นายกจำเป็นใช้กม.ปค.คดียิ่งลักษณ์ยันฟังทุกคนปัดปิดกั้น

นายกรัฐมนตรี จำเป็นใช้ พ.ร.บ.ปกครอง คดีจำนำข้าว 'ยิ่งลักษณ์' ยืนยันฟังทุกคน ปัดปิดกั้นขอลดความแตกแยก

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. กล่าวว่า ในคดีที่รัฐบาลจำเป็นต้องดำเนินการในคดีโครงการรับจำนำข้าวนั้น ไม่สามารถปล่อยไปได้ เนื่องจากมีกฎหมายเกี่ยวข้องกับการละเว้นปล่อยให้มีการกระทำต่างๆ เหล่านั้นเกิดขึ้น ซึ่งมีเวลาที่จำกัดใน 2 ปี ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของตนเองที่จะต้องส่งเรื่องให้ดำเนินการตามมาตรการทางปกครอง ในการเรียกร้องค่าเสียหายจากโครงการดังกล่าว ซึ่งละเว้นไม่ได้ อีกทั้งเป็นกฎหมายเดิม ไม่ได้ใช้กลไกพิเศษ หรือมาตรา 44 อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของตัวเลขที่จะต้องเรียกร้องค่าเสียหายนั้นยังไม่ได้ข้อยุติ เนื่องจากต้องมีการสำรวจให้ชัดเจน เพื่อไม่ให้ถูกกล่าวหาว่าเป็นการกลั่นแกล้ง

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า กรณีที่มีการส่งสารถึงประชาชนนั้นเป็นการชี้แจง เนื่องจากรัฐบาลให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนประเทศในช่วงนี้ โดยยืนยันจะดำเนินการตามโรดแมป และดำเนินการในเรื่องการปฏิรูปในระยะที่ 1 ซึ่งจะมีผลในอนาคตต่อไป โดยเฉพาะการออกกฎหมาย ซึ่งไม่ได้เป็นการเอื้อประโยชน์ให้ฝ่ายใด พร้อมยืนยัน รับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่ายในการทำงาน และขอให้สื่อมวลชนปฏิรูปการเสนอข่าว โดยการสร้างความเข้าใจให้ประชาชนเกิดความรักความสามัคคี ไม่ให้เกิดความขัดแย้ง พร้อมย้ำว่าไม่ได้มีการปิดกั้นการแสดงความคิดเห็น

 

นายกฯไม่รู้มีคปป.ในรธน.ใหม่หรือไม่

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. กล่าวว่า ในเรื่องของร่างรัฐธรรมนูญนั้น ทางคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ หรือ กรธ. จะเอารัฐธรรมนูญในอดีตรวมถึงร่างรัฐธรรมนูญที่ผ่านมา มาศึกษาเพื่อพิจารณาข้อดีข้อเสียต่างๆ ที่สามารถยอมรับได้ ส่วนกรณีที่มีการวิจารณ์คณะกรรมการยุทธศาสตร์การปฏิรูปและการปรองดองแห่งชาติ หรือ คปป.นั้น ยืนยันว่าไม่สามารถไปครอบงำหรือสั่งการรัฐบาลได้ แต่ทั้งนี้ไม่ทราบว่าจะมีในร่างรัฐธรรมนูญใหม่หรือไม่ แต่มองว่าควรมีกลไกสักอย่างหนึ่งที่กำหนดให้ดำเนินการในช่วงเปลี่ยนผ่าน ทั้งนี้ หากร่างรัฐธรรมนูญใหม่ไม่ผ่านการทำประชามติ ก็ต้องหาวิธีการอื่นๆ แต่ยืนยันว่าตนเองไม่ได้อยากอยู่ในตำแหน่งนาน

 

นายกฯระบุสอบสสส.ไม่ตรงวัตถุประสงค์กองทุน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ระบุว่าในกรณีที่ คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) เข้าตรวจสอบการใช้งบประมาณของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ซึ่งพบว่าไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ของกองทุน สสส. หลายโครงการนั้น  เนื่องจากบางโครงการเขียนไว้ไม่ชัดเจน เป็นแค่กรอบกว้างเกินไป แต่ทั้งนี้หากมีความผิด ทาง คตร. ก็ต้องดำเนินการส่งเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในส่วนของเหตุจลาจลที่สถานีตำรวจภูธรถลาง จังหวัดภูเก็ต เนื่องจากมีประชาชนไม่พอใจการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น จะต้องแยกแยะกันระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และกรณีที่มีการทำลายสถานที่ราชการและทรัพย์สิน ซึ่งการไปทำลายทรัพย์สินของทางราชการถือว่าไม่ถูกต้อง