่วยจากโรงพยาบาลนึงไปอีกโรงพยาบาลนึง โดยที่ญาติไม่รับรู้หรือยินยอม ทำถูกแล้วหรือ

7.กว่าที่ทางตำรวจจะแจ้งญาติใช้เวลา 7 ชั่วโมง ถ้าระหว่างนั้นเกิดตายขึ้นมาใครรับผิดชอบ เพราะจากอาการที่ผมรู้มีความเสี่ยงตั้งแต่ชน จนกระทั่งมาถึงโรงพยาบาลที่สอง มันมีความเสี่ยงสูงที่จะตาย

8.ตำรวจบอกว่าทางตำรวจไม่ติดใจเอาความอะไร นั้นคือประเด็นที่เราต้องคุยกันก่อนชีวิตเด็กหรือ

9.ตำรวจบอกมันคือด่านสกัดจับรถซิ่ง แต่รถคันที่เด็กขี่ตอนเกิดเหตุคือ เวฟเดิมๆ ออกศูนย์ไม่มีการดัดแปลงอะไรทั้งสิ้น และเด็กก็ขี่มาแค่สองคนคันเดียว

บอกเลยครับเรื่องนี้จบยากทั้งการกระทำทั้งหมด ผมว่ามันไม่สมเหตุสมผลและไม่สมควรในหลายๆ ประเด็นและเบื้องต้นผมสืบทราบมาว่าคนที่ก่อเหต "เป็นอาสา. ไม่ใช่ตำรวจ" อันนี้จริงไม่จริงยังไม่แน่ชัด แต่อาการเด็กตอนนี้ก็หนักเอาเรื่อง ตอนนี้ย้ายโรงพยาบาลที่สามแล้ว เท่าที่ผมเห็นคือ ปากบนฉีกต้องเย็บ หน้าผากฟาดกับของแข็งจนปูดถึงขั้นตาบวมปิดไปข้างนึง ตอนนี้รอเอ็กซเรย์สมองอยู่ อ่านแล้วดูแล้วคุณคิดว่าสมเหตุสมผลมั้ย หลานผมเต็มที่ก็แค่ มีความผิดทางคดีวินัยจราจร"

ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจาก เฟซบุ๊กTechnician Dee

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook